ดูแลดวงตาอย่างไร ในยุคสมาร์ทโฟนครองโลก

การดูแลดวงตาในยุคสมาร์ทโฟนครองโลก

 เมื่อ สมาร์ทโฟน ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ปัจจุบันสมาร์ทโฟนถูกนับเป็นปัจจัย 4 ไปเรียบร้อยแล้ว  ซึ่งหากวันใดที่ไม่ได้พกมันติดตัว รู้สึกได้เลยว่าวันๆนั้น ไม่สามารถทำงานและใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น เพราะทุกวันนี้สมาร์ทโฟน ไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่ใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารอีกต่อไป แต่มันจะเป็นทั้งเครื่องมือการสื่อสารและการทำธุรกิจ การทำธุรกรรมทางการเงิน โอนเงินจ่ายเงิน ใช้ซื้อสินค้าต่างๆได้อีกมากมาย นอกจากนี้ที่ขาดไม่ได้คือการอัพเดทสถานะ บนโลกโซเชียล ทั้งไลน์ เฟสบุ๊ค แอปพลิเคชั่นต่างๆ หรือจะเป็นการทำธุรกิจขายสินค้าในออนไลน์

ดูแลดวงตาอย่างไร

ดูแลดวงตาอย่างไร

เมื่อความเพลิดเพลินจากการใช้สมาร์ทโฟน จนลืมไปว่าอวัยวะร่างกายที่สำคัญที่ต้องทำงานหนักมากนั่นคือ ดวงตา ยังดีที่เรายังคงไม่พบกับความทุกข์จากการมองไม่เห็น  เพราะทุกวันนี้ยังคงสามารถมองโลกแห่งความเป็นจริงได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้จินตนาการเหมือนกับคนพิการทางสายตาทั่วไป ดังนั้นควร ดูแลดวงตาอย่างไร ถึงจะสามารถนอมดวงตาที่สดใสให้อยู่กับเราได้นานๆ ด้วยเทคนิคการถนอมสายตาในการใช้สมาร์ทโฟน มีดังนี้

            1  ไม่ควรใช้สมาร์ทโฟนในที่มืด เพราะจะทำให้ความเข้มแสงไม่เพียงพอและไม่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้ดวงตาเราต้องทำงานหนักมากขึ้น เพราะแสงสีฟ้าจากสมาร์ทโฟน อาจจะจะทำลายดวงตาทำให้กลายเป็นโรคจอประสาทเสื่อมก็เป็นไปได้

            2  อย่าใช้สายตากับสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานมากจนเกินไป ควรมีการกระพริบสายตาบ่อยๆ อาจจะต้องมองสิ่งอื่นๆที่อยู่รอบข้างทุกๆ 5-10 นาที แล้วค่อยกลับมามองที่สมาร์ทโฟนอีกครั้ง การมองที่สมาร์ทโฟนมากจนเกินไป จะทำให้เกิดแรงดันเส้นเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงรอบดวงตาสูงขึ้น จนถึงขั้นเส้นเลือดแตกกลายเป็นตาแดง ตาอักเสบ หากเป็นเช่นนั้นควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน  เพื่อทำการรักษาแล้วกลับมาเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่

           3  อย่าเพ่งสายตามากจนเกินไป  ควรปรับขนาดตัวอักษรให้สามารถมองได้อย่างสบายสายตาและควรวางระยะห่างของสมาร์ทโฟนจากดวงตา 30 ถึง 45 เซ็นติเมตร หรือประมาณ 1 ไม้บรรทัดโดยประมาณ ยาใช้สมาร์ทโฟนในขณะที่เราเคลื่อนที่หรือนั่งบนรถ เพราะจะทำให้เราต้องใช้สายตามากกว่าปกติ เพราะตัวหนังสือที่สั่นสะเทือน จะทำให้ต้องเพ่งสายตามากเป็นพิเศษ ซึ้งอาจจะกลายเป็นสาเหตุของการปวดกระบอกตา เส้นประสาทตาถูกทำลายจนเกิดอาการพร่ามัวก็เป็นได้  ดังนั้นควรพักสายตาทุกๆ 15 ถึง 30 นาที โดยการมองระยะไกลหรือการหลับตานิ่งสักพัก

ดูแลดวงตาอย่างไร

          4  ปรับระดับแสงโดยรอบให้เหมาะสมเพราะแสงโดยรอบให้มีความสมดล จะช่วยลดการงานของดวงตา สำหรับคนที่มีความผิดปกติทางสายตา  ควรใช้สมาร์ทโฟนให้น้อยลงหรือไม่ก็หาวิธีอย่างอื่นเสริม เช่นการสวมแว่น เพื่อปรับปริมาณแสงสีฟ้า  การใช้น้ำตาเทียมช่วยเพิ่มปริมาณความชุ่มชื้นของดวงตาสำหรับคนที่มีน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาน้อย

          5  ควรมีการบำรุงรักษาดวงตา ด้วยการทำให้เกิดความชุ่มชื้นรอบบริเวณขอบตา เช่นการประกบด้วยแตงกวาหั่นเป็นชิ้นบางๆ เพื่อทำให้ผิวหนังรอบบริเวณดวงตามีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น  จะช่วยทำให้การตอบสนองของดวงตาทำได้ดีขึ้น

          6  ควรมีการบริหารกล้ามเนื้อล้อมรอบดวงตา ด้วยการกรอกสายตาไป มา ขึ้น-ลง ซ้าย-ขวา เป็นเวลาประมาณ 5-10 นาทีต่อวัน จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อบริเวณดวงตาให้มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น

          7  ควรให้อาหารเสริมสำหรับดวงตาอย่างเพียงพอ  โดยเฉพาะวิตามินต่างๆ เช่นวิตามินเอ collagen การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่างเพียงพอจะช่วยรักษาสมดุล ระบบต่างๆรวมทั้งฮอร์โมนที่มาหล่อเลี้ยงรอบดวงตา ผ่านระบบการหมุนเวียนของเลือด

          8  การดูแลตนเองให้มีความแข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ครั้งละประมาณ 30 นาที อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยลดอัตราการเกิดโรคเสื่อมต่างๆที่ส่วนผลกระทบต่อดวงตา เช่นการเกิดโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง

บทความที่น่าสนใจ การหัวเราะด้วยหัวใจที่เบิกบาน เป็นยารักษาโรคหัวใจได้

คลิป ความเชื่อผิดๆ ลดความอ้วน  https://www.youtube.com/watch?v=bCQ_1N3Pdzs&t=287s

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *