ท้อแท้สิ้นหวัง ช่วงวิกฤตชีวิต เมื่อความล้มเหลวและการสิ้นหวังมาเยือน จะทำเช่นไร

      การทำธุรกิจหรือแม้แต่การทำงาน ถ้าไม่มีอุปสรรคปัญหาขวางกั้นความสำเร็จก็คงดี  เพราะจะทำให้ทุกๆคนมีแต่ความสุขความเจริญ คงไม่มีภัยทางสังคม คงไม่ได้ยินข่าวร้ายบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เช่น การฆ่าตัวตายของนักธุรกิจใหญ่ ข้าราชการผู้ใหญ่ระดับสูงยิงตัวตาย อันเนื่องมาจากความผิดพลาดบางของชีวิตเกิดภาวะ ท้อแท้สิ้นหวัง ซึ่งเมื่อชีวิตเกิดวิกฤตชีวิตขึ้นแล้วไม่สามารถหาทางออกที่ดีและสร้างสรรค์ให้แก่ตนเองได้

    ” ตามกฎของธรรมชาติที่งานทุกงาน ย่อมมีปัญหาอุปสรรค ตามความยิ่งใหญ่ของผลลัพธ์แห่งความสำเร็จ ”  ธุรกิจที่มีขนาดใหญ่หรืองานในระดับตำแหน่งสูงก็ย่อมมีความล้มเหลวครั้งยิ่งใหญ่แอบซ่อนอยู่ และหากตัดสินใจที่ผิดพลาด ชีวิตต้องเผชิญกับคำว่าการสูญเสีย เสียเวลา เสียเงิน เสียความรู้สึก ซึ่งการสูญเสียนั้นจะเลวร้ายรุนแรง  ขึ้นอยู่กับปริมาณผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตนั้นเอง

        การตกอยู่ในสภาวะ ท้อแท้สิ้นหวัง จะมีผลร้ายจนไม่สามารถควบคุมภาวะอารมณ์ได้ นอกจากปัญหาไม่ถูกแก้แล้ว ยังมีข้อเสียต่างๆมากมาย  ตกอยู่ในสภาวะเครียดทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิต แล้วจะส่งผลเสียต่อทำงานของร่างกาย  เมื่อจิตและสมองผิดปกติทำให้ต่อมไร้ท่อทำงานแปรปรวน ส่งผลต่อภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ต่ำ จึงทำให้เกิดโรคต่างๆ มากมาย เช่น โรคกระเพาะ โรคความดันโลหิตสูง ระบบภูมิคุ้มกันต่ำ นอกจากนี้ความเครียด ส่งผลต่อพฤติกรรมการกิน จึงทำให้เกิดโรคอ้วน โรคเบาหวานและภาวะโรคเสื่อมต่างๆของร่างกายได้

       แต่เมื่อช่วงวิกฤตชีวิตมาเยือน จะปฏิบัติตนเช่นไร ถึงจะสามารถควคุบภาวะทางอารมณ์ได้ มีเทคนิควิธีคิดเช่นไร เพื่อให้ช่วงวิกฤตอันเลวร้ายนั้นผ่านพ้นไปได้กับ  8 วิธีคิดเพื่อล้มความ ท้อแท้สิ้นหวัง ให้ผลิกฟื้นชีวิตให้กลายมาเป็นคนที่มีชีวิตชีวา สามารถกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อีกครั้งดังนี้

ท้อแท้สิ้นหวัง

ท้อแท้สิ้นหวัง

     

         1. จงอย่าอยู่ว่าง เพราะการอยู่ว่างจะทำให้คุณจมอยู่กับความคิดเชิงลบ  ให้ตั้งคำถามกับตนเองว่า ทำไม “ เราอยู่มาถึงปัจจุบันได้ ”  ให้คิดว่า ปัญหาที่กำลังเผชิญในขณะนี้ ตัวเราไม่ได้เป็นผู้พบเห็นปัญหานี้เพียงแค่คนเดียว  ยังมีคนอื่นๆอีกมากมาย ที่ต้องเผชิญกับปัญหาอันหนักหนาสาหัสมากกว่าเรา จงเอาตนเองออกจากตัวปัญหา แล้วใช้ความคิดความรู้ เพื่อวิเคราะห์สาเหตุข้อเท็จจริง เพื่อแก้ไขปัญหา หากปัญหามันสุดวิสัย ที่มนุษย์ธรรมดาอย่างเราจะทำได้ จงยืดหยุ่นแล้วปล่อยสิ่งนั้นไป  เริ่มต้นกับเป้าหมายใหม่

        ขนาดผลลัพธ์แห่งความสำเร็จ ยิ่งการทำงานในตำแหน่งที่สูงขึ้น ก็ยิ่งจะมีปัญหาใหญ่ที่ต้องเผชิญมากมาย ดังนั้นจงอย่าหยุดที่จะเรียนรู้ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเองพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น เรียนรู้ตลอดชีวิต

      2. ปัญหาทุกปัญหา เดี่ยวมันก็ผ่านไป ( This too Shall Pass ) ยิ่งทำยิ่งพบปัญหา แต่ยิ่งสามารถแก้ปัญหาได้ ก็ยิ่งสบาย การลงมือสิ่งต่างๆแล้วทำให้ปัญหาผ่านไปได้ด้วยดี  จะทำให้เกิดการเรียนรู้และมีทักษะหลากหลายด้านมากขึ้น ถึงแม้การแก้ปัญหาบางครั้ง ไม่สามารถสร้างความสำเร็จได้ แต่เราก็ยังได้เรียนรู้ประสบการณ์จากความล้มเหลวนั้นได้  และท่องจำเอาไว้ว่าไม่มีความสำเร็จยิ่งใหญ่ใด ที่สามารถลงมือทำเพียงแค่ครั้งเดี่ยวแล้วประสบความสำเร็จ เมื่อล้มเหลวจงอย่าหยุดความเพียร

         ยกตัวอย่างเช่น โทมัส อัลวา เอดิสัน (สุดยอดนักประดิษฐ์ของโลก) กว่าเขาจะสามารถประดิษฐ์หลอดไฟ จนสำเร็จเป็นครั้งแรกของโลกได้ เขาต้องพบกับคำว่า ล้มเหลว มากถึง 999 ครั้ง

         ผลลัพธ์แห่งความสำเร็จไม่อยู่ที่ ถ้วยรางวัลแห่งชัยชนะเพียงอย่างเดี่ยว แต่อยู่ที่ความสำเร็จจากการแก้ไขปัญหา

          การทำงานที่ยิ่งใหญ่มักจะอยู่ภายใต้ความกดดัน เมื่อเราสามารถทำมันจนประสบความสำเร็จ ก็ถือว่าเป็นเพชร เพราะเพชรเกิดขึ้นจาก คาร์บอนที่มีมูลค่าน้อยๆ แต่เมื่อมันเจอแรงกดดัน (Pressure) เป็นเวลานานๆ ในที่สุดจะทำให้มันกลายเป็นเพชร ซึ่งมีมูลค่ามาก”

         3. เมื่อพบปัญหาคิดให้เล็ก ถึงแม้ว่าปัญหาที่กำลังเผชิญจะสาหัส หากคิดให้เป็นเรื่องเล็กๆ ก็จะไม่เกิดความเครียดมาก  ขนาดของปัญหาจะใหญ่หรือเล็ก ก็อยู่ที่เราคิดเราให้น้ำหนักกับมัน  การให้ขนาดคือการอุปโลกน์ขึ้น เพื่อให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น ของบางสิ่งเช่น จานกว้าง 10 นิ้ว เราก็ว่ามันมีขนาดใหญ่  ตรงกับข้ามหลังคากว้าง 10 นิ้ว เราก็ว่ามันมีขนาดเล็ก

         ดังนั้นเมื่อตกอยู่ในสภาวะที่กำลังเผชิญปัญหา ให้คิดว่า มันเป็นเพียงแค่ชั้นฟิล์มบางๆที่ขวางกั้นความสำเร็จ  จงอย่ามองปัญหาว่าเป็นตัวปัญหา จงค้นหาข้อเท็จจริงและสาเหตุของปัญหาเกิดขึ้น แล้วค้นหาวิธีการแก้ไข

          4. ถึงแม้ว่าจะเรื่องเดียวกัน อย่าเปรียบเทียบสิ่งที่เราทำกับคนอื่นทำ  ความภูมิใจและเข้าใจในความสามารถและทักษะของตน การประเมินและการยอมรับในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ ทั้งความรู้ ความสามารถ ทักษะ และพื้นฐานด้านต่างๆ จะทำให้ตนเองไม่หยิ่งทรนง และพร้อมที่จะเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ

           “ ความยุติธรรมมันมีอยู่จริง ทุกๆการกระทำมันย่อมมีผลลัพธ์  บุญและกรรมอันเกิดขึ้นกับตัวเรานั้น  ตัวเราเองคือผู้สร้างมันเอาไว้  ไม่ว่าจะพื้นฐานความรู้ ความขยัน ความอดทน ความพากเพียรและประสบการณ์  จึงทำให้ชีวิตของคนเรามันต่างกัน จากผลลัพธ์ของการลงมือทำที่แตกต่างกัน ”  

             ดังนั้นจงอย่าให้ความสำคัญกับผลงานของคนอื่น ให้ทำงานตามบทบาทหน้าที่ที่ตนเองต้องรับผิดชอบ แล้วรู้จักรับผิดและรับชอบงานตนเองให้ดีที่สุด อย่าอิจฉาริษยาใคร หากต้องกลายเป็นผู้แพ้ในการแข่งขัน จงชื่นชมยินดีกับคนอื่นที่เขาประสบความสำเร็จ และเมื่อตนเองทำงานจนประสบความสำเร็จ จงให้รางวัลกับตนเอง เพื่อตอกย้ำประสบการณ์แห่งการได้รับชัยชนะให้กับจิตใตสำนึก จะทำให้เราคือผู้ที่เข้มแข็ง

        5. จงอย่าหนีปัญหา เพราะอย่างไรทั้งชีวิตของทุกๆคนก็ต้องเจอกับปัญหาและไม่มีผู้ใดหนีปัญหาไปได้  การหลีกหนีปัญหาไม่แน่ว่า เรานั้นอาจจะพบกับปัญหาที่มีขนาดใหญ่มากกว่าหลายเท่าตัว  การหนีปัญหาจะทำให้เรากลายเป็นผู้แพ้ตลอด ให้คิดบวกเชิงสร้างสรรค์และการมองโลกในแง่ดีเช่น ปัญหามีไว้ให้ฝึกฝนทักษะ ปัญหามีไว้สร้างความเข้มแข็ง  ปัญหามีไว้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และการเรียนรู้  จนฝึกเผชิญกับการแก้ไขปัญหาให้ประสบความสำเร็จ เพราะจะช่วยพัฒนาความแข็งแกร็งทางด้านจิตใจ มีความมั่นคงทางอารมณ์มากยิ่งขึ้นและช่วยสร้างความกล้าหาญได้มากยิ่งขึ้น

          6. อย่าสำคัญตัวเอง อย่าคิดว่าเราเก่งอยู่คนเดียว ต้องเปิดใจรับฝังความคิดเห็นของคนอื่น ต้องมีภาวะความเป็นผู้นำ “อยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ แต่ต้องอยู่ในที่ ที่เรามีความสำคัญที่สุด ” ต้องเปลี่ยนจากคำว่าเรา (I) เป็นคำว่าพวกเรา (WE) การสำคัญตนเองมากจนเกินไป จะทำให้เรากลายเป็นคนที่ไม่น่าคบของคนอื่น ความมั่นใจอะไรบางอย่างจนไม่เปิดใจรับฝังความคิดเห็นจากคนอื่น จะทำให้ตนเองกลายเป็น แกะขาวในฝูงหมาป่า  การสร้างคุณค่าให้กับตนเองถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่อย่าสำคัญตนว่า เป็นคนที่มีคุณค่าสำหรับผู้อื่น

         7. ไม่แพ้ ” ไม่เคยมีใครแพ้  จนกระทั่งตนเองได้ตัดสินใจว่าเป็นผู้แพ้ ” จะต้องรู้ว่า จะจัดการกับปัญหานี้อย่างไรต่อไป “  ต้องคิดเสมอว่าจะทำอย่างไรให้ดีขึ้นได้ เมื่อเคยแพ้ ก็จะต้องนำบทเรียนจากการล้มเหลวไปแก้ไข เพื่อทำให้เรากลายเป็นผู้ชนะ” การไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ในที่สุด จะกลายเป็นผู้ชนะ

            อย่าบอกตนเองว่า เป็นผู้ผ่ายแพ้  ทั่งๆที่ยังไม่ได้ลงมือทำสิ่งใดๆ ควรทำงานด้วยความเพียร ด้วยการทุ่มเทสรรพกำลังของตน ลงมือทำด้วยความเชื่อมั่นศรัทธาในความสามารรถของตนเองอย่างต่อเนื่อง ต้องสร้างแรงจูงใจและแรงบันดาลใจ  สามารถให้กำลังใจตนเองได้ ด้วยวิธีป้อนพลังเชิงบวกแก่จิตสำนึกให้มีจำนวนความคิดบวกเพิ่มมากขึ้น  แต่ในบางเหตการณ์ต้องสามารถยืดหยุ่นได้คือ สามารถเผชิญปัญหาทั่งที่เป็นเชิงบวกและเชิงลบได้

         8. “ อย่าใส่ใจกับความผิดพลาด ” ทุกๆคนที่ประสบความสำเร็จบนโลกนี้ ต้องลงมือทำงาน และการลงมือทำงาน ย่อมต้องเผชิญกับความผิดพลาดและล้มเหลวมาแล้วทั้งนัน  มีพระวัดหนึ่งจ้างช่างก่ออิฐที่เก่งและฝีมือดีที่สุด ให้ทำการก่ออิฐ 1000 ก้อน เพื่อสร้างฐานพระพุทธรูป เมื่อลงทำจนแล้วเสร็จ พบว่ามีอิฐ 2 ก้อนโพล่ออกจากก้อนอื่นๆ ช่างก่ออิฐฝีมือดีคนนั้นจะนำปูนมาก่อทับ แต่พระองค์นั้น ท่านไม่ให้ทำการแก้ไข

          ในเวลาต่อมา เมื่อมีคนมาเยี่ยมชมพระพุทธรูป ก็มักจะพูดกันถึงอิฐ 2 ก้อนนั้นว่า สวยดี เพราะแปลกกว่าอิฐก้อนอื่นๆ  เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จงอย่าเอาใจใส่ไว้กับก้อนอิฐ อันเกิดขึ้นจากความผิดพลาดเพียงแค่ 2 ก้อน ให้คิดว่าเรายังมีอิฐดี ถึง 998 ก้อน ซึ่งถือได้ว่ามีจำนวนอิฐดี มากกว่า

ผู้ชนะจะไม่มีคำว่า ท้อแท้สิ้นหวัง

        ผู้ชนะมักสร้างทัศนคติเชิงบวก มีสติสติสัมปชัญญะ มีสมาธิเมื่อต้องเผชิกับปัญหา สามารถควบคุมตนเองได้ สร้างแรงบันดาลใจได้ เพื่อให้หลุดพ้นจากความพ่ายแพ้ เรียนรู้วิธีสร้างความสุขให้กับตนเองได้

        นอกจากนี้ยังต้องหัดสร้างเข้าใจกับความรู้สึกของคนอื่นและสร้างสัมพันธ์อันดีกับคนอื่นได้ สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้อื่นได้ เพราะเราสามารถนำจุดแข็งของผู้อื่นมาปรับใช้ ให้กลายเป็นความชำนาญเฉพาะตนได้  เมื่อล้มเหลวให้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะมันช่วยให้ทำให้ ท้อแท้สิ้นหวัง ถูกลบเลือนไปได้เร็วขึ้น ก็จะกลับมาเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง

               สร้างภูมิคุ้มกันภาวะ ท้อแท้สิ้นหวัง ด้วยวิธีสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาในความสามารถ ด้วย 6 วิธีสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง  1) ให้คิดถึงสิ่งที่ตนเองเคยลงมือทำแล้ว ประสบความสำเร็จ 2) ค้นหาว่าเรามีจุดแข็งอะไรบ้างแล้วส่งเสริม ความแข็งแกร่งในจุดแข็งของตนเอง 3) จินตนาการผลลัพธ์ของเป้าหมาย ก่อนลงมือทำจนประสบความสำร็จ ให้ผูกเป้าหมายกับสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต 4) ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม เติมเต็มในสิ่งที่ขาด โดยเฉพาะความรู้ที่สามารถ ในอาชีพที่สามารถสร้างความสำเร็จในชีวิตได้  5) การตอกย้ำความเชื่อมั่น ด้วยการให้รางวัลกับความสำเร็จถึงแม้ว่า ความสำเร็จในครั้งนั้นมันจะเล็กน้อย 6) สร้างความเชื่อมั่นและสร้างความศรัทธาในความสามารถ ลงมือทำงานด้วยความมุ่งมั่นและฟันฝ่าอุปสรรค คิดบวกเชื่อว่า คนอื่นทำได้ เราทำได้

ท้อแท้สิ้นหวัง

           อยู่กับเป้าหมาย จะแพ้จะชนะอยู่ที่ตัวเรา ทุกสิ่งเกิดจากความคิด ทัศนคติ และเชื่ออย่างหมดใจ จงเป็นผู้สร้างบุญด้วยการลงทุนให้กับตัวคุณเอง ปรับปรุงพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ศึกษาหาความรู้เพิ่ม เมื่อเจออุปสรรค ท้อได้ แต่อย่าถอย อย่า ท้อแท้สิ้นหวัง ชีวิตเรา…สร้างได้

บทความแนะนำ: ฝึกคิดบวกจิตใต้สำนึก 

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *