ทําบุญกับใครได้บุญมากที่สุด ทำบุญอย่างไรถึงได้อานิสงส์มาก

บุญนับได้ว่าเป็นสิ่งที่ทุกๆคนใฝ่หา เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิต  เสริมดวง เสริมโชคลาภ เมตตามหานิยมและช่วยให้การกระทำงานต่างๆสำเร็จตามใจมุ่งหวัง  จึงทำให้คนที่ทำบุญก็หวังอยากได้บุญเยอะๆ วันนี้ Besterlife .com ขอนำเสนอความเชื่อศรัทธาในการทำบุญ  ทําบุญกับใครได้บุญมากที่สุด ทำบุญอย่างไรถึงได้อานิสงส์มาก การทำบุญด้วยสิ่งของต่างๆหรือการทำบุญที่เหมือนๆกัน ก็ใช่ว่า  ทุกๆคนจะได้บุญเท่ากัน เพราะทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับ องค์ประกอบในการทำบุญ  ซึ่งประกอบด้วย ผู้ให้  ผู้รับและสิ่งของที่จะมอบให้แก่ผู้รับ ทั้งสามอย่างต้องเกิดขึ้นจากสิ่งอันบริสุทธิ์

แน่นอนผู้ให้ต้อง ให้ด้วยใจบริสุทธิ์  ให้เพราะอยากให้จริงๆ ให้โดยที่ไม่มุ่งหวังที่จะได้รับสิ่งตอบแทน  ก็จะได้ผลของบุญมากกว่าคนที่ให้ไปแล้วรู้สึกว่าเสียดาย ในสิ่งที่สูญเสียไป  ให้เพราะจำยอมและสิ่งที่สำคัญอีกอย่างที่ไม่ควรมองข้ามคือ ถึงแม้จะให้ด้วยใจบริสุทธิ์  แต่การมอบสิ่งของให้คนอื่นแล้ว  ตัวเองต้องกลับเป็นทุกข์ภายหลังคือไม่มีสิ่งของจำเป็นต้องใช้  นั้นก็นับได้ว่า การทำบุญแบบนั้นก็ได้บุญน้อยเช่นกัน เพราะทำบุญแล้วตัวเองเดือดร้อน

ลำดับถัดไป สิ่งที่จะกล่าวถึงก็คือ สิ่งที่จะมอบให้แก่ผู้รับ  การได้มาของสิ่งของนั้น ก็ต้องได้มาจากการกระทำอันบริสุทธิ์  ได้มาจากการทำมาหาเลี้ยงชีพที่สุจริต เป็นการประกอบสัมมาอาชีพชอบย่อมได้ผลบุญและมีพลังบุญมากกว่า สิ่งของที่ได้มาจากการปล้นขโมยหรือการทำอาชีพที่ผิดกฎหมายเป็นแน่แท้  ซึ่งทุกๆคนเขาใจดีอยู่แล้ว  ถึงแม้ว่าผลบุญและบาปจะต่างกรรมต่างวาระ บุญส่วนบุญ  บาปส่วนบาป  แต่การทำบาปเพื่อจะนำมาทำบุญผลประโยชน์แห่งบุญก็จะน้อยลงนั้นเอง

ปัจจัยที่ 3 ปัจจัยสุดท้ายคือ ผู้รับ  เป็นหัวข้อที่เรากำลังหมายถึงในบทความนี้  ทำบุญอย่างไร ทําบุญกับใครได้บุญมากที่สุด ซึ่งองค์ประกอบที่ 3 นี้ก็นับได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้สิ่งอื่นๆ แม้แต่พระพุทธเจ้าท่านก็เคยทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องมาก่อน  เช่นในสมัยอดีตกาลก่อนที่จะมาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์และนิพาน พระองค์ท่านได้เคย บริจาคกัณหาและชาลี  ซึ่งเป็นบุตรของท่านให้กับผู้ขอทานที่ยิ่งใหญ่อย่างชูชกไป ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด

ทําบุญกับใครได้บุญมากที่สุด มีลำดับดังต่อไปนี้

1 การทำบุญกับสัตว์เดรัจฉาน 100 ครั้งไม่เท่ากับการทำบุญให้กับมนุษย์เพียงหนึ่งครั้ง  สัตว์ต่างๆย่อมไม่มีสติสัมปชัญญะ ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ถึงแม้สัตว์เลี้ยงหลายๆชนิด จะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ฉลาด เป็นสัตว์เลี้ยงของมนุษย์ที่เลี้ยงเอาไว้เป็นเพื่อนอย่างเช่นสุนัข ที่ทุกคนคิดว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงที่ ซื่อสัตย์  แต่เมื่อถึงเวลาที่มันหิว แต่มันไม่ได้กิน สุนัขมันก็สามารถขโมยขนมหรืออาหารของเจ้าของมันได้ หรือสัตว์เลี้ยงที่มีพิษร้ายอย่างเช่น งู ที่คนเลี้ยงเอาไว้เพื่อโชว์  เมื่อมันหิวมันก็สามารถชกเจ้าของมันได้เช่นกัน ดังนั้นการทำบุญกับสัตว์ก็ถือได้ว่า ได้บุญน้อยที่สุด

2 ทำบุญกับคนทั่วไป 100 ครั้งก็ไม่เท่ากับการทำบุญกับผู้ที่มีบุญคุณหรือผู้ที่มีอุปการะคุณเพียงหนึ่งครั้ง ถึงแม้ว่าคนจะเป็นสัตว์ประเสริฐเป็นผู้รู้รับผิดชอบชั่วดี สามารถแยกแยะสิ่งที่ผิดและถูกได้  แต่ผู้ที่มีอุปการะคุณ คือผู้ที่มีบุญคุณต่อเรา  หากเราได้ตอบแทนก็นับได้ว่าได้บุญมาก โดยเฉพาะคนที่เป็นพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด

3 ทำบุญกับผู้มีบุญคุณ 100 ครั้งก็ไม่เท่ากับการทำบุญกับพระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ 1 ครั้ง พระสงฆ์นับได้ว่าเป็นตัวแทนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ผู้รับผิดชอบชั่วดีในทางโลกและทางธรรมพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นผู้ถือศีลมากถึง 227 ข้อ  ด้วยกาย วาและใจอันบริสุทธิ์  โดยรู้เท่าทันกิเลส กามอารมณ์ต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นผู้คอยอบรมสั่งสอนแก่พุทธศาสนิกชน  ให้เป็นผู้เจริญด้วยสติปัญญาตามหลักธรรมคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า 

4 การทำบุญกับพระสงฆ์ 100 ครั้งก็ยังไม่เท่ากับการที่เราเข้าถึงสมาธิเพียงเสี้ยววินาที  การทำบุญกับตนเองก็นับได้ว่าเป็นการทำบุญที่ได้บุญมากที่สุด ไม่มีผู้ใดสร้างบุญแทนตัวเราได้และเราก็ไม่สามารถสร้างบุญแทนคนอื่นได้เช่นกัน  ตามหลักคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ท่านทรงได้กล่าวไว้ว่า

กัมมัสสโกมหิ กัมมะทายาโท กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ กัมมะปะฏิสะระโณ  เรามีกรรมเป็นของของตน  มีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์   มีกรรมเป็นที่พึงอาศัย 

ยัง กัมมัง กะริสสามิ กัลยาณัง วา ปาปะกัง ตัสสะ ทายาโท ภะวิสสามิ   ใครจะทำกรรมอันใดไว้ จะเป็นบุญหรือเป็นบาป เราจะเป็นทายาท ย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้น

            ซึ่งก็เหมือนกับทางโลกที่มีนักพูดหรือผู้เราหลายคนได้กล่าวไว้ว่า 

-หากตนเองไม่สามารถดูแลตนเองได้แล้ว จะสามารถดูแลตัวอื่นได้อย่างไร
– แม้แต่ตนเอง ไม่มีอันจะกิน แล้วจะให้ทานต่อคนอื่นได้อย่างไร
– หากไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้แล้ว จะสามารถให้อภัยคนอื่นได้อย่างไร
ฯลฯ

บุญที่ทำทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรา หากอยากจะได้บุญมาก ก็ย่อมเกิดจากการปฏิบัติของตัวเราเอง  จึงไม่ต้องไปแสวงหาบุญตามที่ต่างๆ ตามวัดต่างๆให้เสียทั้งเวลาและเสียทั้งเงิน แถมยังมีความเสี่ยงว่า จะเกิดอุบัติเหตุจากการเดินทางอีก ดังนั้นรักตัวเองให้มากที่สุด  ดูแลตัวเองให้ดีที่สุดและทำบุญด้วยการทำสมาธิ  ก็จะเกิดความเป็นศิริมงคลต่อชีวิต

บทความที่น่าสนใจ ธรรมะเติมปัญญา เสริมบุญจากการถวายสังฆทาน

เกิดมาทำไม เกิดมาเพื่ออะไร

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *