การสร้างอำนาจ เพื่อควบคุมพรสวรรค์ ให้อยู่ในวิถีคนที่ประสบความสำเร็จ
คำว่าผู้นำจะต้องมีอะไรที่เหนือกว่าผู้อื่นเสมอ การเป็นผู้นำของโลกและเป็นประเทศมหาอำนาจ ก็จะต้องสะสมความพร้อมทุกๆด้านให้แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ จัดทำระบบการเมืองการปกครองที่ดีเยี่ยมและมีความเสถียรภาพ มีความเข้มแข็งทางด้านทหาร มีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฯลฯ นั้นคือ การสร้างอำนาจ สร้างบารมี
เช่นเดี่ยวกับการเป็นหัวหน้างานหรือเป็นผู้นำคนอื่น ย่อมต้องมีความสามารถและมีทักษะด้านใดด้านหนึ่งมากกว่าคนอื่นๆ จึงจะสามารถสร้างความศรัทธาและสร้างบารมีให้แก่ผู้ตามได้ ผู้นำย่อมมีอำนาจโดยตำแหน่ง แต่จะมีใครสักกี่คนที่สามารถใช้อำนาจของความเป็นผู้นำได้อย่างถูกต้อง
เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นผู้นำหรือการสร้างความสำเร็จในชีวิต จำเป็นต้องพัฒนาตนเอง เพื่อเพิมทักษะการควบคุมคุมพลังอำนาจระดับบุคคล เพื่อสร้างตนเองให้อยู่ในวิถีของคนที่จะประสบความสำเร็จ ด้วยเทคนิควิธี การสร้างอำนาจ และการดึงพลังงานนั้นออกมาใช้งาน
การได้มาซึ่งอำนาจนั้นมักจะแตกต่างกันออกไป โดยสามารถแบ่งประเภทของ อำนาจ ตามแหล่งที่มาได้ดังต่อไปนี้
1) อำนาจจาการครอบครองอาวุธร้ายแรงที่มีพลังทำลายล้างสูง ประเทศมหาอำนาจทั่วโลก มักให้ความสำคัญเพื่อคิดค้นวิจัยและพัฒนา อาวุธ ยุทโธปกรณ์ ยอมทุ่มงบประมาณและทรัพยากรจำนวนมากให้กับสิ่งเหล่านี้ เพราะการสร้างอาวุธที่มีพลังทำลายล้างสูง จะสร้างความเกรงกลัวจนไม่มีใครต่อกรได้ ประเทศนั้นจะเป็นผู้นำเพียงหนึ่งเดียวของโลก
2) อำนาจจากครอบครองทรัพย์สมบัติที่มีมูลค่าสูง เงินทอง แร่ธาตุ ที่ไม่สามารถหาได้ที่ใดในโลก ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินทางเป็นธรรมชาติ หรือเป็นทรัพย์สมบัติสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี
3) อำนาจ อันได้มาจาการแต่งตั้ง เป็นอำนาจได้มาโดยหน้าที่ การได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าผู้บังคับบัญชา ซึ่งขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละบุคคล ซึ่งการใช้อำนาจจะเป็นประโยชน์ได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับ คุณสมบัติของผู้นำคนนั้น การเป็นผู้นำที่ดี เป็นผู้นำที่มีภาวะผู้นำสูง มีจริยธรรมสูง มีความยุติธรรม มีบารมี ก็จะเป็นผู้ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำ
4) อำนาจ อันเกิดจากความรู้ความสามารถ ทักษะพิเศษขั้นสูง หรือ อำนาจระดับบุคคล เป็นอำนาจอันเกิดจากความศรัทธาและเชื่อมั่นในตนเอง เชื่อว่าคนที่มีทักษะ มีความสามาถจะทำสิ่งต่างๆให้บรรลุและสร้างความสำเร็จได้ ก็จะกลายเป็นบุคคลที่มีคุณค่าในระดับกลุ่มองค์กร ระดับประเทศ จนถึงระดับโลกได้ ในอดีตประเทศต่างๆ กลัวชาวยิวมาก เพราะชาวยิวมียีนแห่งความเป็นอัจฉริยะ มีความฉลาดปราญเปลื่อง ซึ่งเป็นหัวใจในการพัฒนาคิดค้นสิ่งใหม่ๆ อำนาจที่เกิดขึ้นจากความฉลาดพรสวรรค์และความรู้ จะเป็นปัจจัยพื้นฐานในการครอบครองแหล่งที่มาของอำนาจทุกๆด้าน ถึงแม้ว่าพรสวรรค์ของคนเราไม่เท่ากันแต่พระเจ้าได้มอบพรแสวงให้คนเรามาเท่าๆกัน
การสร้างอำนาจ ระดับบุคคล ซึ่งเป็นการพัฒนาปรับปรุงตนเอง มันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจากยีนหรือพรสวรรค์เท่านั้น แต่ความรู้ทักษะเกิดขึ้นจากความขยันหมั่นเพียร การศึกษาค้นคว้า แล้วนำความรู้ที่ได้ไปฝึกฝนจนกลายเป็นคนที่มีทักษะขั้นสูง เป็นวิธีประยุกต์องค์ความรู้ที่มีไปทดลองกับของจริง เป็นการเรียนรู้ซ้ำและทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม
การสร้างอำนาจ ด้านความรู้ถือเป็นการลงทุนที่ต่ำสุด แต่ได้รับประโยชน์สูงสุด โดยมีข้อดีคือไม่มีใครสามารถครอบครององค์ความรู้ที่เรามีได้ แต่เราสามารถถ่ายถอดองค์ความรู้เหล่านี้ไปยังผู้อื่นได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งถ่ายทอดให้ผู้อื่น ยิ่งเข้าใจองค์ความรู้นั้นมากขึ้น นอกจากนี้การให้ถือว่า ได้สะสมบุญบารมีและกลายเป็นที่ยอมรับของคนอื่น ความสำเร็จของการถ่ายทอดความรู้เช่น จำนวนคนที่สามารถประสบความสำเร็จได้จากความรู้ที่เราสอน การมีความสุขและมีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
เทคนิคการพัฒนาตนเองเพื่อ การสร้างอำนาจ การควบคุมพรสวรรค์ให้กลายเป็นคนฉลาด จากแนวทางของคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมีดังนี้
1. การสร้างวุฒิภาวะนั้นคือ ความเป็นตัวตนเอง การเอาชนะตนเองเพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นจาก สิ่งยั่วเย้าต่างๆ โดยไม่ใช้อารมณ์ แต่จะต้องใช้เหตุผลและวิจารณญาณในการตัดสินใจ เทคนิคการพัฒนาวุฒิภาวะแบ่งออกเป็น 3 ด้านด้วยกันคือ
1.1) การเอาชนะตนเอง คือความสามารถในการเอาตัวรอดและการพึ่งพาตนเองได้ ความสามารถในการสร้างวิธีเพื่อโน้มน้าวตนเอง ให้คิดลงมือทำด้วยความกระตือรือร้น ( คนที่สามารถสร้างแรงกระตุ้นให้กับตนเองได้ย่อมเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ และไม่มีใครทำร้ายเราได้ นอกจากตัวเราเอง)
วิธีการเรียนรู้ จากการลงมือทำในสิ่งที่ยังไม่เคยทำ เป็นการสร้างองค์ความรู้ใหม่ หลังจากนั้นทักษะจะเกิดขึ้นจากการหัดจนทำให้เกิดความชำนาญ “ การมุ่งสู่ความเป็นเลิศในด้านใดด้านหนึ่ง ใช้เทคนิคแนวคิดการโฟกัสในเรื่องสำคัญและการใช้จินตนาผลลัพธ์แห่งความสำเร็จ การสร้างแรงกระตุ้นทางความคิดว่าสิ่งที่ทำต้องเป็นที่หนึ่งเสมอ ผลลัพธ์ความสำเร็จที่กำลังจะเกิดขึ้น คือสิ่งที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ ”
สิ่งแรกที่ควรเริ่มต้นคือ การกำหนดเป้าหมายชีวิต โดยอาศัยหลัก SMART คือ ชี้เฉพาะเจาะจง วัดได้ มีความเป็นไปได้ สามารถทำให้สำเร็จได้ และควรกำหนดกรอบเวลาให้ชัดเจน
วิธีสร้างจินตนาการ ด้วยการเขียน Mind Map เพื่อความสัมพันธ์การคิดบวกเชิงสร้างสรรค์ ด้วยการโยงใยผลลัพธ์ของเป้าหมายในอนาคตกับความเป็นจริงในปัจจุบัน สร้างวิสัยทัศน์ Mission หลังจากนั้นกำหนดแผนงานและยุทธศาสตร์ การลงมือทำด้วยความเพียรอย่างตั้งใจ อย่าท้อแท้ต่อปัญหาอุปสรรค ทำในสิ่งที่สำคัญและเร่งด่วนก่อนเสมอ
1.2 เทคนิคการสร้างชัยชนะในสังคม ( ให้คิดแบบ ชนะ-ชนะ Win-Win ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ทั้งคู่) การคิดแบบเป็นผู้ชนะเพียงฝ่ายเดียว จะทำให้ตนเองกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว มีมุมมองเพียงด้านใดด้านหนึ่งในที่สุดจะเสียโอกาสแทนที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด
เทคนิค Think win-win คือ การตั้งใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น ฟังอย่างตั้งใจ แสดงความเห็นอกเห็นใจรู้การให้อภัยตนเองและผู้อื่น โดยมองเป้าหมายของทีมที่ตั้ง ผนึกพลังประสานความร่วมมือในด้านต่าง ร่วมกันรับผิดชอบแก้ไข ( วิธีคิดคือ อยากให้คนอื่นเข้าใจตนเอง ตัวเราเองต้องเข้าใจคนอื่นก่อน อยากได้ยินคำพูดจากคนอื่นแบบใด จงพูดในสิ่งที่เราอยากได้ยินจากคนอื่นก่อนเสมอ ) ฝึกใช้ความคิดเชิงบวก รู้จักวิธีการจับประเด็น ฝึกสมาธิด้วยการจดจ่ออย่างแน่วแน่ ฝึกทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ให้ความร่วมมือกัน มองหาจุดเด่นของแต่ละคนในทีม
1.3 การลับเลื่อยให้คม เป็นการตอกย้ำความสำเร็จให้กับจิตใต้สำนึก ด้วยการหมั่นฝึกฝนการใช้ทักษะในด้านต่างๆ ทั้งการเคลื่อนไหร่างกาย ฝึกการใช้สติปัญญาและจิตวิญญาณ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้รู้ ปราชญ์ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความสามารถ ควรทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วเสมอ อย่าคิดว่าตนเองชำนาญที่สุดเพราะจะเป็นการปิดกั้นตนเอง
2. รู้คุณค่าในตัวเอง Self Esteem คือ การสร้างความเชื่อมั่นและความศรัทธาในตนเอง เชื่อว่าตนเองมีทักษะและความสามารถจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จได้ จะสามารถสร้างกำลังใจในการฝ่าฟันอุปสรรคปัญหา เป็นวิธีการสร้างพลังจากจิตใจประกอบด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
2.1. มองโลกในแง่ดีเสมอ สามารถผลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ กฎธรรมชาติที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ในโลกธรรมว่า เมื่อมีความมืดย่อมมีความสว่าง มีร้ายก็ย่อมต้องมีสิ่งดี และขาวย่อมแตกต่างจากดำ การจะประสบความสำเร็จได้ต้องได้บทเรียนจากความล้มเหลวเสมอ
2.2. ควรประเมินให้ตนเองเป็นคนที่คุณค่าอยู่เสมอ วิธีคิดคือในขณะที่กำลังเผชิญกับความโชคร้าย ให้มองคนที่มีชีวิตเลวร้ายมากกว่าเรา
2.3. การสร้างความเชื่อมั่นในความสามารถตัวเอง คือการคิดว่า คนอื่นทำได้ เราต้องทำได้
2.4. จงมองว่า ตัวเราคือส่วนสำคัญของชีวิต จะเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นหรือแย่ลงอยู่ที่ตนเอง
3. การพัฒนาเชาวน์อารมณ์ (EQ) คือความสามารถในการควบคุมอารมณ์ได้ ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการลงมือทำสิ่งใดๆ ด้วยการใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ การเป็นคนที่อยู่นอกเหนือเหตุและผล จะเผลอลงมือทำในสิ่งที่ไม่ดีได้ จะส่งผลทำให้เกิดความผิดพลาดอันเลวร้าย และติดลบในสายตาของคนอื่น
วิธีการแก้ไข ด้วยการฝึกสมาธิเพื่อให้ตนเองใจเย็นขึ้น คนมีสมาธิมักจะไม่วอกแวกและคล้อยตามอารมณ์แห่งความโกรธ ความคับข้องใจ ความรู้สึกจากแรงกดดัน การฝึกฝนให้เป็นคนมีที่สติ รู้ว่าอะไรเป็นอะไร การฝึกใช้สติปัญญาในการตัดสินปัญหาทุกปัญหา ด้วยวิธีการค้นเหตุและปัจจัยของปัญหา เพื่อนำไปสู่หนทางแห่งความสำเร็จ
ควรเชื่อมั่นและศรัทธาในสิ่งที่ถูกต้อง เชื่อในเรื่องของการทำกรรมดีและรู้จักการยืดหยุ่น รู้ว่าไม่สามารถทำอะไรที่เป็นปัญหาให้บรรลุความสำเร็จได้ ควรปล่อยวางเพื่อขจัดความเครียด แล้วจึงค่อยเริ่มต้นกับโอกาสใหม่ๆ
4. ลดละเลิกนิวรณ์ทั้ง 5 1) เลิกลังเลสงสัย ในความสามารถของตนเอง ต้องเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ตนเองทำอยู่สามารถประสบความสำเร็จได้ 2) ลดความอยากมีอยากได้จนเกินเหตุ ความอยากถือเป็นเรื่องสำคัญเป็นวิธีสร้างแรงปรารถนาอันแรงกล้า แต่ถ้ามากเกินจะทำให้ตนเองไร้ซึ่งสติ 3) ลดความลุ่มหลงในกามตัณหา เพราะจะนำมาซึ่งความวิบัติ เป็นการตอบสนองทางด้านอารมณ์อยากได้สิ่งของคนอื่น จงพอใจในสิ่งที่มีอยู่ รักเดียวใจเดียว 4) ขจัดซึ่งความโกรธเกลียดอาฆาตพยาบาท ด้วยการให้อภัย จะทำให้ความสุขเกิดขึ้นได้ จะมีบุญบารมีเกิดขึ้นภายในใจ 5) ขจัดคำว่าความเบื่อหน่ายเซ็งชีวิต ฟุ้งซ่าน รำคาญใจ เป็นสิ่งที่ทำให้ตนเองมีชีวิตไร้เป้าหมาย ไม่มีความมุ่งมั่นใดๆ
5. พัฒนาคุณภาพจิตให้สูงขึ้น ด้วยการเจริญสมาธิแบบอานาปานสติ เป็นวิธีที่ทำให้ตนเอง รู้เท่าทันอารมณ์จากการเปลี่ยนแปลงของจิตใจ ทำจิตใจให้ผ่องใสและสบาย พูดอย่างคนมีสติ ฟังอย่างผู้ดี ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ คิดก่อนที่จะพูด
การเพิ่มพลังให้เกิดขึ้นจากตนเองด้วยวิธีการสร้างอำนาจ ให้เกิดขึ้นกับตนเอง จากความรู้ การเรียนรู้อำนาจควบคุมตนเอง เพื่อดึงพลังจากจักรวาลมาไว้ที่ตนเอง แล้วนำพลังแห่งความเชื่อ ความศรัทธา เพื่อพัฒนาศักยภาพ ทักษะ ให้สามารถเอาชนะปัญหาอุปสรรค มีเป้าหมายตัดสินใจ มีกลยุทธ์และแผน ก่อนการลงมือทำจนประสบความสำเร็จ เพื่อให้ตนเองมีคุณภาพชีวิตที่ดี จากความรู้มีความสามารถคืออำนาจแห่งตน พลังจิตจักรวาลคือพลัง อำนาจ เหนือสิ่งอื่นใด
บทความที่น่าสนใจ การสร้างแรงบันดาลใจเพื่อ การเปลี่ยนแปลง