ไม้ประดับมีพิษ ต้นไม้มงคล ว่านมงคลที่สวยงาม แต่แฝงไปด้วยอันตรายถึงชีวิต

ไม้ประดับมีพิษ

                 เมื่อพื้นป่าเขาและต้นไม้ จากแหล่งธรรมชาติได้ลดลงอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ เพราะมันถูกแทนที่ด้วยสิ่งก่อสร้าง อาคารและตึกใหญ่โต  มนุษย์เราก็พยายามที่จะหวนกลับสู่ธรรมชาติ  จึงได้นำต้นไม้นานาพันธุ์มาปลูกประดับสิ่งก่อสร้างที่แข็งทื่อเหล่านั้น  เพราะต้องการให้บรรยากาศที่พักอาศัยสภาพแวดล้อม ให้ดูกลมกลืนเหมือนอยู่ในป่าที่มีต้นไม้ จะช่วยสร้างความร่มรื่นได้  โดยไม้มงคลว่านมงคลก็นับว่าเป็นพืชที่ได้ความนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ สำหรับการตกแต่งอาคารสถาที่ เพราะนอกจากสร้างร่มเงาและความสวยงามแล้ว ยังสร้างแรงดึงดู สามารถเรียกความสนใจแก่ผู้มาเยือนได้ ต้นไม้มงคลว่านมงคลจึงกลายเป็นมนต์เสน่ห์ และในด้านความเชื่อ มันยังมีพลังแห่งความเป็นสิริมงคลด้านต่างๆเช่น การนำโชคลาภ เสริมบุญบารมี เสริมพลังฮวงจุ้ยเสริมพลังบ้านพักอาศัย ฯลฯ นอกจากนี้ไม้มงคลยังมีประโยชน์อีกมากเช่น สามารถนำมาทำเป็นสมุนไพร ช่วยรักษาโรค บำรุงร่างกาย  บางชนิดมีสารอโรมาเทอราปี (Aromatherapy) ช่วยการผ่อนคลายจากความเครียดนานาชนิดได้เช่น สามารถนำว่านเปราะหอมมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย อโรมา เทอราปี เป็นต้น

                แต่จะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่า ไม้ประดับมีพิษ อันได้แก่ต้นไม้มงคลหรือว่านมงคลบางอย่าง ที่ปลูกอยู่ในบ้านที่พักอาศัยของตนนั้น ถึงแม้ว่าจะดูน่าชื่นชม มีความสวยงาม แต่มันแฝงไปด้วยพิษและอันตราย  จากบางส่วนหรือทั่วทั้งต้นของมัน  ความสวยบางที่มีไว้เพียงแค่จองมอง หากสัมผัสหรือการรับประทานเข้าไป มันอาจทำให้คุณถึงตายได้  โดย ไม้ประดับมีพิษ สามารถแบ่งได้ตามลักษณะการออกฤทธิ์และอาการ ดังนี้

 

พิษต่อหัวใจและเลือด

ไม้ประดับมีพิษ

ได้แก่ รำเพยหรือบานบุรี,  ยี่โถ , ชบา

             ส่วนที่เป็นพิษคือ ทั้งต้น  ออกฤทธิ์  เป็นพิษต่อหัวใจและเลือด เมื่อรับประทานเข้าไป จะมี อาการ  ระคายเคืองเยื่อบุในปากและกระเพาะอาหารก่อน ตามด้วยอาการอาเจียน ท้องเดิน ปวดศีรษะและปวดท้อง ถ้ารับประทานเข้าไปมาก และล้างท้องไม่ทัน สารพิษจะถูกดูดซึมผ่านทางลำไส้และแสดงพิษต่อหัวใจ ซึ่งจะเกิดขึ้นช้าหรือเร็ว ขึ้นกับชนิดของไกลโคไซด์

             วิธีการรักษา  1. นำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด  2. ล้างท้อง  3. รักษาตามอาการ

ระคายเคืองต่อผิวหนัง

ไม้ประดับมีพิษ

ได้แก่ บอนสี  , สาวน้อยประแป้ง,ต้นเศรษฐีวิลสัน

            ส่วนที่เป็นพิษคือ  น้ำยางใส  เมื่อสัมผัสจะ  ออกฤทธิ์ ระคายเคืองต่อผิวหนัง   อาการ  คัน ปวดแสบปวดร้อน อักเสบบวม พองเป็นตุ่มน้ำใส ถ้าโดนตาทำให้ตาอักเสบ อาจทำให้ตาบอดชั่วคราวหรือถาวร   

            วิธีการรักษา  1. ล้างด้วยน้ำสบู่ 2. ทาด้วยครีมสเตียรอยด์ 3. รับประทานยาแก้แพ้ เช่น คลอเฟนนิรามีน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง  4. ถ้ายางเข้าตาล้างตาด้วยน้ำหลายๆ ครั้ง หยอดตาด้วยยาหยอดตาที่มีสเตียรอยด์ แล้วนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว

ระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร

ไม้ประดับมีพิษ

ได้แก่  สาวน้อยประแป้ง

             ส่วนที่เป็นพิษคือ  ลำต้น / ใบ  เมื่อรับประทานเข้าไป  จะออกฤทธิ์ ระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร อาการ  คลื่นไส้ อาเจียน ถ้าได้รับมาก จะกระตุ้นระบบหายใจ แล้วกดการหายใจ ชัก และอาจเสียชีวิต

            วิธีการรักษา  1. ล้างปาก  2. รับประทานยาลดกรดครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะทุก 2 ชั่วโมง อาจให้ยาพวก corticoids  3. หากผู้ป่วยกลืนพิษกลุ่มนี้เข้าไป ไม่ควรทำให้อาเจียน เพราะจะทำให้สารพิษ สัมผัสเยื่อบุปากและคออีกครั้ง 4. ควรส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว เพื่อทำการล้างท้อง 5. รักษาตามอาการ  6. ควรให้อาหารอ่อนจนกว่าอาการจะดีขึ้น

ออกฤทธิ์  พิษอื่นๆ

ไม้ประดับมีพิษ

อันได้แก่  ผกากรองหรือ เบญมาศป่า

           ส่วนที่เป็นพิษ ใบ / ผลแก่ที่ไม่สุก  เมื่อรับประทานเข้าไป  จะมีอาการ:   อ่อนเพลีย กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน มึนงง อาเจียน หายใจลึกแต่ช้า ม่านตาขยาย ตัวเขียว ท้องเดิน หมดสติและตายในที่สุด

วิธีการรักษา  1. ส่งโรงพยาบาลเพื่อล้างท้อง ควรล้างท้องภายใน 3 ชั่วโมง หลังกิน  2. ถ้านานกว่า 3 ชั่วโมง ต้องให้ยา corticosteroids, adrenalin  3. ให้ออกซิเจน และรักษาตามอาการ

ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลและภาพจาก

www. medplant.mahidol.ac.th ,

www .shc.ac.th/learning

บทความที่น่าสนใจ

ต้นเศรษฐีวิลสัน เป็นไม้ประดับและเป็นต้นไม้มงคล แห่งโชคลาภ มีความเป็นสิริมงคล

ต้นเศรษฐีมีทรัพย์ VS มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของโลก จัดอันดับโดย ฟอร์บส์

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *