คิดบวกชีวิตเปลี่ยน เปลี่ยนแนวคิด พลิกชีวิตสู่ความสำเร็จเปลี่ยนแปลงตนเองให้มีสุข
ตอนที่2 คิดบวกสำคัญไฉน ? คิดบวกชีวิตเปลี่ยน
ความคิด ทัศนคติ ความเชื่อ และประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน มันเหมือนกับบทชีวิตในละคร คนที่แสดงเป็นตัวอิจฉา คิดร้าย ตลอดก็ จะแสดงออกทางพฤติกรรมร้ายๆ แล้วตอนจบ ก็มักพบกับความล้มเหลวในชีวิต ส่วนคนที่แสดงเป็นตัวเอกคิดดี ถึงแม้บางครั้งอาจจะดูว่าโง่ แต่สุดท้ายตอนจบ ชีวิตพระเอกก็มักจะลงเอยด้วยความสุข แท้จริงแล้วชีวิตเราก็เป็นดังเช่นละคร คนที่คิดดี ชีวิตที่ดำเนินไปก็ย่อมเป็นบวก คิดบวกชีวิตเปลี่ยน คิดดีชีวิตดี
พลังแห่งการคิดบวก ช่วยให้เรากลายเป็นคนที่ยืดหยุ่นได้ สามารถรับมือกับสภาพแวดล้อมที่เป็นบวกหรือแม้แต่สิ่งต่างๆที่เป็นลบได้ พลังคิดบวกจะทำงานสอดคล้องกับกฏแห่งแรงดึงดูดซึ่งเรียกว่า “พลังแห่งจักรวาล” หากใครสามารถคิดบวกเชิงสร้างสรรค์ได้ มักจะดึงดูดสิ่งดีๆที่เหมือนกันเข้ามาในชีวิต เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะกลายเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต และจิตใต้สำนึกเอง จะทำงานโดยไม่สามารถแยกแยะประเภทของความคิดได้ โดยจิตใต้สำนึกจะประมวลผลและแสดงออกทางจิตสำนึก ตามปริมาณความคิดที่ได้สะสมเอาไว้ หากสะสมจำนวนความคิดบวกมากๆ การแสดงออกต่อสิ่งที่เกิดขึ้นก็มักจะเป็นบวกเช่นกัน
เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน การคิดบวกจะดึงดูดโอกาสแห่งความสำเร็จ สังเกตุได้ จากวันที่เราคิดบวกเช่น “วันนี้บรรยากาศในสถานที่ทำงานดี ผู้คนยิ้มแย้ม ทักทายกัน” วันนั้นดูเหมือนว่าอะไรๆ จะทำได้ง่ายและทำได้ดีจนประสำเร็จไปหมด ตรงกันข้าม (จุดเปลี่ยนชีวิต) หากวันใดรู้สึกแย่ วิตกกังวล เช่น การคิดว่าพรุ่งนี้จะมีเจ้านายเข้ามาตามงานที่ยังทำไม่แล้วเสร็จ พอถึงวันรุ่งขึ้น ถึงแม้ว่าเจ้านายลืมและไม่ได้ตามงานก็ตาม เราจะรู้สึกได้ว่าวันนั้นทั้งวัน ดูเหมือนว่ามันวุ่นวาย หนักอกหนักใจ ทำงานอะไรๆมันก็จะผิดๆถูกๆ ก็เป็นเพราะผลลัพธ์แห่งการคิดลบนั่นเอง
คิดบวก กับการทำงานของสมอง
ในขณะที่เราคิดบวก หัวเราะได้ ยิ้มได้ อารมณ์ดีและมีความสุข สมองจะหลั่งสารสมองหรือฮอร์โมนแห่งความสุข การคิดดี สมองดี ตรงกันข้ามหากตกอยู่ในช่วงแห่งความทุกข์ จะรู้สึกว่า ตนเองดูแย่ คิดลบ เครียดและเศร้าหมอง สมองก็จะหลั่งสารแห่งความทุกข์ออกมาเช่นกัน ความสามารถต่างๆ ของเราก็จะลดลงด้วย
ดังนั้นอย่ากังวล อย่าทุกข์ อย่าเครียดจะได้ไม่จน…เพราะความคิด การคิดลบบ่อยๆ จะเกิดความวิตกกังวล ทำให้ความสามารถในการตัดสินใจลดลง มีความไม่มันใจ ไม่เชื่อมั่นในความรู้ความสามารถของตนเอง คนที่คิดลบจะขาดความกล้าและกลัวการเปลี่ยนแปลง
จงพัฒนาตนเอง อย่าขังตนเองไว้ในกรอบ อยู่เฉพาะแดนที่ปลอดภัยหรือ Save Zone หรือ อย่าเป็นเพียงแค่โคโรฟิลด์ของใบไม้ ที่ไม่มีน้ำและแสงสว่าง เพราะการเป็นแค่โคโรฟิลด์ เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับต้นไม้ได้ ไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ จงเลิกยึดติด คิดบวกชีวิตเปลี่ยน ออกจาก Comfort zone แล้วใช้ความคิดบวกเชิงสร้างสรรค์ ให้เป็นเข็มทิศชี้นำหนทางแห่งความสำเร็จ
คิดบวกชีวิตเปลี่ยน :อิทธิพลของการคิดบวก จะส่งผลต่อการดำรงชีวิตอย่างไร?
ถ้าคิดว่าชีวิตนี้มันช่างน่าเบื่อ ทำไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เราไม่ร่ำรวย เราไม่เก่ง เราไม่มีโอกาสดีๆ เหมือนกับคนอื่น และแล้วการกระทำที่แสดงออก มันก็จะยังคงเหมือนเดิมหรือแย่ลงกว่าเดิม ซึ่งไม่มีอะไรในชีวิตที่เปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นได้ ผลลัพธ์คือ “ ปัจจุบันชีวิตเป็นเช่นไร พรุ่งนี้หรือในอนาคตก็จะยังมีชีวิตอยู่อย่างที่เคยเป็น ”
“คิดบวกชีวิตเปลี่ยน” ความสำเร็จเริ่มต้นที่ความคิด ทรรศนคติและความเชื่อ เมื่อเปลี่ยนความคิด พฤติกรรมหรือการกระทำเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน
คิดบวกเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาและการเปลี่ยนคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้ จงเชื่ออย่างหมดใจว่า เราทำได้ แล้วคุณจะทำได้ แม้ว่าเราทุกคนจะไม่สามารถเลือกเกิดได้ แต่ทุกๆคนสามารถเลือกรูปแบบชีวิต ตามที่ตัวเองต้องการได้
จงมีมุมมองชีวิตในเชิงบวกและใช้คำว่า “ โอกาสและความโชคดี” สามารถสร้างขึ้นได้ คนที่คิดบวกจะโน้มน้าวและกระตุ้นตนเอง ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เริ่มต้นพัฒนาตนเองจากความรู้ เพราะความรู้คือ อำนาจในการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ซึ่งมันจะนำมาซึ่งความสุขและการมีชีวิต อยู่บนโลกใบนี้อย่างคนมีค่า
อิทธิพลของกำหนดเป้าหมายชีวิตและการคิดบวก
ด้วยแรงพลังแห่งความปรารถนา ที่ชี้นำหนทางแห่งความสำเร็จนั้นคือ การตั้งเป้าหมาย เป้าหมายชีวิตนั้นนับได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญและมีความสัมพันธ์กับกระบวนการแห่งความคิด เทคนิควิธีสร้างความคิดบวกได้อีกหนึ่งวิธี ด้วยการตั้งเป้าหมายอันทรงพลังและเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่
การมีเป้าหมายชีวิตที่ยิ่งใหญ่ จะเกิดพลังพลักดันจากข้างในจิตใจสู้ภายนอก ทำให้เราเกิดความกระตือรือร้น และเป็นแรงบันดาลใจ พลังจะทำให้เรามีความขยันและมีความอดทน การตั้งเป้าหมายชีวิตดีๆจะกลายเป็นพลังในการขับเคลื่อน เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง โดยจะไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ แล้วก้าวต่อไป สู่จุดมุ่งหมายได้
ทุกๆคนจะมีกราฟชีวิตที่ขึ้นลง ในช่วงเวลาที่ชีวิตตกต่ำ ปัญหาอุปสรรคย่อมดูเหมือนว่ามันยิ่งใหญ่ ส่วนชีวิตที่อยู่ในช่วงขาขึ้นปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นก็อาจจะดูเหมือนว่ามันเล็กน้อย ปนกันไป ดังนั้นในขณะที่ช่วงชีวิตกำลังเผชิญกับสิ่งเลวร้าย ให้ยึดมั่นเป้าหมายไว้เป็นที่ตั้ง ก็จะทำให้ความท้อแท้และสิ้นหวังลดลง ถึงแม้จะพ่ายแพ้ล้มเหลว คนคิดบวกที่มีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน ก็จะสามารถลุกขึ้นได้เร็ว และก้าวไปสู่สิ่งมุ่งหวังได้ คิดบวก+++ เปลี่ยนชีวิต
คิดบวกชีวิตเปลี่ยน: คิดบวก เป็นพลังเปลี่ยนชีวิต
เคล็ดลับวิธีคิดบวกคือ ให้จินตนาการภาพผลลัพธ์แห่งความสำเร็จให้ชัเจน อยากเป็นอะไร อยากประกอบอาชีพใด ต้องการมีรายได้มากน้อยเพียงใด เพื่อเป็นการเติมปริมาณพลังบวกให้แก่จิตใต้สำนึก เทคนิคสร้างกำลังใจเชิงบวก ด้วยการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงชีวิตเช่น ไม่ต้องสนใจพื้นฐานชีวิต ไม่สำคัญว่าจะเรียนจบอะไรมา ถึงแม้ว่าไม่มีพื้นฐานและไม่มีองค์ความรู้ใด ให้ค้นคว้าหาความรู้ที่จะช่วยให้เราทำงานนั้นๆได้ประสบความสำเร็จได้ หากงานนั้นมันตอบโจทย์หรือตอบเป้าหมายชีวิต แต่หากรู้ว่างานที่กำลังทำอยู่นั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ จงเปลี่ยนงานใหม่ แต่อย่าเปลี่ยนเป้าหมาย
คิดบวกเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพ ที่จะทำให้เราได้รับชัยชนะเฉกเช่นคนประสบความสำเร็จ เพราะมีผู้คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตหลายๆคน มักเริ่มต้นจากศูนย์ นั้นหมายถึงความเป็นไปได้ สิ่งที่คนอื่นทำได้ เราต้องทำได้ เปลี่ยนแปลงตัวเอง ค้นคว้าหาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับอาชีพใหม่ อ่านตำราเข้าห้องเรียน เรียนรู้จากคนประสบความสำเร็จ เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น
เคล็ดลับแห่งการคิดบวก
เทคนิคการตอกย้ำสิ่งดีๆ คือเคล็ดลับของคนคิดบวก การให้รางวัลเมื่อตนเองประสบความสำเร็จ เช่น จงชื่นชมและขอบคุณสิ่งดีๆ ที่มีอยู่รอบตนเอง จงพยายามเอาตนเองออกห่างจากคนที่ชอบคิดลบ แล้วให้นำตนเองไปอยู่ใกล้ๆ คนที่คิดบวก ด้วยการอ่านหนังสือแนวคิดดีๆ และการมองโลกในแง่ดี เช่น หากคิดว่าตนเองกำลังตกอยู่ในภาวะลำบาก ให้คิดถึงคนที่ลำบากมากกว่า ให้เปลี่ยนกรอบความคิดใหม่ ไม่มีอะไรดีสมบูรณ์สูงสุด หัดใช้วิธีตั้งคำถาม ด้วยคำที่ขึ้นต้นว่า ทำไม เพื่อเปลี่ยนวิธีคิด
การเติมพลังคิดบวกให้จิตใจเช่น การคิดถึงความสุข ความสำเร็จ เช่น ภาพแห่งความสุขจากเวลาที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น ยิ่งสามารถระลึกได้มาก ก็ยิ่งเพิ่มปริมาณคิดเชิงบวก ได้ยิ่งมากขึ้นนั้นเอง
คิดบวก แม้แต่คนที่มีพื้นฐานไม่ดีหรือคนบุญน้อยก็สำเร็จได้
คนทั่วไปคงเคยผิดหวัง กับสิ่งที่ไม่ประสบความสำเร็จ มาแล้วด้วยกันทั้งนั้น จึงรู้สึกท้อสิ้นหวังกับชีวิต เพราะคงไม่มีใครลงมือทำทุกสิ่งอย่างแล้ว จะสามารถบรรลุความสำเร็จได้ทุกเรื่อง แน่นอนถึงแม้บางคนจะทำเรื่องเดียวกับคนอื่น แต่ก็ไม่สามารถสร้างสำเร็จได้เหมือนกับคนอื่นๆเขา
และคงเคยได้ยินคำพูดว่า “คนเราทำบุญมาไม่เหมือนกัน” เพราะคำว่าบุญคือ กรรมอันเกิดขึ้น จากการกระทำของตนเอง ซึ่งแต่ละคนสร้างกรรมตั้งแต่อตีดถึงปัจจุบันไม่เท่ากัน กฎของธรรมชาติบอกว่า “ คนบุญน้อย ” หมายถึง คนที่มีพื้นฐานไม่ดีเช่น ฐานะทางการเงินต่ำ เกิดในครอบครัวที่ด้อย โอกาสที่จะได้เรียนสูงๆ มีความรู้และประสบการณ์ดีๆกับชีวิต ก็จะด้อยกว่า คนที่ทำบุญมาดี จึงทำให้โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็มีน้อยไปด้วย และไม่รู้จะคบค้าสมาคมกับคนที่ประสบความสำเร็จได้อย่างไร
คิดบวกชีวิตเปลี่ยน คนบุญน้อยก็สามารถเปลี่ยนชีวิตได้ “ เพียงแค่ใช้ความพยายามให้มากกว่าคนอื่น เสียสละบางอย่าง เพื่อจะให้ได้บางอย่าง ภายหลังจากประสบความสำเร็จในด้านใดด้านหนึ่งได้แล้ว ค่อยปรับสมดุล ” ไม่ว่าจะเป็นคนมีบุญน้อยหรือเป็นคนมีบุญมาก ทุกคนมีความเท่าเทียมกันนั้นคือ ความคิด คิดบวกสร้างได้ ประสบความสำเร็จได้
คิดบวกสำคัญไฉน การสร้างความสุขได้ในเวลานี้ เดี่ยวนี้ คิดบวกชีวิตเปลี่ยน
ในระหว่างทางที่คุณกำลังเผชิญอยู่กับปัญหาอุปสรรค แล้วรู้สึกท้อสิ้นหวัง มีวิธีช่วยเราได้ด้วยการคิดบวก เพราะมันสามารถชาร์ตพลังใจ ให้ฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง มีความยืดหยุ่นทางความคิด มีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่ได้ ตัวอย่างวิธีคิดบวกมีดังนี้
ถ้าคุณคิดว่าทำอะไรๆก็ไม่สำเร็จ ให้คุณคิดถึง โทมัส เอดิสัน กว่าเขาจะสามารถประดิฐหลอดไฟได้ สำเร็จได้ เขาใช้ความพยายามและเคยล้มเหลวมากถึง 9,999 ครั้ง
ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณ ไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไร ให้คุณลองเข้าไปในโรงพยาบาล แล้วดูคนป่วยสาหัสที่ต้องทนทุกข์ เจ็บปวด ร้องโอดโอย
ถ้าหากคุณรู้สึกว่า ชีวิตของคุณลำบาก ให้มองไปยังคนที่ไม่มีบ้านให้พักอาศัย หรือคนกำลังขอข้าวแกงคนอื่นเขากิน (ต้องขอทาน) หรือไม่ก็เป็นคนที่หาเช้ากินค่ำ
ถ้าหากคุณคิดว่าคุณ เบื่องาน ไม่อยากตื่นเช้าไปทำงาน ให้ลองมองไปที่บุ๊ทคนตกงานและกำลังออกหางาน หรือคนที่กำลังสมัครงานอยู่ที่หน้าบริษัทคุณ
ถ้าหากคุณรู้สึกว่า มีชีวิตไม่สะดวกสบาย ให้คิดถึงเด็กในชนบทที่ต้องเดินเท้าไปโรงเรียน ที่มีระยะทางไกลหลายสิบกิโลเมตร แถมถนนยังเป็นลูกรัง ซึ่งช่วงในช่วงหน้าร้อนก็เต็มไปด้วยฝุ่นฟุ้ง แต่พอถึงหน้าฝนถนนเต็มไปด้วยโคลนตม
คิดบวกชีวิตเปลี่ยน คิดบวกอย่างไร จะช่วยให้สังคมน่าอยู่
เมื่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลทางความคิด ซึ่งความคิดก็จะส่งผลต่อจิตใต้สำนึก จิตใต้สำนึกก็ส่งผลต่อการกระทำ เป็นกระบวนการทำงานของความคิด ซึ่งมีวัฎจักรอย่างนี้
ถ้าหากเราอาศัยอยู่ในสังคมที่น่าอยู่ อยู่กับคนคิดบวก เจอกันทักทายกัน ยิ้มแย้มแจ่มใส เอื่อเฟื้อเพื้อแผ่ ถ้อยทีถ้อยอาศัยให้อภัยซึ่งกันละกัน ไม่ว่าสังคมนั้น จะเป็นที่บ้านโรงเรียนหรือที่ทำงาน คงทำให้เรามีแต่ความสุข มีความเจริญก้าวหน้า มีคุณภาพชีวิตที่ดี
ถึงอย่างไรก็ดี บางครั้งสังคมที่เราอยู่ด้วยไม่ดีอย่างที่คิด และไม่สามารถถอนตัวเองออกจากสังคมนั้นได้ แต่ต้องการให้สังคมที่อยู่รอบๆตัวเรา กลายเป็นคนคิดบวกได้ เทคนิคง่ายๆคือ หากต้องการให้ใครๆ ปฎิบัติต่อเราอย่างไร จงปฏิบัติต่อเขาเช่นนั้นก่อน เช่น อยากให้เขายิ้มให้ เราต้องเป็นฝ่ายยิ้มให้ก่อน ทุกอย่างเริ่มได้ที่ตัวเรา
คิดบวกเป็นสิ่งสำคัญ คิดบวกเปลี่ยนชีวิต มาถึงตอนนี้แล้ว หากยังไม่ประสบความสำเร็จและกลายเป็นคนคิดบวกได้ เพียงแค่เข้าใจ ในประโยชน์จากพลังแห่งการคิดบวก ซึ่งมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตประจำวัน และสร้างความสุขให้แก่ชีวิตได้ จงพยายามฝึกคิดบวกต่อไป ทดลองใช้เคล็ดลับวิธีคิดบวก ฝึกคิดบวกอย่างต่อเนื่อง เพื่อการตอกย้ำความคิดบวก ถึงแม้ว่าการคิดบวกของเรายังไม่ส่งผลในเวลานี้ แต่สิ่งที่เราได้รู้คือ คิดบวกเป็นสิ่งดี
อ่านต่อ: ตอนที่สาม