วิธีลงทุนหุ้น 5 ขั้นตอน เพื่อให้เงินทำงาน สร้างรายได้ แบบ Passive Income

 

ตอนที่ 3

            คนรวยมักให้ความสำคัญกับวิธีหาเงินมากกว่า ปริมาณเงินที่มี คนรวยจะเรียนรู้การหาเงินด้วยวิธีใช้เงินลงทุนแบบใช้เงินต่อเงิน เพื่อให้เงินทำงานหนักแทนการใช้แรงงาน การหาเงินด้วย วิธีลงทุนหุ้น ก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งวิธี สร้างเงินโดยให้เงินทำงาน สอดคล้องกับวลีเด็ดๆ ที่คุ้นชินเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นคือ คนจนเล่นหวยคนรวยเล่นหุ้น

           การลงทุนในหุ้น ถือได้ว่า เป็นการสร้างรายได้ แบบ Passive Income เพราะการลงทุนในหุ้นจะทำเงินให้งอกเงยจนมีกระแสเงินสดมากกว่ารายจ่ายได้ ก็จะกลายเป็นผู้ที่มีอิสรภาพทางด้านการเงินได้ เมื่อผู้ใดมีเงินก็จะมีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยซื้อปัจจัยต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านต่างๆเช่น ปัจจัย 4 สิ่งอำนวนความสะดวกในชีวิต  การมีเงินจึงเป็นดัชนีชีวัดความสำเร็จอย่างหนึ่งที่ทำให้มนุษย์ทั่วไป มีความสุขในการดำรงชีวิตได้

            วิธีลงทุนหุ้น เป็น การประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะความสามารถและการควบคุมอารมณ์ เพื่อทำการวิเคราะห์และการตัดสินใจในการเลือกซื้อหุ้นของบริษัทที่มีอนาคตดีในตลาดหลักทรัพย์ ผลตอบแทนในรูปแบบการจ่ายเงินปันผล และมีมูลค่าราคาหุ้นสูงขึ้น  จากผลตอบแทนสามารถสร้างกำไรให้แก้ผู้ลงทุน จนมีรายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ก็จะทำให้เรากลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนในหุ้น

วิธีลงทุนหุ้น

 

          ในทางตรงกันข้าม เราก็มักได้ยินเรื่องเล่าสู่กันฟังว่า การลงทุนในหุ้นในด้านลบก็มีด้วยเช่นกัน  เช่นคนซื้อหุ้นแต่ไม่ประสบความสำเร็จ เจ๊งถึงขั้นล้มละลาย ซึ่งก็มีมากมาย  มักเกิดขึ้นหลากหลายสาเหตุด้วยกันเช่น

          เป็นนักเล่นหุ้นที่ไม่ใช่นักลงทุน ไม่มีความรู้การลงทุนในหุ้น ไม่มีคุณสมบัติการเป็นนักลงทุนที่ดี ชอบการเล่นหุ้นด้วยอารมณ์เช่น การซื้อด้วยอารมณ์ ขายเพราะกลัว ซึ่งขาดการวิเคราะห์ข้อมูลและแนวโน้มด้านต่างๆ  ก็จะมักกลายเป็นผู้พ่ายแพ้   หรือจะเป็นการเล่นหุ้นแบบ ซื้อมา-ขายไป ก็เปรียบเหมือนกับเล่นหวยหรือนักเก็งกำไรอีกชนิดหนึ่งที่อาศัยความคาดหวังและโชคชตา

 

  คุณสมบัติพื้นฐานสำหรับนักลงทุนในหุ้น

  •  ขยันศึกษาหาความรู้ เป็นคนรอบคอบ เมื่อทำการวิเคระห์ดีแล้วต้องกล้าเสี่ยงทุกๆครั้งที่เห็นโอกาส

  •  มีใจรักด้านตัวเลข  ชอบข้อมูลเชิงปริมาณ มีทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ ด้านคุณภาพ

  • มีความรู้ทางการเงิน หากปราศจากทักษะนี้  ควรหาที่ปรึกษาทางการเงินดีๆ มีทักษะความชำนาญในการวิเคราะห์หุ้น ให้เป็นผู้แนะนำการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนหุ้น

  • ควรมีความฉลาดทางอารมณ์ คิดเชิงบวกโดยสามารถยอมรับได้ ทั้งสิ่งที่เป็นบวกหรือสิ่งที่เป็นลบเช่น ซื้อหุ้นแล้วหุ้นตกแต่เป็นหุ้นพื้นฐานดี ก็ต้องสามารถรอคอยที่ราคาหุ้นจะดีดตัวกลับขึ้นมาเป็นบวกได้

  • ต้องทันต่อสถานการณ์ต่างๆ มีความรู้หลายด้านเช่น ความรู้ทางด้านเศรษฐศาสตร์ รู้การเปลี่ยนแปลงโลกทางการเงิน และปัจจัยที่เกี่ยวข้องเช่น การเมือง ภาวะเศรษฐกิจ 

  • ใช้เงินเย็นในการลงทุน  เงินเย็นในที่นี้ หมายความว่า เงินสำหรับการลงทุนในหุ้นก้อนนั้น จะต้องไม่วางแผนไปใช้ทำอย่างอื่น อย่างน้อย 3 ปี

  • ควรมีเป้าหมายการลงทุน จะเป็นนักลงทุนแบบไหน ต้องค้นหาสไตล์ของตนเองให้เจอเช่น หากจะเป็นนักเก็งกำไรหุ้นก็จำเป็นต้องมีความรู้วิเคราะห์ทางเทคนิค กราฟ หรือ หากจะเป็นนักลงทุนที่เน้นคุนค่าของหุ้น ( VI ) ก็จะต้องมีความรู้ปัจจัยพื้นฐานเป็นสำคัญ

วิธีลงทุนหุ้น

 วิธีลงทุนหุ้น 5 ขั้นตอน ที่ทำให้เงินทำงานสร้างรายได้แบบ Passive Income มีดังนี้

     ขั้นตอนที่  1. ศึกษาหาความรู้  ถ้าจะให้เล่าถึง วิธีลงทุนในหุ้น ทฤษฎีการเลือกซื้อหุ้นในปัจจุบันมีมากมาย หากจะเล่าสู้กันฟังก็คงไม่รู้จบ หากสนใจวิธีใช้เงินทำงานด้วยวิธีลงทุนในหุ้นจริง จะมีแหล่งสำหรับค้นคว้าศึกษาหาความรู้ ได้โดยไม่เสียเงินมากมายเช่น

  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยwww.set.or.th ใช้สำหรับติดตามข้อมูลหลักทรัพย์รายตัว ข่าวข้อมูลหลักทรัพย์ต่างๆ เช่น ประกาศงบการเงินประจำปี ประจำไตรมาส ความคืบหน้าของโครงการใหม่ๆ ของบริษัทเช่น การใช้เงินทุนกรณีเพิ่มทุน และหากต้องการเพิ่มพูลความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้น วิธีลงทุนในหุ้น ไปที่ https://www.set.or.th/education/th/education.html เช่น ห้องเรียนนักลงทุน สัมนาออนไลน์ คลิปความรู้ E-learning

  • ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุน www.tsi-thailand.org ใช้ศึกษาหาความรู้ เพิ่มทักษะการลงทุนเช่น วิธีการลงทุน การวิเคราะห์หลักทรัพย์ด้านต่างๆ ด้านเทคนิคและคุณภาพ การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน การประเมินหลักทรัพย์ การประเมินราคาหุ้นเพื่อดูความถูก-แพงของหุ้น

  • ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ ประเมิน การตัดสินใจชื้อขายหุ้นได้แก่ www.settrade .com  ซึ่งใช้สำหรับดูข้อมูลซื้อขายหลักทรัพย์แบบ Real Time การวิเคราะห์หลักทรัพย์ โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์มืออาชืพ จากสถาบันการเงินต่างๆ ดูข้อมูลหุ้นแบบรายตัว ราคาซื้อขายณ.ปัจจุบัน งบการเงิน การจ่ายเงินปันผล กรรมการบริษัท ข่าวสารบริษัท การแสดงอัตราส่วนที่ใช้วิเคราะห์หุ้นเช่น P/E Ratio, อัตราส่วนกำไรต่อหุ้น ข้อมูลย้อนหลังผลประกอบการ นอกจากนี้ยังสามารถดู กราฟแนวโน้มต่างๆได้

  • ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ www.tsd.co.th เพื่อรับฝากหลักทรัพย์ บริการนายทะเบียน โดยเฉพาะนักลงทุนจะใช้ดูข้อมูลการโอนเงินปันผลเข้าบัญชีธนาคาร และนอกจากนี้ยังสามารถใช้ดูข้อมูลเงินปันผลไป และยังสามารถใช้คืนภาษีได้อีกด้วย

             นอกจากนี้ก็มีแหล่งให้ความรู้ ที่เสียเงินเล็กน้อยเช่น การซื้อหนังสือต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในหุ้น วิธีการเลือกหุ้น  ฯลฯ   จนถึงขั้นที่ต้องใช้เงินมากขึ้นเช่น เข้าคอร์ดฝึกอบรม  หรือจะจ้างที่ปรึกษาส่วนตัวที่มีความเชี่ยวชาญในการลงทุนหุ้น ซึ่งปัจจุบันก็มีมากมาย

       ขั้นตอนที่ 2. สำรวจเงินลงทุน เงินลงทุนต้องเป็นเงินเย็นจริงๆคือ เงินก้อนดังกล่าวควรถูกแบ่งออกจากค่าใช้จ่ายอื่นๆ และจะต้องไม่วางแผนนำเงินก้อนนั้นไปใช้ทำอะไร ประมาณ 3  ปี  5 ปี ปริมาณเงินที่ใช้ลงทุนในหุ้นช่วงเริ่มต้น ไม่จำเป็นต้องเป็นก้อนใหญ่โต เงินหลักพันก็สามารถเริ่มต้นลงทุนในหุ้นได้

           ซึ่งสำหรับคนที่เป็นพนักงานมีรายได้ประจำเดือน อาจจะเทคคนิคการซื้อหุ้นแบบ Dollar Average คือ การซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่งในปริมาณที่เท่ากันทุกเดือน ซึ่งยังสามารถลดความเสี่ยงได้เช่นกัน  และยังเป็นวิธีในการสร้างนิสัยให้เป็นคนรักการออม ด้วยการแบ่งเงินเดือนส่วนหนึ่งออมไว้ในหุ้น หรือกรณีที่ได้โบรับนัสสิ้นปี ก็ยังสามารถซื้อหุ้นในปริมาณมากขึ้นได้

    ขั้นตอนที่ 3. เปิดบัญชีหุ้น แนะนำให้เปิดบัญชีแบบใช้เงินสดซื้อหุ้น ( cash balance ) เพื่อลดความเครียดและความกังวลในการลงทุนได้ ปัจจุบันการซื้อ-ขายหุ้น สามารถทำได้ง่าย โดยวิธีซื้อ-ขายผ่านระบบอินเตอร์เน็ตเว็บไซต์ของนายหน้าหรือที่ง่ายกว่านั้น จะมีแอพพลิเคชั่นซื้อ-ขายหุ้นบนมือถือเช่น streaming, I2 efin Trade+

           การเลือกนายหน้าชื้อ-ขายหลักทรัพย์และการเปิดบัญชีหุ้น ก็สามารถสมัครได้ที่ธนาคารพานิชย์ทุกแห่ง หรือสามารถเลือกนายหน้าเพิ่มเติมได้ที่ www. settrade .com ไปที่เมนู เปิดบัญชีหลักทรัพย์ ด้านล่างเมนู สมัครสมาชิก  แล้วปฏิบัติตามขั้นตอนในอินเตอร์เน็ต หลังจากนั้นจึงส่งเอกสารประกอบ 4 อย่าง

                       สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน

                       สำเนาทะเบียนบ้าน

                       สำเนาสมุดบัญชีออมทรัพย์ (หน้าแรกที่มีเลขที่บัญชี)

                       ค่าอากรแสตมป์ 30 บาท

หรือสามารถติดต่อที่โปรกเกอร์ได้ โดยตรง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ให้การแนะนำเป็นอย่างดี ง่าย สะดวกและรวดเร็ว

    ขั้นตอนที่ 4. การเลือกหุ้น เริ่มต้นด้วยการประเมินแนวโน้มธุรกิจโลก เศรษฐกิจภูมิภาคและภายในประเทศว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ สมมติเทรนด์ที่มาแรงที่สุดคือ กลุ่มผลไม้ไม้ผลเศรษฐกิจ (เป็นการเลือกกลุ่มธุรกิจ) หลังจากนั้นคุณได้ซื้อต้นมะม่วง (เป็นการเลือกกลุ่มย่อยของธุรกิจ) แล้วนำไปฝากให้ เจ้าของสวนดูแล (เป็นการเลือกบริษัทที่ดี ) สมมุติถ้าเราได้ชาวสวนที่ดี มีความรู้ในการจัดการการปลูกมะม่วงเป็นอย่างดี ดูแลใส่ใจ ใส่ปุ๋ยรดน้ำอย่างถูกวิธี (มีการจัดการธุรกิจที่ดี) มะม่วงก็จะผลิตดอกออกผลดี สมมติว่าเจ้าของสวนแบ่งรายได้ให้ (นั้นคือเงินปันผลที่ได้รับ) เมื่อเจ้าของสวนนำเงินกำไรส่วนหนึ่งไปซื้อต้นกล้ามะม่วงมาปลูกเพิ่ม (เราเรียกว่ามีการขยายธุรกิจ) ขยายขนาดพื้นที่ปลูกมะม่วงมากขึ้น ผลผลิตมะม่วงก็จะเพิ่มขึ้น บางครั้งอาจจะมีการต่อยอดทำธุรกิจแปรรูปมะม่วง จึงทำให้ใครๆ ก็อยากซื้อหุ้นบริษัทนั้นมากขึ้น (ก็จะยิ่งทำให้มูลค่าของหุ้นเพิ่มขึ้น เมื่อขายก็จะได้รับส่วนต่างของราคา) และหากเห็นว่าบริษัทนี้มีความมั่นคง จะไม่ขายหุ้น เพราะยังมีรายได้ จากเงินปันผลตลอด  มีรายได้แบบ Passive Income “ โดยรายได้ที่เกิดจาก การลงทุนหุ้น นั้นประกอบด้วย เงินปันผล หุ้นปันผลและส่วนต่างราคาจากการขายหุ้น”

5. ติดตามผลการลงทุน ต้องมีการคอยเฝ้าระวังเป็นระยะๆ  เพื่อประเมินความความสอดคล้องของข้อมูลหุ้น ด้วยประเมินโอกาสว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดี มีการตรวจสอบช่วงก่อนซื้อหุ้นและหลังซื้อหุ้น  เพื่อดูว่าเจ้าของสวนคนดังกล่าวนั้น  ยังมีศักยภาพดีอยู่ บริษัทนั้นๆยังคงมีคุณสมบัติเหมือนเดิมอยู่หรือไม่  เป็นการลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะการทำธุรกิจต่างๆ ย่อมมีปัจจัยและการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้นต้องรู้ทันสถานการณ์

 

ข้อดีรายได้จากการลงทุนในหุ้น

  • กำไรจากการขายหลักทรัพย์หรือ รายได้เกิดจากส่วนต่างของราคา ซึ่งไม่ต้องหักภาษี

  • สามารถลดหย่อนภาษีได้ กรณีที่ได้รับเงินปันผลถูกหักภาษีหัก ณ ที่จ่าย มากกว่า % ที่ตนเองถูกเรียกเก็บภาษี ก็สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

  • การลงทุนใน LTF/ RMF สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้

          วิธีลงทุนหุ้น ต้องเรียนรู้ ซึ่งคนที่ประสบความสำเร็จการลงทุนในหุ้น ต้องสามารถวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศต่างประเทศได้ เข้าใจสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ที่ส่งผลต่อกลุ่มอุตสาหกรรมและส่งผลต่อบริษัทที่เลือกลงทุน สามารถวิเคราะห์ อัตราส่วนทางการเงินได้ สามารถวิเคราะห์ปัจจัย ด้านคุณภาพของบริษัทเช่น วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย วัตถุประสงค์ ของบริษัท ความสามารถของคณะกรรมบริษัท CEO  ในการบริหารรายได้ อย่างมีประสิทธิภาพ มีธรรมาธิบาล

         คนที่ประสบความสำเร็จ วิธีลงทุนในหุ้น จะมีความฉลาดและสามารถพยากรณ์ทิศทางอนาคตของบริษัทที่จะทำการลงทุนได้ สามารถเลือกบริษัทที่ดีมีความเจริญเติบโตก้าวหน้าอย่างมั่งคั่งและมั่นคง  มีกำไรทุกๆปี สามารถจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง

         “การลงทุนมักมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุน”   ” แต่การเงินแต่ไม่ลงทุน ไม่ใช้เงินทำอะไร ย่อมมีความเสี่ยงมากกว่า เพราะมูลค่าของเงินที่หามาได้ในวันนี้ อีกห้าถึงสิบปีข้างหน้า มูลค่าเงินที่มีจะเหลือเพียงแค่ครึ่งเดียว” ซึ่งเรียกว่าเงินเฟ้อ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนใช้เงินต่อเงิน

        การสร้างรายได้แบบ Passive Income ยังมีอีกหลายรูปแบบ หากวิธีลงทุนหุ้นนี้เรายังไม่ชอบควรมองหาวิธีถัดไป  ชีวิตเรา…สร้างได้

อ่านต่อ ตอนที่ 4

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *