พัฒนาคุณภาพชีวิต ด้วยวิธีพัฒนาตนเองตามแนวคิดคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต

       พัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นวิธีการเรียนรู้ว่าทำอย่างไรถึงจะมีเงินและเวลาควบคู่ไปด้วยกันได้ คุณภาพชีวิตจะพัฒนาให้ดีขึ้นได้ ด้วยการเปลี่ยนแปลง การพัฒนาตนเองและการปรับปรุงตนเอง ด้วยการสำรวจสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เทียบกับเป้าหมายชีวิตที่ตนเองได้คาดหวังเอาไว้ หลังจากนั้นทำการวิเคราะห์ค้นหาช่องว่าง ว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ต้องได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น การรู้ว่าตนเองยังขาดทักษะ ความรู้และความสามารถด้านใด โดยใช้เทคนิคการพัฒนาตนเองคือ ส่งเสริมจุดแข็งให้ได้ขั้นยอดเยี่ยม แล้วค่อยเติมเต็มส่วนที่เป็นจุดด้อยของตนเอง หลังจากนั้นจงจุดประกายความฝันแล้วลงมือทำในสิ่งที่ฝัน

พัฒนาคุณภาพชีวิต

พัฒนาคุณภาพชีวิต

       ประโยชน์หรือสิ่งที่คาดหวังจากการพัฒนาตนเองคือ  การทำให้ตนเองมีความเชื่อมั่นศรัทธาในตัวเอง เพื่อนำใช้ในการเปลี่ยนชีวิตให้ดีกว่าที่เป็นอยู่และไม่ตกอยู่ภายใต้วงจรโครจรแห่งความล้มเหลว แล้วได้ครอบครองคำว่าประสบความสำเร็จในชีวิต

       ความเป็นอยู่ชีวิตของพนักงานประจำ ที่ต้องยอมทนกับสภาพแวดล้อมที่เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความคิดด้านลบ  ตั้งแต่การตื่นนอนตั้งแต่เช้า การกินอาหารด้วยความเร่งรีบ ในระหว่างการเดินทางรถก็ติด เมื่องานที่ทำมีปัญหา เจ้านายตำหนิ ลูกน้องไม่ได้ดั่งใจ พอตกเย็นกลับบ้าน ก็มักจะบ่นที่ทำงานให้คนในครอบครัวฟัง แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี และหลายๆปี  ก็ยังคงทำงานลักษณะเดิมๆ บางครั้งถึงแม้ว่า จะเปลี่ยนแปลงสถานที่ทำงานหรือเปลี่ยนเป็นบริษัทแห่งใหม่แล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงทำงานในลักษณะเดิมที่เคยมีประสบการณ์

       คนทั่วไปที่ล้มเหลวทางการเงิน มักมีชีวิตที่จมอยู่กับความมั่นคงในสายอาชีพ จากที่ได้เล่าเรียน ชีวิตที่ตกอยู่ภายใต้วัฎจักรการทำงานอย่างหนัก แต่ไม่มีความสุข เพราะมีขีดจำกัดด้านรายได้และไม่สามารถแบ่งจัดสรรเวลาได้ คนทำงานประจำโดยส่วนมากจะขาดความรู้ทางการเงิน จึงไม่ได้มีการจัดการทางการเงิน เงินที่หามาได้ก็ไม่เคยนำไปลงทุนต่อ

      คนทั่วไปมักชื่นชอบความสะดวกสบาย จึงชื้อของใช้แบบผ่อนส่ง ทำให้มีหนี้สินเพิ่มขึ้น  เมื่อมีลูกหรือผู้สืบทอดสกุล ก็ไม่สามารถเตรียมความพร้อมให้กับพวกเขาได้  เพราะความรู้ที่มีก็เพื่องาน จึงไม่สามารถสอนความรู้ทางการเงินได้ จึงทำได้เพียงแค่สอนลูกๆว่า เรียนให้สูงๆ นะลูก จะได้มีรายได้มากๆ ชีวิตจึงวนเวียนอยู่กับข้อจำกัดทางด้านการเงิน จึงตกอยู่ภายใต้วัฏจักร ชีวิตแบบมนุษย์เงินเดือนต่อไป

     ผมเคยถามกับตัวเอง ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ซึ่งคำตอบที่สามารถตอบได้ทันที่ นั้นคือความกลัวและความเคยชิน ทำให้เรายึดติดกับความมั่นคง กลัวการเปลี่ยนแปลงและกลัวความล้มเหลว กลัวว่าจะไม่มีเงินจ่ายภาระหนี้สินที่ตนเองได้สร้างเอาไว้เช่น การผ่อนบ้าน รถ  เป็นต้น จึงทำให้ความกล้ามันหายไปจากชีวิต

     พระเจ้าได้มอบพรสวรรค์ให้เราทุกๆคน อย่างเท่าเทียมกันมาตั้งแต่เกิด ซึ่งในช่วงวัยเด็ก เรามักจะมีความฝันมากมาย แต่เมื่อเติบใหญ่ความฝันเหล่านั้น กลับถูกกลืนไปกับกาลเวลาและประสบการณ์ชีวิต ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการพร่ำสอนของพ่อ-แม่ ครูอาจารย์และองค์ความรู้ที่ได้เล่าเรียนจากสถานที่ศึกษาต่างๆ

    เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วสถานศึกษามักจะสอนให้พวกเราร่ำเรียนวิชาการด้านต่างๆ ให้มีความเชี่ยวชาญและเป็นคนเก่ง มีทักษะความชำนาญ  แต่สิ่งที่โรงเรียนไม่ได้สอนคือ เทคนิควิธีการสร้างเงิน การเอาตัวรอดทางการเงินและวิธีพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กลายเป็นคนประสบความสำเร็จด้านการเงินเพื่อการ พัฒนาคุณภาพชีวิต

รู้สึกอย่างไรกับ 4 คำถามต่อไปนี้

  1. รู้หรือไม่ว่า คุณมีเวลาเหลืออยู่บนโลกนี้ เป็นเวลาจำนวนเท่าไร

  2. งานที่ทำอยู่ทำมานานกีปีแล้ว ” เป็นมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานประจำมากี่ปีแล้ว “

  3. แล้วปัจจุบัน มีอะไรบ้างที่เป็นทรัพย์สิน แล้วมีทรัพย์สินอะไรบ้าง ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้เป็นเงินสดได้  คนทั่วไปโดยส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่า หนี้สินเป็นทรัพย์สิน มนุษย์เงินเดือนก็มักเข้าใจอย่างนั้นว่า บ้านและรถยนต์เป็นทรัพย์สิน ซึ่งต้องผ่อนจ่ายค่างวดทั้งรถ บ้านและสิ่งของเครื่องใช้เป็นประจำทุกๆ เดือน  

  4. แล้วถ้าหากคำตอบทั้ง 3 ข้อมันไม่ถูกต้องกับเป้าหมายชีวิต  ขอถามอีกคำว่า แล้วคุณรออะไรอยู่? จงออกจากความกลัวเหล่านั้นแล้วเปลี่ยนเป็นความกล้าหาญ เปลี่ยนความคิด ชีวิตเปลี่ยน   ( พัฒนาคุณภาพชีวิต ให้ดีขึ้น )

          เปลี่ยนชีวิตด้วยวิธีเปลี่ยนแนวคิด เปิดมุมมอง เปิดโลกทัศน์ มองข้ามข้อจำกัดของตนเอง เปิดใจและเปิดโอกาสให้กับตนเอง เริ่มต้นจากความรู้และการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองให้เชื่อมั่นในศักยภาพตนเองแบบเร่งด่วน การสร้างความเชื่อมั่นและความกล้าหาญ

         หากอาชีพเดิมมันไม่สามารถตอบโจทย์ชีวิตได้ จงอย่าจมอยู่กับงานที่มั่นคง ซึ่งเป็นงานที่ใช้แรงเพื่อแลกกับเงินเพียงอย่างเดียว เพราะมันไม่ช่วยทำให้ชีวิตเราดีขึ้น จงกล้าก้าวเดินออกจากดินแดนแห่งความปลอดภัย Safe Zone แล้วไปค้นหาอาชีพใหม่ที่สามารถสร้างเงินสร้างชีวิตได้

     จงค้นหางานที่ทำให้เรามีความรู้รอบด้าน เป็นงานที่สามารถสร้างทักษะ แล้วทำให้เราได้เรียนรู้ทางเงิน หากยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงงานที่ทำได้ จงทำงานด้วยศักยภาพที่มี แล้วค้นคว้าหาความรู้ทางการเงินและการลงทุน ควบคู่ไปกับการทำงานประจำ หลังจากนั้นนำเงินที่ได้จากงานประจำไปลงทุนให้กับตนเอง ด้วยการพัฒนาทักษะด้านการลงทุน การแบ่งเวลาส่วนใหญ่กับการสร้างและลงทุนทรัพย์สิน แล้วให้ทรัพย์สินทำงานแทนเรา ซึ่งหากมีรายได้จากทรัพย์สินมากว่ารายจ่าย แสดงว่านั้นคือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จด้านการเงินและการพัฒนาคุณภาพชีวิต

เทคนิคการ พัฒนาคุณภาพชีวิต ด้วยวิธีพัฒนาตนเองตามแนวคิดคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต

      สิ่งที่ต้องคำนึงถึงการพัฒนา มีปัจจัยที่ต้องพิจารณาด้วยกันสองอย่างคือ 1. ความสามารถของตนเองที่มีอยู่ในปัจจุบันว่ามีจุดเด่นและข้อด้อยอะไร มีความรู้และมีพื้นฐานชีวิตเป็นอย่างไร  2. แล้วสิ่งที่ตนเองมีเหล่านั้น มันสามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่เปลี่ยนไปได้อยู่หรือไม่  เช่นถึงแม้ว่าการเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ และความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เรายังคงสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข

      พัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นการขจัดช่องว่างระหว่างเป้าหมายกับขีดความสามารถของตนเอง ดังนั้นจึงต้องปรับปรุงความรู้ความสามารถ เทคนิควิธีคิดต่างๆเพื่อให้ตนเองมีความสุขจากการดำรงชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้แนวคิดจากคนที่เคยประสบความสำเร็จมาใช้กับชีวิตตน

    คนทั่วไปมักมองเห็นอะไรด้วยสายตา แต่คนที่ประสบความสำเร็จมักจะมองเห็นอะไรได้ จากสิ่งดังต่อไปนี้

พัฒนาคุณภาพชีวิต

            วิสัยทัศน์  คนประสบความสำเร็จกับคนที่ล้มเหลว จะมองเห็นอะไรต่างกัน ” คนประสบความสำเร็จจะไม่มองอะไรใกล้ๆ แต่มักจะมองภาพที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 5 ปี 10 ปี  “ การมองภาพอนาคตเป็นการทำนายสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น การมองหาผลประโยชน์ที่กำลังจะเกิดขึ้น อะไรคือโอกาสและอะไรคือความเสี่ยง เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับตนเอง

          คนที่เป็นเจ้าของบริษัทขนาดใหญ่ๆมักจะมีวิสัยทัศน์หลัก เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนองค์กร  เป็นแนวทางในการกำหนดกลยุทธ์และวิธีในการลงมือทำ เพื่อสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้นกับตนเอง พวกเขาคิดเสมอว่าทุกสิ่งที่ลงมือทำจะไม่ยอมรับอะไรง่ายๆ จนกว่าจะได้รับผลงานชั้นเยี่ยม   สิ่งสำคัญคือ การถ่ายทอดความเชื่อมั่นเหล่านั้นไปยังสู่คนอื่นในทีม เพื่อให้สามารถนำวิสัยทัศน์เหล่านั้นไปปฏิบัติจนประสบความสำเร็จได้ ดังนั้นการใช้ชีวิตจะประสบความสำเร็จได้ ต้องมีวิสัยทัศน์ เพื่อสร้างพลังแห่งความคาดหวังเป็นแรงบันดาลใจและเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเอง

          ทุกอย่างอยู่ที่เป้าหมาย  คนประสบความสำเร็จ มักจะผูกมัดพันธสัญญาไว้กับเป้าหมายเช่น การเอาเป้าหมายไปผูกไว้กับการดูแลครอบครัวให้มีความสุข คนประสบความสำเร็จ มักจะมีความฝันที่ยิ่งใหญ่  การมีเป้าหมายใหญ่ สามารถช่วยสร้างพลังแห่งความคาดหวัง เพราะผลลัพธ์แห่งความสำเร็จจากการคิดใหญ่ มันคุ้มค่าที่จะลงมือทำ

          เป้าหมายคือพลังในการต่อสู้ ไม่ท้อแท้และยอมแพ้อะไรง่ายๆ เพื่อให้ตนเองมีแรงในการเผชิญกับปัญหาอุปสรรค เป้าหมายช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ให้เราสู้และสามารถสร้างแนวคิดเชิงบวกได้ สามารถรับมือกับปัญหาที่เข้ามารบกวน มันเป็นเพียงแค่สิ่งน้อยนิดมาก ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก น้ำท่วม สิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงแผ่นฟิล์มบางๆ ที่กั้นระหว่างความล้มเหลวกับการประสบความสำเร็จ

           เป้าหมายชีวิตและพัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นการวางแผนอนาคตเพื่อมอบสิ่งที่ดีๆ ไว้ให้กับลูกหลาน ช่วยทำให้รุ่นถัดไป ไม่ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่เหมือนกับยุคตนเอง เป็นการวางแผนสืบทอดทายาท การเลี้ยงดูและสร้างพื้นฐานชีวิตให้ลูกหลานแบบมีกินมีใช้ นอกจากนี้คนที่ประสบความสำเร็จมักจะรัก ที่จะให้ความรักทั้งตนเอง ครอบครัวและสังคม

           พัฒนาคุณภาพชีวิตจากจินตนาการเพื่อแรงบันดาลใจ  จินตนาหมายถึงการคาดหวังถึงผลลัพธ์เมื่อได้ลงมือทำจนถึงขั้นสำเร็จแล้วจะได้รับสิ่งประโยชน์อะไรบ้างเช่น เมื่อทำธุรกิจหรือลงทุนจนประสบความสำเร็จแล้ว จะมีเงินซื้อบ้านหลังใหญ่ที่สวยงามและสามารถซื้อรถหรูคันใหม่ได้  มีเงินสามารถตอบแทนผู้มีพระคุณเช่น พ่อ แม่ มีเวลาและสามารถดูแลท่าน เมื่อมีเงินมากๆก็สามารถส่งลูกๆเรียนที่ดีๆได้เช่น เรียนโรงเรียนนานาชาติ แทนที่จะส่งไปเรียนที่โรงเรียนวัดใกล้บ้าน  การมีเงินสามารถพาครอบครัวไปท่องเที่ยวรอบโลกได้ โดยไร้ความกังวลในด้านต่างๆ  เพราะมีอิสรภาพด้านเงินและเวลา

          ภาพแห่งจินตนาของความสำเร็จ จะพลักดันพลังแห่งความเชื่อและศรัทธาในทักษะความสามารถของตนเอง เป็นแรงบันดาลใจ เพื่อลงมือทำสิ่งต่างๆ ด้วยความเพียรพยยามและการต่อสู้กับอุปสรรคปัญหาจนถึงขั้นประสบความสำเร็จในชีวิตได้

            พัฒนาหัวใจนักสู้ ยืนหยัด ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ไม่ว่าจะลงมือทำอะไร ย่อมมีอุปสรรคเกิดขึ้นเสมอ การเริ่มต้นธุรกิจก็เหมือนกัน…ทุกสิ่ง ไม่มีสิ่งมีค่าใด ได้มาโดยง่ายดาย คุณค่าของการแก้ไขปัญหายากคือ ทุกๆ ครั้งที่สามารถแก้ไขปัญหาแล้วได้พบกับความสำเร็จ จะทำให้จิตใต้สำนึกได้เรียนรู้ซ้ำและการสะสมพลังบวก เมื่อพลังเชิงบวกเหล่านั้นไปเข้าสู่จิตใต้สำนึกในปริมาณมากๆ ก็จะสามารถสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ง่ายขึ้น

            หากชีวิตกำลังเผชิญปัญหาอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่และยากลำบาก ให้ยืดหยุ่น  แต่ไม่อ่อนแอ อย่าท้อถอยและอย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆ มนุษย์ทุกคนหากไม่รู้จักกับคำว่าล้มเหลวก็จะไม่สามารถเข้าถึงความสเร็จได้  การพัฒนาคุณภาพชีวิตอยู่ที่ตัวเราเอง จงเรียนรู้จากความล้มเหลว มองหาประโยชน์บนความล้มเหลว พัฒนาสุขภาพจิตด้วยเทคนิควิธีคิดเชิงบวกและการมองโลกในแง่ดีได้

          รางวัลแห่งชัยชนะคือ ความสุข  ซึ่งความสุขที่เกิดขึ้นจากรางวัลแห่งชัยชนะนั้นย่อมน้อยกว่า ความสุขจากการแก้ไขปัญหาใหญ่ๆได้จนประสบความสำเร็จไม่ มันจะสร้างความภาคภูมิใจและความรู้สึกดี ได้ยืนยาว

         พัฒนาพลังแห่งความเชื่อศรัทธา การเชื่อโดยไม่มีความเคลือบแคลงสงสัยใดๆ จะสร้างพลังแรงกายและแรงใจ ในทำงานด้วยความพากเพียร การมีเป้าหมายไว้พุ่งชนจะเป็นเข็มทิศไปสู่จุดมุ่งหมาย  “พลังศรัทธาจะไม่มีวันเสื่อมถอยและเป็นพลังสูดสุดคือ พลังอันเกิดขึ้นจากความเชื่อมั่น จะสามารถกระตุ้นตนเองเพื่อต่อสู้กับความลำบาก”

         พัฒนาคุณภาพชีวิตจากความมุ่งมั่น.  การลงมือทำไปเรื่อยๆ เดินหน้าด้วยกำลังที่ตนเองมี สร้างความก้าวหน้าจากสิ่งง่ายๆ เทคนิคคือการลงมือทำจนเกิดความชำนาญ เพราะความง่ายคือสิ่งที่สามารถสร้างความสำเร็จ คนที่ลงมือทำอย่างต่อเนื่องจะทำให้การลงมือทำครั้งถัดไป มันจะง่ายขึ้น

         จงทำตามวิสัยทัศน์ ให้ทุกเรื่องที่ทำอยู่ที่เป้าหมาย ด้วยวิธีจินตนาการภาพแห่งความสำเร็จ จากสิ่งที่ทำและประสบความสำเร็จแล้วจริงๆ ยืนหยัดอย่ายอมแพ้ ศรัทธาในความรู้ความสามารถทักษะของตัวเราเอง

        สิ่งที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ไม่ได้บูชาเงินเป็นพระเจ้า เพียงแต่อยากจะสะท้อนให้เห็นว่า เงินคือสิ่งชี้วัดความสำเร็จ ของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี  สิ่งถูกซ่อนอยู่ในความสำเร็จคือ เงิน  ให้คิดเชิงบวกและสร้างสรรค์ คนอื่นทำสำเร็จได้ เราก็ทำได้ ถึงเราจะเป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดา ก็สามารถสร้างคุณค่าของคนได้ การมีชีวิตที่ดีในสังคมและ สามารถปรับตัวตามการเปลี่ยนของสังคม เศรษฐกิจและความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้ จึงถือได้ว่าชีวิต ได้รับการ พัฒนาคุณภาพชีวิต ให้ดีขึ้นแล้ว

อยากรวยอ่านต่อ ตอนที่2

 

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *