การดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ ดื่มอย่างไรให้สุขภาพดีและร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด

        น้ำนับได้ว่า เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งมีชีวิต ทุกๆชีวิตก็ว่าได้ นับตั้งแต่สิ่งมีชีวิตขั้นต่ำสัตว์เซลล์เดียว ซึ่งถ้าหากพวกมันขาดน้ำพวกมันก็ตาย เช่นเดียวกันกับการมีชีวิตของมนุษย์อย่างเรา  โดยที่ร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นองค์ประกอบในรูปแบบต่างๆมากที่สุดถึง 70 เปอร์เช็นต์ด้วยกัน และน้ำยังทำหน้าที่และมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากเช่น เป็นตัวกลางหรือเป็นสารละลายของทุกๆเรื่องในร่างกายเช่น การนำพาสารอาหารและสารสื่อประสาท ฮอร์โมน สารแอนตี้บอดี้ เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด  เม็ดเลือดแดง เพื่อส่งไปยังเซลล์ ซึ่งที่เป็นส่วนที่เล็กมากในร่างกายมนุษย์  และเมื่อเซลล์ตามอวัยวะต่างๆได้รับอาหารแร่ธาตุต่างๆอย่างเพียงพอก็จะทำให้มันแข็งแรง เราก็จะมีสุขภาพดี

        ดังนั้นการดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ จึงถือได้ว่าเป็นเรื่องที่เราควรใส่ใจ การดื่มน้ำดี ใสสะอาด ไม่มีสารเคมีตกค้าง อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ดีและการดื่มน้ำดีต้องเพียงพอต่อความต้องการ จะช่วยทำให้ระบบการทำงานเซลล์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงส่งผลให้เนื้อเยื่อและระบบการทำงานต่างๆของร่างกาย ทำงานได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ร่างกายก็จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการดื่มน้ำ

      การดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ

 ผลเสียการดื่มน้ำน้อยและการดื่มน้ำผิดวิธี นอกจากไม่มีประโยชน์แล้วแถมยังมีโทษต่อร่างกาย

      ผลจากงานวิจัยของผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนการ ดร.ทอม อู๋ ค้นพบว่า การดื่มน้ำไม่เพียงพอ จะทำให้เลือดข้นไม่สามารถขับสารพิษหรือเซลล์ที่ตายได้หมด แล้วยังอาจทำให้เซลล์ที่ตายมีการสะสมในร่างกาย เมื่อระยะเวลาผ่านไปนานเข้าจะทำให้ เซลล์ที่ตายกลายเป็นมะเร็งได้

      เมื่อเลือดข้นปัญหาที่ตามมาคือ ระบบลำไส้มีปัญหา เมื่อลำไส้ผิดปกติก็จะทำให้ระบบสารสื่อประสาทมีปัญหาตามไปด้วย เพราะลำไส้เป็นศูนย์กลางระบบประสาทหรือเป็นสมองแห่งที่ 2 ก็ว่าได้  โดยลำไส้ทำหน้าที่ที่สำคัญมากคือ การผลิตสารสื่อประสาท  นอกจากนี้การที่น้ำเลือดข้น ร่างกายจะสั่งให้สำไส้ใหญ่ ดึงน้ำที่ผ่านการย่อยแล้วนำไปใช้อีก ก็ส่งผลทำให้เกิด อาการท้องผูก เมื่อท้องผูกบ่อยๆ ก็อาจจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งของมะเร็งในลำไส้ใหญ่ได้

      ผลกระทบที่เกิดจากเลือดข้นที่กลายเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพคือ การส่งสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆได้ไม่ดี จึงส่งผลทำให้เซลล์ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอและเมื่อเซลล์ไม่สามารถสร้างพลังงานได้เพียงพอ  ก็จะทำให้เซลล์ตาย ถ้าหากมีเซลล์ตายเกิดขึ้นบริเวณใด บริเวณนั้นก็จะมีความผิดปกติเกิดขึ้นเช่น หากเกิดขึ้นบริเวณที่ผิวหนังๆก็จะเหี่ยวย่น เกิดฝ้าจุดด่างดำ  หรือหากมีเซลล์ตายเกิดภายในอวัยวะต่างๆของร่างกาย อวัยวะนั้นก็จะเกิดการอักเสบ เป็นฝีหนองหรืออาจ ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้

      เมื่อดื่มน้ำน้อยมีผลต่อประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคหรือการต่อต้านโรค ทำให้การสร้างภูมิต้านทานโรคต่ำลง เพราะการนำพาเม็ดเลือดขาวไปต่อต้านกับเชื้อโรคต่างๆ นั้นทำได้ช้าลง ถ้าเราป่วยเป็นไข้ก็จะหายได้ช้า ซึ่งปกติแล้วในขณะที่เราเป็นไข้  แพทย์ก็มักจะแนะนำให้เราดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยในการขับเชื้อโรคไปกำจัดได้ดีขึ้น  การดื่มน้ำมากๆยังช่วยลดการทำของอวัยวะบางอย่างเช่น ตับ เป็นต้น

 การดื่มน้ำและเครื่องดื่มบางอย่างที่มีผลต่อการสูญเสียปริมาณน้ำที่สะสมในร่างกาย มีดังต่อไปนี้

      1) การดื่มกาแฟ 1 แก้ว จะทำให้ เราสูญเสียน้ำที่สะสมในร่างกายมากถึง 3 แก้ว

      2) การดื่มน้ำชา 1 แก้วจะทำให้ เราสูญเสียน้ำที่สะสมในร่างกายมากถึง 2 แก้ว

      3) การดื่มไวน์ 1 แก้วจะทำให้เรา สูญเสียน้ำที่สะสมในร่างกายมากถึง 6 แก้ว

     ดังนั้นเมื่อเราดื่มเครื่องดื่มจำพวกดังกล่าว จะยิ่งทำให้ร่างกายต้องการน้ำที่สะอาดมากยิ่งขึ้น เพื่อจะได้ไปชดเชยน้ำที่สะสมในร่างกาย และเป็นการปรับสมดุลน้ำในร่างกายให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติได้อีกครั้ง

ข่าวร้ายเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำดื่ม

           เมื่อความต้องการมนุษย์มีมากขึ้น จึงมีความต้องการสูงขึ้นตามลำดับ อันได้แก่ ความสะดวกสบาย จากต้องการความหลากหลาย และเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการ มนุษย์จึงประดิษฐ์คิดค้นอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องทุ่นแรงต่างๆ  เพื่อการเสาะหาวัตถุดิบต่างๆมาใช้ เป็นส่วนประกอบสิ่งของต่างๆอาจจะเป็นการสังเคราะห์ขึ้น หรืออาจจะได้จากการทำลายธรรมชาติ  ตั้งแต่บนพื้นดินได้แก่พืช ต้นไม้  หรือแม้แต่ในดินใต้ดิน ด้วยการขุดเจาะ ค้นหาแร่ธาตุ ก๊าชธรรมชาติและแหล่งพลังงานต่างๆจากฟอสซิล  แล้วนำวัตถุดิบเหล่านั้นมาผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ หรือแม้แต่การเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์เอง มนุษย์ยังต้องการผลผลิตในปริมาณมากๆ จึงจำเป็นต้องใช้สารเคมีมากมาย

       จากกิจกรรมของมนุษย์กลายเป็นต้นเหตุของการทำลายสภาพแวดล้อม  ทำให้เกิดมลพิษต่างๆ โดยเฉพาะการปลดปล่อยมลพิษ ตัวอย่างเช่นการสร้างรถยนต์ที่มีความรวดเร็วสะดวกสบายในการเดินทาง แต่ก็มักจะปล่อยควันพิษจากไอเสีย หลังจากนั้นเมื่อฝนตกน้ำที่ไหลผ่านอากาศก็ย่อมรับเอาก็าชไอเสียในอากาศต่างๆมาสู่พื้นดิน  ยังมีโรงงานอุสหกรรมการผลิตที่ผลิตสินค้าออกมามากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค แต่ก็มีโรงงานบางแห่งที่มักง่าย ชอบละเลยความรับผิดชอบ จะปล่อยมลพิษออกมาลายสิ่งแวดล้อมเช่น การปล่อยควันพิษไปในอากาศโดยไม่ผ่านการบำบัด การทิ้งกากอุตสาหกรรมลงในแม่น้ำลำคลอง หรือแม้แต่การกำจัดขยะ การฝังกลบขยะอุตสาหกรรมบนพื้นดินที่ไม่ถูกวิธี  จากกิจกรรมเหล่านี้เองย่อมส่งผลกระทบต่อคุณภาพของน้ำทั้งสิ้น ตรงกันข้ามกับยุคอดีตที่น้ำฝนนั้นถือได้ว่า เป็นน้ำที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ปราศจากก๊าชพิษสามารถดื่มได้  แต่ปัจจุบันพบว่า น้ำฝนไม่เป็นน้ำดื่มที่สะอาดอีกต่อไป เพราะอากาศเต็มไปด้วยควันพิษ และเขม่าสารพิษ

       แม้แต่แหล่งน้ำดิบตามธรรมชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำ ห้วยหนอง คลองบึง ก็มักจะเต็มไปด้วยสารเคมี แร่ธาตุที่เป็นโทษต่อร่างกาย ร่วมถึงเชื้อโรค เชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ จากการเลี้ยงสัตว์ที่ไม่ถูกต้องเช่น เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง เลี้ยงโค กระบือในทุ่งนา ตามหนองน้ำและการใช้สารเคมีของภาคการเกษตรมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

       นอกจากนี้น้ำที่อยู่ใต้ดินหรือน้ำบาดาลโดยส่วนใหญ่ก็มักจะมีปัญหา เป็นน้ำกระด้างมีหินปูนเป็นปริมาณมาก ไม่สามารถดื่มได้ ดังนั้นก่อนที่จะดื่มน้ำในปัจจุบัน ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เราจะได้รับสิ่งที่เป็นโทษเข้าไปในร่างกายเป็นประจำ  ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานลดลง ร่างกายจึงเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

      ดังนั้นเราควรหันมาใส่ใจเรื่องการดื่มน้ำให้ถูกวิธี ให้มากขึ้น เพื่อสร้างสุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัย

    การดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ ดื่มน้ำอย่างไรให้สุขภาพดี เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด

1. ควรดื่มน้ำอย่างน้อยให้ได้ประมาณ 2 ลิตร หรือประมาณ 8 แก้วๆละ 250 ซีซีต่อวัน แต่ทั้งนี้การดื่มน้ำ ของแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการใช้งานของน้ำที่สะสมในร่างกายเช่น คนที่ทำงานกลางแจ้ง คนที่ออกแรงมาก หรือคนที่ออกกำลังกายหนัก จำเป็นต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ ต่อความจำเป็นของ่างกาย เพื่อให้น้ำที่สะสมในร่างกายกลับมาสมดุลเป็นปกติ

2. การดื่มน้ำ ควรจิบทีละน้อย เพื่อให้เซลล์ในร่างกาย สามารถดูดซึมและนำน้ำไปใช้ได้ทัน แต่ก็ไม่มีผลร้ายใดๆเกิดขึ้นหากเราดื่มน้ำครั้งละมากๆ  เพียงแค่เราต้องขยันมากยิ่งขึ้น เพราะอาจจะปัสสาวะบ่อยขึ้นเมื่อดื่มน้ำครั้งละมากๆ   เกิดประโยชน์ได้น้อยกว่าจิบทีละเล็กละน้อยๆแต่บ่อยครั้ง เพราะการจิบน้ำที่ละน้อยๆแต่บ่อยครั้งจะทำให้ร่างกายได้รับน้ำได้เพียงพอมากกว่า

3. น้ำดื่มต้องมั่นใจได้ว่าเป็นน้ำที่สะอาด ปราศจากสิ่งที่เป็นโทษ ไม่ว่าจะเป็นความไม่ปลอดภัยทางกายภาพเช่น กรวดหิน ดิน ทราย เศษพลาสติกต่างๆ ความไม่ปลอดภัยด้านจุลินทรีย์หรือเชื้อที่ก่อให้เกิดโรค เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย เป็นต้น และความไม่ปลอดภัยด้านสารเคมี ยาฆ่าแมลง ยาปราบศัตรูพืช โลหะหนักต่างๆ

4. การดื่มน้ำด่าง เพื่อปรับสมดุลความเป็นกรดด่างในร่างกายถือว่าเป็นสิ่งดี เพราะปกติในมื้ออาหารเรามักจะ บริโภคอาหารกรดมากเกินไปเช่น กินก๋วยเตี๋ยวใส่น้ำส้มสายชู  แต่การดื่มน้ำด่างบ่อยๆ และติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ก็ไม่เป็นการดีต่อร่างกายเช่นกัน  เพราะจะทำให้อาหารไม่ย่อย ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และอาจจะทำให้เราแก่เร็วขึ้น

5. น้ำดื่มที่ดีต้องประกอบไปด้วยแร่ธาตุ อิเล็กโทรไลต์และเกลือแร่ด้วย เพราะจะทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำได้ดียิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพดีขึ้น เพื่อให้ปริมาณของน้ำที่ดื่มเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

6. หากจำเป็นต้องซื้อน้ำดื่ม  ควรตรวจสอบแหล่งที่มา  สถานที่ผลิตและการได้รับการรับรองจากสถาบันต่างๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเป็นน้ำที่เหมาะสมกับการบริโภค

7. หากจะเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ สำหรับติดต้ังไว้ในบ้าน ก็ควรพิจารณา ประสิทธิภาพการกรองสารเคมี การกำจัดเชื้อโรค และยังคงเหลือรอดของแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย และได้รับเครื่องหมายรับรอง จากสถาบันที่ได้รับการยอมรับของประเทศ ของโลก

8. เคล็ดลับในการดื่มน้ำเพื่อเผาผลาญแคลอรี่ การดื่มน้ำในปริมาณที่มากพอ จะช่วยในการเผาผลาญอาหาร และการดื่มน้ำเย็นจะสามารถเพิ่มความเร็วในการเผาผลาญอาหาร จากผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยยูทาห์ ค้นพบว่า การดื่มน้ำ 8-12 แก้วต่อวัน สามารถเผาผลาญแคลอรี ได้มากกว่าคนที่ดื่มน้ำเพียงแค่ 4 แก้วต่อวัน จากการศึกษายังพบว่า น้ำเย็นที่ดื่มเข้าไปยังสามารถช่วยในการเผาผลาญแคลอรี ได้อีก 4-7 แคลอรี่เพราะการปรับสมดุลในร่างกายให้อุ่นขึ้นจนเป็นปกติ ถ้าดื่มน้ำ 8 แก้วใน 1 วัน สามารถช่วยในการเผาผลาญสารอาหาร 56 แคลอรี่

  ประโยชน์ของ การดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ

        เพียงแค่การดื่มน้ำอย่างถูกวิธีและเพียงพอ จะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์ดังต่อไปนี้

   1. ช่วยทำให้ความเข้มข้นของเลือดลดลง เพราะเลือดที่เป็นตัวกลาง นำสารอาหาร สารสื่อประสารท ฮอร์โมน ต่างๆไปเลื้ยงเซลล์ต่างๆได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นจะทำให้เซลล์แข็งแรง เมื่อเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆแข็งเรง ทำให้อวัยวะต่างๆ จะทำงานสัมพันธ์กัน มีภูมิต้านทานโรคมากยิ่งขึ้น จึงเป็นผลดีต่อร่างกาย อัตราการเกิดโรคต่างๆของเราก็จะลดลง

   2.การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ จะทำให้ร่างกายสามารถรักษาตนเองได้ ในช่วงเวลาที่เป็นไข้การดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะสามารถช่วยให้ไข้ลดลง ร่างกายสามารถฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้น

  3. การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ จะช่วยทำให้เราสดชื่นขึ้น เพราะจะทำให้ฮอร์โมนต่างๆทำงานได้อย่างสมดุล โกรทฮอร์โมนทำงานปกติ เมื่อโกรทฮอร์โมนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ร่างกายก็จะได้รับการซ่อมแซม การเกิดโรคเสื่อมของร่างกายก็จะเกิดขึ้นได้ช้าลง

  4. การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ สามารถชะลอความแก่ของเราได้ เพราะถ้าเซลล์แข็งแรง จะเกิดการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน เซลล์ที่ได้รับบาดเจ็บ ก็จะได้รับการซ่อมแซม ตัวเซลล์ที่ตายก็จะถูกกำจัดออก

  5. การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ จะทำให้สมองทำงานได้ดี อันเนื่องมาจากประสิทธิภาพการทำงานของลำไส้ทำงานได้ดี ลำไส้ก็จะสามารถสร้างสารสื่อปะสาท ซึ่งเป็นฮอร์โมนต่างๆ ทำงานเป็นปกติ การติดต่อสื่อสารของสารประสาททำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

  6. การดื่มน้ำอย่างเพียงพอสามารถ ลดความอ้วนได้ สังเกตง่ายๆ ถ้าเราดื่มน้ำอย่างเพียงพอ จะทำให้เรากินได้ข้าวน้อยลง และการดื่มน้ำให้อิ่มจะสามารถลดความหิวลงได้

  7. การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ จะทำให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งกระด้าง

  8.การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ลดโอกาสการเกิดโรคเสื่อม โรคมะเร็ง เบาหวานได้

  9. การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ลดการเป็นมะเร็งในลำใส้

   10. การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ จะไม่มีอาการท้องผูก หากใครท้องผูก ไม่ถ่ายอุจาระติดต่อกันมาหลายวัน ให้นำเทคนิคการดื่มน้ำให้มาก มาประยุกต์ใช้  วิธีการคือ ภายหลังจากการตื่นนอน โดยยังไม่ต้องแปลงฟัน ให้ดื่มน้ำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยดื่มน้ำให้ใด้ประมาณสัก 1 ขวด 1500 ml หลังจากนั้นไม่เกิน 10.00 น.คุณจะถ่ายอุจจาระแน่นอน เป็นเคล็ดไม่ลับสำหรับคนที่อยากจะล้างสารพิษในร่างกายของตนเอง แนะนำให้ทำเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการดีท็อกลำไส้ของตนเอง

บทความเสริม ความรู้ เรื่องน้ำ  (Water for Life)

น้ำในอุดมคติ  (โดย ศ.ดร.นพ. สมศักดิ์  วรคามิน)

1. ต้องสะอาด สะอาดในที่นี้หมายถึง สะอาดปราศจาก แบคทีเรีย, โลหะหนัก, สารเคมี และคลอรีน ฯลฯ

2. ต้องมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายในน้ำ หรือเป็นน้ำแร่นั่นเอง ทำไมต้องกินน้ำแร่ เราก็ได้แร่ธาตุจากอาหารที่กินอยู่ทุกวันอยู่แล้ว ? เพราะว่าแร่ธาตุในน้ำสามารถย่อยสลาย และดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายกว่าแร่ธาตุจากอาหาร แล้วยังช่วยเติมเต็มแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการที่เราไม่ได้รับจากอาหาร อีกด้วย

3. น้ำต้องมีฤทธิ์เป็นด่าง ทำไมต้องเป็นด่าง ? เพราะถ้าร่างกายแข็งแรงจะมีสภาวะเป็นด่างอ่อนๆ (pH 7.4) และเวลาเรากินเนื้อสัตว์มากๆ กระบวนการย่อยในกระเพาะเนื้อสัตว์จะกลายเป็นกรดอะมิโนร่างกายจะทำการดึงธาตุอาหารในร่างกาย (แคลเซียม แมกนี่เซียม) เข้ามาปรับสภาพที่เป็นกรดให้มีสภาพเป็นด่าง เราจึงควรได้รับน้ำที่สามารถเข้าไปช่วยปรับสภาพค่าความเป็นด่างในร่างกายได้

4. น้ำต้องมีโมเลกุลเล็ก เพื่อง่ายแก่การดูดซึมเข้าสู่เซลล์ของร่างกาย ทำให้สามารถนำพาสารตกค้างออกจากเซลล์และนำสารอาหารที่มีประโยชน์ที่เรารับประทานเข้าสู่เซลล์ได้ง่ายขึ้น (ขนาดของกลุ่มน้ำที่ดีควรมี 4-5 โมเลกุลต่อ 1 กลุ่มน้ำ ซึ่งปรกติ 10-12 โลเลกุล บางกลุ่มอาจถึง 30 โมเลกุลต่อ 1 กลุ่มน้ำ

: ข้อมูลอ้างอิงจาก หนังสือ “WATER for LIFE” ของ   ศ.ดร.นพ.สมศักดิ์ วรคามิน)

   ถ้าเรารู้ว่าน้ำมีประโยชน์มากมาย เราสามารถบริหารตนเองให้ ดื่มน้ำ อย่างถูกวิธี เพื่อสุขภาพที่ดีของตนเอง สุขภาพดีไม่สามารถหาซื้อได้ แต่เกิดขึ้นจากการใส่ใจตนเองจาก การดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ

บทความที่น่าสนใจ  เคล็ดลับสุขภาพดี  เทคนิควิธีดูแลตนเองง่ายๆ