วิธีลดน้ำหนัก สูตรไม่ลับขั้นตอนการลดความอ้วนด้วยตนเองเพื่อตัวเอง
by
besterlife
·
Published
· Updated
นอกจากความสามารถพิเศษและมันสมองแล้ว คนที่หน้าดีก็เป็นช่องทางของโอกาส เพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าในอาชีพ การทำมาหากิน เพราะคนมีร่างกายเหมาะสมกับสัดส่วน นอกจากดูดี ดูเท่ห์ ดูสง่าแล้ว ยังหมายถึงการมีสุขภาพดี จะเป็นใบเบิกทางและสร้างความประทับใจแรกต่อสายตาคนมองได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าหากรูปร่างคุณไม่เป็นอย่างนั้นแล้วคุณก็ยังตกอยู่ในสภาวะอ้วน ก็อย่าเพิ่งเสียใจ เพราะอ้วนจะกลายเป็นแรงบันดาลใจหรือเป็นความท้าทายกับภาวะทางจิตใจ ในการค้นหา วิธีลดน้ำหนักถาวร เพื่อทำให้คุณกลับกลายเป็นคนหุ่นดีได้
ปัจจุบันมี วิธีลดน้ำหนัก ซึ่งเป็นเคล็ดลับหรือสูตรต่างๆมาก โดยเฉพาะการลดอ้วนแบบเร่งด่วน จะได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่ง เช่นการลดความอ้วนโดยการใช้ยา การอดอาหารหรือสูตรลับอื่นๆ กระแสที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันคือ ” การกินอาหารเสริม ” หลายๆคนอาจจะรู้จริงว่าอาหารเสริมเหล่านั้นประกอบด้วย สารอาหาร สารเคมีหรือตัวยาอะไรบ้าง จึงรู้เพียงแค่ด้านให้คุณประโยชน์ แต่ไม่รู้ผลกระทบด้านที่เป็นโทษเท่าไรนัก
การลดความอ้วนที่ไม่ถูกต้อง จะส่งผลไม่ดีต่อร่างกายแน่นอน เพราะถึงแม้ว่าทำให้เราสามารถลดน้ำหนักลงได้ แต่กลับกลายไปทำร้ายหรือเกิดผลกระทบด้านลบต่อร่างกาย เช่น ปรากฏการ YOYO Effect , โรคประสาท,โรคเครียด, โรคขาดสารอาหาร ฯลฯ
แล้วจะลดอ้วนอย่างไรให้ถูกวิธี?
ก่อนที่จะสร้างความเข้าใจกับการลดความอ้วนอย่างถูกวิธี มาดูตัวอย่างและกลไกลของร่างกายที่ได้รับผลกระทบจากการลดอ้วนอย่างไม่ถูกวิธีดังนี้
วิธีลดน้ำหนักถาวร
กลไกลการทำงานของร่างกายที่ใช้วิธีทานอาหารเสริมแล้วทำให้เราสามารถอดอาหาร เพื่อลดความอ้วน
เมื่ออดอาหาร ผลที่ตามมาคือเกิดความเครียด และความเครียดจะมีผลต่อโฮโมน ที่ชื่อว่าฮอร์โมนคอร์ติซอล Contisol เพิ่มขึ้น และฮอร์โมนเลปติน Leptin ต่ำลง เมื่อ Leptin ต่ำลง จะทำให้การตอบสนองของสมองทำงานได้ช้าลง เมื่อการตอบสนองต่อความรู้สึกต่างๆได้ช้าลง การกินอาหารเข้าไปจะรู้สึกอิ่มก็ต่อเมื่อ กินจนท้องแน่นแล้ว สังเกตได้เวลาที่เรารู้สึกหิวข้าวเป็นเวลานานๆ เราก็จะกินเยอะมาก “ฉะนั้นกรณีที่หิวข้าวมากๆให้เราเคี้ยวข้าวให้นานที่สุด และควรเคี้ยวไม่น้อยกว่า 30 ครั้งแล้วค่อยกลืน”
การอดอาหาร จะทำให้รู้สึกหิวแล้วกินเยอะ เมื่อกินเยอะ จะทำให้ปริมาณอาหารที่สะสมกระเพาะเพิ่มมากขึ้น กระเพาะจะมีการขยายตัว เมื่อเรากินอาหารมากขึ้นก็ทำให้กระเพาะเพิ่มขนาดได้ตลอด เหมือนมียุ้งข้าว ลักษณะนี้เราเรียกว่า โยโย่เอฟเฟค เมื่อรู้สึกว่าการลดความอ้วนไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะกลับไปกินอาหารตามปกติ แล้วก็จะเกิดการสะสมไขมันไว้ตามอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกาย แล้วกลับมาอ้วนเหมือนเดิม การอดอาหารเป็นการลดอ้วนที่ผิดวิธี เป็น วิธีลดน้ำหนัก ที่ทำให้รูปร่างกลับมาแย่เหมือนเดิม
วิธีลดน้ำหนักถาวร สูตรไม่ลับการลดความอ้วนให้มีรูปร่างดี
วิธีลดน้ำหนักหรือวิธีการลดอ้วนต่อไปนี้ จะทำให้ร่างกายได้สัดส่วน มีรูปร่างดีขึ้นเป็นการปรับสมดุลร่างกาย เป็นการลดน้ำหนักที่อาศัยการพึ่งตนเองเพื่อตนเอง ด้วยการออกกำลังกายและการควบคุมปริมาณการบริโภคอาหาร
การบริโภคอาหารคือ การทำให้ร่างกายได้พลังงานและสารอาหารอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ความสำเร็จของการลดน้ำหนักด้วยตนเองต้องอาศัยความมีวินัย หมั่นฝึกฝน และทำอย่างเป็นประจำ จะไม่ทำให้เรากลับมาอ้วนอีกแน่นอน วิธีลดน้ำหนัก ไม่ทำให้เรากลับมาอ้วน วิธีลดน้ำหนักถาวร มีดังนี้
วิธีที่ 1. การลดน้ำหนักหรือการลดความอ้วนแบบ Weighting Maintain เพื่อทำให้ร่างกายปรับสมดุลรูปร่าง มีรูปร่างดี สมสัดส่วน
Weighting Maintain เป็นการรักษาความสมดุลของการกินอาหารและการนำไปใช้งานได้อย่างสมดุล
กินมากกว่า ที่ร่างกายต้องการใช้=อ้วน
กินน้อยกว่า ที่ร่างกายต้องการใช้ = ผอม
กินเท่ากับ ที่ร่างกายต้องการใช้= ปกติหรือเท่าเดิม
ข้อคิด สำหรับคนที่คิดจะลดน้ำหนักหรือสำหรับคนเคยลดน้ำหนัก คุณเคยลดความอ้วนครั้งสุดท้ายเมื่อไร แล้วให้คุณคิดดังต่อไปนี้
-
ลดความอ้วน จะไม่ใช่การลดน้ำหนัก เพราะการลดน้ำหนักที่น้อยก็ยังไม่ทำให้คุณมีรูปร่างดี
-
อยากเป็นคนอยากผอม หรือจะเป็นคนไม่อยากอ้วน เพราะถ้าเป็นคนไม่อยากอ้วน จะทำให้วิธีการกินอาหารของเราเปลี่ยนไป การกินอาหารให้ตักที่ละน้อยๆ กินข้าวโดยใช้ตะเกียบได้ยิ่งดี หรืออาจจะใช้วิธี จานข้าวสำหรับคนผอม โดยให้ใช้จานข้าวให้เล็กลง แล้วแบ่งอาหารเป็นสัดส่วน แต่ต้องให้สารอาหารครบ 5 หมู่ คล้ายลักษณะจานข้าวของทหารคือ ก้นจานข้าวมีลักษณะนูนขึ้น จะได้ดูเหมือนมีอาหารเยอะ สีของจานต้องเป็นสีที่เรียบๆธรรมชาติๆ โดยมีสีไม่ฉูดฉาด เพราะถ้าใช้สีที่มีสีเข้ม จะช่วยทำให้อาหารดูน่ากินแล้วจะทำให้กินได้มากขึ้นกว่าเดิมนั้นเอง และควรใช้จานที่มีสีตัดกับสีของอาหาร เพราะจะช่วยให้มองเห็นสีของอาหารได้ชัดขึ้นและดูเหมือนกับว่ามีปริมาณมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ขั้นตอนที่ 1.1 แล้วเราควรกินอาหารเพื่อให้ร่างกายได้พลังงาน ที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการ ได้อย่างไร
หาค่าอัตราการเผาผลาญพลังงานขั้นพื้นฐาน BMR: Basal Metabolic Rate ซึ่งเป็นการวัดการใช้พลังงานของร่างกาย ในขณะที่ร่างกายมีการหายใจและการไหลเวียนโลหิตที่ทำหน้าที่แบบปกติ ซึ่ง BMR = น้ำหนักของตัวเอง เป็น กก. X 22 จะได้ตัวเลขพลังงานที่ร่างกายกินเข้าไปแล้ว ทำให้เรามีรูปร่างเหมือนเดิม เช่น หากในปัจจุบันเราหนัก 60 กิโลกรัม ค่า BMR = 1320 กิโลแคลอรี่ ต่อวัน
ขั้นตอนที่ 1.2 คำนวณพลังงาน เพื่อการลดน้ำหนัก
หากอยากลดความอ้วน ให้ลดปริมาณพลังงานในอาหารลง ซึ่งการคำนวณหาพลังงานจากปริมาณอาหารที่ควรกินในหนึ่งวัน ด้วยการนำ 60% ไปคูณค่า BMR ที่คิดได้ในขั้นตอน 1.1 แต่ห้ามกินอาหารแล้วให้พลังงานต่ำกว่า 1200 กิโลแคลเลอรี่ เพราะถ้ากินต่ำกว่านั้น จะทำให้ร่างกายไปดึงพลังงานจากกล้ามเนื้อและสมองมาใช้งาน
ยกตัวอย่างเช่น หากในปัจจุบันเราหนัก 60 กิโลกรัม การคิดค่าพลังงานที่จะลดน้ำหนัก = 60 % x 1320 กิโลแคลอรี่ = 792 กิโลแคลอรี่ ต่อวัน แต่ควรลดปริมาณอาหารที่กินไม่ต่ำกว่า 1200 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ฉะนั้นในแต่ละวันเราสามารถลดพลังงานลงได้เพียง 1320-1200= 130 กิโลแคลอรี่ต่อวัน
ดังน้ันประมาณ 53 วัน เราจะสามารถลดน้ำหนักได้ 1 กิโลกรัม เพราะถ้าลดการป้อนพลังงานให้กับร่างกายลดลงได้ 7,000 กิโลแคลอรี่ จะเท่ากับว่าสามารถลดน้ำหนักได้ 1 กิโลกรัม
ขั้นตอนที่ 1.3 การเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ด้วยการออกกำลังกาย
1.3.1 การออกกำลังกายแบบ CADIO จะทำให้หัวใจแข็งแรงและมีอายุยืน เป็นการออกกำลังกาย 5 วันต่อหนึ่งสัปดาห์ ซึึ่งการออกกำลังกายนั้นต้องออกกำลังกายติดต่อกันอย่างน้อย 30 นาที การออกกำลังกายสามารถออกกำลังกายสถานที่ใดก็ได้ ตามที่สะดวก หากเป็นการออกกำลังกายช่วงเช้าได้จะดีที่สุด เพราะการออกกำลังกายวิธีนี้ จะช่วยทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานที่เรียกว่า Fate Burn Zone เป็นช่วงการเผาพลาญของพลังงานที่ดี Maximum Hard Rate และจะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจ อยู่ที่60-80 ครั้งต่อนาที
1.3.2 การออกกำลังกายแบบ Interval Training (การวิ่งหนีเสือ 25 นาที ) ไม่แนะนำสำหรับคนที่กำลังเริ่มต้นออกกำลังกาย วิธีการคือ
-
อบอุ่นร่างกาย Warm Up
-
วิ่งให้เร็วที่สุด 1 นาที
-
วิ่งผ่อนแบบ เหยาะๆ 5 นาที
-
วิ่งให้ได้จำนวน 5 รอบ
วิธีที่ 2. การลดน้ำหนักหรือการลดอ้วนแบบ Weight Training เป็นวิธีลดอ้วนอย่างไรให้มีรูปร่างดี วิธีที่2
เป็นวิธีลดน้ำหนักที่ดาราดังระดับโลกนิยมใช้กัน การลดน้ำหนัก โดยการใช้ร่างกายเผาพลาญพลังงานด้วยตัวของมันเอง ด้วยการสร้างกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้น เรียกวิธีนี้ว่าเป็นการเพิ่มเปอร์เซ็นต์อัตราการเผาพลาญพลังงาน เพื่อไปเผาพลาญไขมันในกล้ามเนื้อ (สังเกตได้จากเนื้อหมูที่ติดมันถ้าเนื้อเยอะไขมันจะน้อย)
เป็นวิธีลดน้ำหนักที่ต้องควบคุมปัจจัยที่มีผลในการลดน้ำหนักอันได้แก่
-
เป็นการออกกำลังกาย ด้วยการทำร้ายกล้ามเนื้อแบบ ดึงๆ หนึบๆ ให้เหมื่อยล้า แต่ไม่เจ็บ (ทำลักษณะตบจูบๆ)
-
การป้อนวัตถุดิบในการซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อ นั้นคือโปรตีน คล้ายๆกับการสร้างบ้านต้องมีปูน โดยร่างกายมีความต้องการโปรตีน 1.5-2 กรัมต่อนำหนักตัว 1 กิโลกรัม ( ถ้าหากไม่สามารถเลือกการกินโปรตีนเพียงพอได้ ยังมีอีกหนึ่งรูปแบบคือ ต้องทำให้น้ำหนักตัวลด) ปกติแล้วลำดับการเผาพลาญพลังงานในร่างกายคือ แป้ง – ไขมัน – โปรตีน
-
การนอนหลับให้ลึก ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ 22.00-2.00 น และต้องนอนในที่มืด ในระดับที่มองหน้ากันไม่ชัด การหลับลึกจะช่วยทำให้สมองสั่งให้ โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ทำการซ่อมแซมและสร้างกล้ามเนื้อที่ถูกทำร้าย โดยมีวัตถุดิบเป็นโปรตีน
หมายเหตุ เมื่อมีการลดน้ำหนักไปพักหนึ่งแล้ว แต่น้ำหนักหยุดนิ่ง ซึ่งเรียกช่วงนี้ว่า พาโต เพีย-เรียด (Pato Period ) สิ่งที่เราต้องทำคือ การเอาชนะ ด้วยการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นเช่น
-
เพิ่มเวลาในการออกกำลังกาย เช่นจาก 30 นาทีเป็น 40 นาที
-
เพิ่มความถี่ในการออกกำลังกายจาก 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็น 4 ครั้งต่อสัปดาห์
-
เพิ่มความหนักในการออกกำลังกายจากวิ่งเหยาะๆ เป็นวิ่งเร็วๆ
-
เมื่อน้ำหนักเริ่มขยับลดลง แล้วสามารถกลับมาออกกำลังกายได้เหมือนเดิม
Related
Tags: ลดอ้วนลดอ้วน อย่างไรให้มีรูปร่างดีวิธีลดความอ้วนวิธีลดน้ำหนัก
You may also like...