พืชเกษตรทำเงิน

พืชเกษตรทำเงิน จะลงมือทำอะไรดี เมื่อคิดจะลาออกจากงานประจำ

อาชีพลูกจ้างประจำ แม้มันจะมีข้อดีหลายๆด้านอย่างเช่น มีรายได้ทุกๆเดือน เดือนไหนที่มีโอที ก็ยิ่งจะมีเงินเพิ่มมากขึ้น เป็นอาชีพที่มีความมั่นคง  เงินเดือนจะเพิ่มขึ้นเมื่ออายุงานเพิ่มมากขึ้น เพราะนายจ้างจะจ่ายค่าจ้างตามทักษะความชำนาญ ความสามารถที่พัฒนามากยิ่งขึ้น  แต่การเป็นลูกจ้างก็มีข้อมีข้อเสียอยู่หลายด้านเช่นกัน อย่างเช่นขาดความเป็นอิสระด้านเวลาที่ต้องไปตอกบัตรเข้าทำงาน และหากคุณไม่ไปทำงานคุณก็จะได้ไม่รับเงินค่าจ้าง 

ปัจจุบันจึงมีลูกจ้างประจำหลายๆคน พยายามหันออกไปเลือกอาชีพที่ตอบโจทย์ชีวิตของตนเองมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น การค้า ขาย การทำธุรกิจของตนเอง  แต่ก็มีหลายๆคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงทำให้มนุษย์เงินเดือนไม่กล้าหลีกหนีความมั่นคงไปได้

หากคิดจะลาออกจากงานประจำก็ยังอาชีพที่เป็นพื้นเทของมนุษย์ยุคต้น  ที่สามารถเลี้ยงชีพตนเองได้นั่นคือ การทำการเกษตร และด้วยอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ท่านทรงได้มอบแนวคิดการทำการเกษตรแบบพอเพียง การเกษตรทฤษฎีใหม่  ท่านให้ทำการเกษตรด้วยความเพียรคือการทำด้วยความวิริยะอุตสาหะอย่างต่อเนื่อง ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก หากเหลือก็นำไปขายแบ่งปันคนอื่นได้

การคิดจะลาออกจากงานประจำจึงต้องมีแผนในการลาออก แล้วหากแผนที่มีคือทำการเกษตรแล้วละก็ ต้องเลือกพืชเกษตรที่เหมาะสมกับพื้นที่ เหมาะสมกับอากาศการ การดูแลรักษาให้เจริญเติบโตให้ผลผลิตที่ง่าย  มีผู้ที่จะซื้อพืชที่ปลูกไปบริโภค  ซึ่ง Besterlife ขอแนะนำ พืชการเกษตรทำเงิน ดังนี้

1. ฟักทอง  ฟักทองถือได้ว่าเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถบริโภคได้ทั้งผลอ่อนและผลแก่  หรือแม้แต่ยอดของฟักทองก็สามารถเก็บนำไปเป็นผักได้  ยอดฟักทองสามารถต้มลวกจิ้มกับน้ำพริกหรือทำแกงได้  ประโยชน์ของฟักทองมีมากมาย มีเบต้าแคโรทีน มีวิตามินเอสูงช่วยบำรุงสายตา มีแคลเซียมช่วยบำรุงกระดูก มีวิตามินซีช่วยให้ฟันแข็งแรงเสริมสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวพรรณดี  นอกจากนี้ฟักทองยังมีไฟเบอร์สูงช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี

จึงทำให้ฟักทองยังคงเป็นที่นิยมของผู้บริโภคชาวไทยทุกบ้านและยอดของฟักทองก็ยังมีคุณค่าทางสารอาหารที่ให้แคลเซียมฟอสฟอรัสโปรตีนและ ยังมีวิตามินเอสูง ยอดฟักทองช่วยบำรุงสายตาช่วยในการมองเห็น ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่กระดูกช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ 

จากคุณค่าของฟักทอง จึงทำให้ฟังทองอยู่คู่ครัวของคนไทยมาโดยตลอด  จากความต้องการของตลาดทำให้ราคาของฟักทองไม่ค่อยจะตก แถมยังเป็นที่ต้องการของตลาด ผมจึงเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าฟักทองเป็น พืชเกษตรทำเงิน อย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะทุกวันนี้ฟักทองซีกเล็กๆในตลาดสด ประมาณ 200 กรัมก็ยังมีราคาสูงถึง 20 บาท เลยทีเดียว

2. พืชตระกูลบวบ บวบเหลี่ยม บวบกลม บวกเป็นพืชล้มลึก เป็นเถาวัลย์ต้องที่ยึดเกาะ เกษตรกรมักจะทำค้างให้ บวบได้ยึดเกาะลอยอยู่บนอากาศ เพื่อให้ผลของบวบติดดิน เพราะลูกของบวบจะไม่สวยและมีแมลงเจาะได้ง่าย

ประโยชน์ของบวบก็มีมากเช่นเดียวกับฟักทอง บวบบางชนิดสามารถบริโภคได้ทั้งผลและยอด  บวกมีคุณค่าทางอาหาร ซึ่งมีแร่ธาตุ จำพวกฟอสฟอรัส ธาตุเหล็กและที่สำคัญ มีไฟเบอร์สูงมาก  จึงช่วยเสริมสร้างระบบขับถ่ายให้แข็งแรง บวบเป็นพืชที่ปลูกง่าย ต้องการน้ำน้อยแมลงศัตรูรบกวนน้อย   

บวบสามารถเจริญเติบโตได้ทุกฤดูกาล แต่จะเจริญเติบโตและให้ผลดีในช่วงฤดูหนาว  บวกอยู่คู่ครัวของคนไทยมานาน เพราะมันสามารถทำต้ม ทำแกงหรือผัดได้หลายอย่าง จึงทำให้บวกเป็น พืชเกษตรทำเงิน ที่ดีได้อีกชนิดหนึ่งที่ลงทุนน้อย แต่ให้ผลตอบแทนที่ดี  บวบ 3 ลูกราคา 10 บาทโดยประมาณ

3. น้ำเต้า น้ำเต้าเป็นพืชล้มลุก เป็นไม้เถา เป็นไม้เลื้อยที่ไต่ตามต้นไม้ ตามค้างที่เกษตรกรทำไว้ เพราะน้ำเต้ามีมือที่สามารถเกาะตามพื้นผิวต่างๆได้  สารอาหารในน้ำเต้าผลอ่อน 100 กรัม จะให้สารอาหารมีคาร์โบไฮเดรต 2.2 กรัม มีใยอาหารและมีวิตามินเอสูงถึง 391 หน่วยสากล จึงช่วยในการมองเห็นได้ดี 

ประโยชน์ของน้ำเต้า สามารถทำแกง ทำต้ม  ผลน้ำเต้ามีปริมาณน้ำสูงถึง 96.8% จึงเป็นอาหารเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก  น้ำเต้าผลอ่อนจึงเหมาะกับเทรนด์ของคนในปัจจุบันที่รักสุขภาพ น้ำเต้าปลูกง่ายดูแลง่ายให้ผลผลิตมาก ราคาของน้ำเต้าก็ไม่ค่อยตก น้ำเต้าจึงนับได้ว่าเป็นพืชเกษตรทำเงินที่ดีได้อีกชนิดหนึ่งที่เหมาะสมต่อการลงทุน

4. ต้นหอมต้น ต้นหอมนับได้ว่าเป็นผักสวนครัวที่มีความจำเป็นมาก สำหรับอาหารไทยทุกมื้อเลยก็ว่าได้ คุณค่าอาหารของต้นหอม 100 กรัม จะให้โพแทสเซียมสูงถึง 276 mg ให้โปรตีน 1.8 G และมีเส้นใยสูงถึง 2.6 กรัม นอกจากนี้ยังมีโซเดียมคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล ส่วนสรรพคุณของต้นหอมยังช่วยในการแก้โรคหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหลได้อีกด้วย

การปลูกต้นหอมแม้จะดูแลรักษายาก แต่ต้นหอมเป็นที่ต้องการของตลาดในทุกฤดูกาล จึงทำให้ต้นหอมมีราคาสูงตลอดทั้งปี  ประโยชน์ของต้นหอมเป็นส่วนประกอบในการปรุงรสชาติอาหาร เพิ่มรสชาติอาหารได้ดีขึ้น เพิ่มความอร่อยและความกลมกล่อมได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ต้นหอมยังสามารถนำไปทำเป็นอาหารเช่น เมนูผัดได้  จึงทำให้ต้นหอมกลายเป็น พืชเกษตรทำเงิน โดยปริยาย

5. ผักชีนับได้ว่าเป็นหนึ่งของพืชผักปรุงรส ช่วยปรับรสชาติของอาหารให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอาหารไทยหรือใส่ในน้ำชุบ จะช่วยสร้างกลิ่นและหน้าตาของอาหารดูน่ากิน รสชาติดีกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

สารอาหารในผักชีก็มีคุณค่าทางโภชนาการมาก ในผักชี 100 กรัม มีโปรตีน 2.23 กรัม แล้วยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ สูงมากถึง 332 ไมโครกรัม ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของเบต้าแคโรทีน(Beta carotene) 3930 ไมโครกรัม, ลูทีนและซีแซนทีน 865 ไมโครกรัม  และยังมีวิตามินเอสูงถึง 27 mg ผักชีไทยมีสรรพคุณช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย แก้อาการกระหายน้ำ แก้ไอ แก้หวัดคลื่นไส้อาเจียน ช่วยเจริญอาหาร จากสรรพคุณนี้ทำให้ผักชีไทย โด่งดังไปยังประเทศญี่ปุ่น  ดังนั้นจึงทำให้ผักชีมีราคาสูงในท้องตลาด จึงเป็น พืชเกษตรทำเงิน ที่น่าจับตามอง

6. ใบโหระพา ต้นโหระพาเป็นพืชล้มลุก ประโยชน์ของใบโหระพาสด นำมาใช้ในการปรุงอาหารประเภทต่างๆอย่างเช่น แกงเขียวหวาน ใส่ก๋วยเตี๋ยว กินสดๆกับอาหารประเภทลาบ จึงทำให้โหระพาเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก  ยิ่งไปกว่านี้โหระพาสามารถทำเป็นน้ำมันหอมระเหยได้อีกด้วย สามารถนำไปใช้ในการแต่งกลิ่นอาหาร  กลิ่นของเครื่องสำอาง 

สรรพคุณของโหระพาใช้แก้โรคท้องอืด ท้องเฟ้อ ใช้ในการขับลม แก้จุกเสียดแน่นท้องเป็นต้น ถึงแม้ว่าโหระพาจะมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ แต่การปลูกโหระพามีแมลงศัตรูสูงมากเช่นเดียวกัน จึงทำให้การดูแลค่อนข้างยาก แต่เป็นที่ต้องการของตลาด จึงทำให้โหระพากลายเป็นพืชเกษตรทำเงินได้อีกชนิดหนึ่งที่ปลูกแล้วคุ้มค่า

7. ผักคื่นช่าย  เป็นผักพืชสมุนไพรที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ  คนที่ชอบก็มักจะบอกว่ามีกลิ่นหอม โดยส่วนมากแล้วนิยมนำไปปรุงรสของน้ำซุปต่างๆหรือนำไปใช้กับอาหารประเภทผัดต่างๆ 

สรรพคุณของคื่นช่ายมีโพแทสเซียมสูง จึงส่งผลดีต่อระบบหลอดเลือด ช่วยทำให้หลอดเลือดขยายตัวได้ดี ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยในการขับปัสสาวะ  จึงสามารถช่วยในการรักษาโรคทางเดินปัสสาวะและโรคเก๊าท์  ช่วยลดอาการปวดตามข้อต่างๆได้ เนื่องจากผักคื่นช่ายดูแลยาก ไม่ชอบน้ำขัง ทำให้ผักชนิดนี้ขาดตลาด มีราคาดี  ก็นับได้ว่า คื่นช่ายเป็น พืชเกษตรทำเงิน ที่มีราคาสูงเป็นพืชที่น่าปลูกอีกหนึ่งชนิด

8. ผักบุ้งหรือผักทอดยอด  ผักบุ้งเป็นผักที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง  ผักบุ้ง 100 กรัมจะให้โพแทสเซียมสูงถึง 312 mg ให้โปรตีนสูงถึง 2.6 กรัม มีวิตามินเอสูงถึง 6300 ไมโครกรัม มีวิตามินซี 55 มิลลิกรัม  มีแคลเซียม 77 mg

ผักบุ้งสามารถนำไปใช้ในการทำเมนูอาหารแบบไทยๆได้มากมายหลายชนิดอย่างเช่น ก๋วยเตี๋ยว ผัดผักบุ้งไฟแดง สุกี้ หมูกระทะ แกงส้ม แกงเทโพ ผักบุ้งลวกจิ้มกับน้ำพริก สารพัดวิธีในการสร้างสรรค์เมนูอาหารใหม่ๆได้หลายอย่าง  จึงทำให้ผักบุ้งยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก  การปลูกผักบุ้งเองก็สามารถทำได้ไม่ยาก ดูแลง่ายใส่ปุ๋ยน้อย ผักบุ้งจึงนับได้ว่าเป็น พืชเกษตรทำเงิน ได้

9. ใบบัวบก  เมื่อประชากรไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ บวกกับเทรนด้านสุขภาพกำลังได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น  ดังนั้นการปลูกพืชสมุนไพรผักที่อุดมประโยชน์ มีคุณค่าสารอาหารช่วยบำรุงสุขภาพ  อย่างใบบัวบกที่มีสรรพคุณดังนี้

 1) แก้ช้ำในช่วยลดอาการอักเสบ  

2) มีวิตามินช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยทำให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่นมีสุขภาพดี  

3) ใบบัวบกมีวิตามินเอสูงจึงช่วยในการมองเห็นช่วยบำรุงสายตา

4) ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมองช่วยเพิ่มความทรงจำได้ดีขึ้น

5) ช่วยลดความเครียด 6) ช่วยลดอาการเจ็บปวด

7) ช่วยลดความร้อนในร่างกาย ลดอาการกระหายน้ำ  

8) ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือด

9) ลดระดับความดันในเลือดช่วยบำรุงโลหิต   จึงทำให้ใบบัวบกถูกนำไปทำเป็นเครื่องดื่มประเภทต่างๆและถูกใช้ในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ ดังนั้น จึงเชื่อได้ว่าใบบัวบกเป็น พืชเศรษฐกิจทำเงิน ได้อีกชนิดหนึ่ง

ทั้งนี้ พืชเศรษฐกิจทำเงิน เป็นพืชที่มีเหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม สภาพอากาศในการเพาะปลูก เมื่อปลูกพืชเหล่านั้นก็จะเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี มีต้นทุนในการเพาะปลูกที่ต่ำและพืชเหล่านั้นเองจะต้องเป็นพืชที่มีความต้องการของตลาด  จะขายได้ราคาดี มีความคุ้มค่าและได้กำไรดีหลังจากการเก็บเกี่ยว สามารถทำเงินสร้างรายได้เลี้ยงชีพได้ หลังจากการลาออกจากงานประจำก็จะมีชีวิตที่มีความสุข   ……ลูกหลานเกษตรกร

บทความที่น่าสนใจ อาหารเช้า อาหารชีวิต ภัยร้ายของการไม่รับประทานอาหารมื้อเช้า

ข้อมูลอ้างอิง www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/ผักชีไทยดังไกลถึงญี่ปุ่น/

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี