ทําบุญไม่ต้องใช้เงิน ไม่ต้องไปวัด ก็สามารถเป็นโพธิสัตว์หรือเป็นโสดาบันได้

ทําบุญไม่ต้องใช้เงิน

          เช้าวันที่ 20 เดือน มิถุนายน 61 เวลา 6.15 นาฬิกา เป็นเวลาที่เราตื่นนอนเป็นปกติ แล้วไปหยิบมือถือ  เพื่อมาสำรวจเวลาและการเคลื่อนไหวต่างๆ ซึ่งเป็นกิจกรรมของคนสมัยนี้  เพราะโทรศัพท์ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญ  ไม่ว่าจะเป็นการติดตามความคืบหน้าในการทำงาน อัพเดทสถานะ ข่าวสาร สังคมออนไลน์ การแชร์อารมณ์ความรู้สึกต่างๆ บนแอพพลิเคชั่นนานาชนิด อาทิเช่น Face Book, Line เป็นต้น  แต่สิ่งหนึ่งที่ปรากฏขึ้นของเช้านี้  โดยเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นั้นคือ   1 สายที่ไม่ได้รับ (Miss Call ) ใน เวลา 5.18  นาฬิกา จึงสร้างความประหลาดใจให้เราได้ไม่น้อย

ทําบุญไม่ต้องใช้เงิน

           เมื่อได้เปิดโทรศัพท์เข้าไปดูรายชื่อ ก็สร้างความตื่นเต้นให้เราเป็นอย่างมาก เพราะสาย Miss Call นั้น  เป็นสายโทรศัพท์ของพระนักปฏิบัติธรรมที่เรานับถือ ซึ่งท่านมีนามว่า หลวงตาหนู แห่งวัดพุทธเมตตา ตั้งอยู่บริเวณทุ่งนาโบน หมู่ 8 บ้านเนินช้างแทง ตำบลสวนเมี่ยง อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก

           วัดนี้เกิดขึ้นจากมีผู้ใจบุญคนหนึ่ง ซึ่งคนคนนั้นก็คือ พ่อของผมเอง แต่ว่าท่านร่วงลับไปแล้ว  ก่อนจะกลายมาเป็นสำนักปฏิบัติธรรม  คุณพ่อของผมท่านได้แจ้งต่อหลวงตาว่า  ถ้าหากผมร่วมกับญาติๆ ทำการถางหญ้าที่ปลายนาให้เตียน แล้วสร้างที่ทำนักสงฆ์ขึ้น แล้ว ให้หลวงตามาปฏิบัติธรรมสถานที่แห่งนี้ หลวงตาจะมาอยู่หรือไม่   หลวงตาท่านก็ตอบตกลง  พร้อมกับบอกกับพ่อว่า หากพ่อของผมเอากระดูกฝังไว้บริเวณผืนดินแห่งนี้  หลวงตาก็จะเก็บอัฐิธาตุไว้ผืนดินแห่งนี้เช่นกัน  ต่อมาวัดก็มีกุฏิ มีศาลา มีพระพุทธรูปคู่วัด มีเจดีองเล็กๆ 2 องค์ จนกระทั้งมาถึงปัจจุบันนี้

ทําบุญไม่ต้องใช้เงิน

 …………… หลังจากนั้นผมจึงได้โทรกลับ จึงทำให้วันนี้นับได้ว่า เป็นวันพิเศษและเป็นวันที่เราได้รับบุญตั้งแต่เช้าตรู่ ทําบุญไม่ต้องใช้เงิน ไม่ต้องไปวัด เพราะมีพระที่เข้าใจในหลักแห่งธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาโปรดสัตว์ผู้อยู่ในวัฏสงสาร โดยท่านก็ได้ถามถึงความเป็นอยู่ของผมเอง หลังจากท่านได้ทราบข่าวว่า ตัวของผมเองกำลังอยู่ในช่วงพักฟื้น หลังจากได้เข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลด้วยการฝ่าตัด ต่อจากนั้นผมก็ได้สอบถามถึงความเป็นอยู่ของท่าน  ท่านก็ได้ชี้แจงว่า ตอนนี้ท่านก็สบาย และช่วงนี้ท่านกำลังอยู่กับการพิจารณาให้เข้าถึงแก่นแท้ของ ขันธ์ทั้ง 5 อันได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เพราะจะช่วยทำให้ท่านเข้าใจ จนสามารถแยกแยะในแหตุของทุกข์เหล่านี้ได้ ผมขออธิบายความหมายขันธ์ 5 เพิ่มเติมนะครับ อันได้แก่

 

1. รูป  เป็น ส่วนต่างๆของร่างกาย ที่เกิดขึ้นจากการผสมกันของธาตุทั้ง 4 อันได้แก่ 1) ธาตุดินเช่น เนื้อหนัง กระดูก   2) ธาตุน้ำอันได้แก่ น้ำเลือดน้ำเหลือง 3) ธาตุลมอันได้แก่ ลม แก็สต่างๆที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาภายในร่างกาย การพายลม การเลอต่างๆ 4) ธาตุไฟ เกิดขึ้นจากการเผาพลานพลังงานในร่างกาย เพื่อสร้างความอบอุ่น

 2.เวทนา เป็น ระบบในการประมวลความรู้สึกต่างๆ ว่า ชอบ,ไม่ชอบ หรือเฉยๆ

3.สัญญา เป็น ความทรงจำสิ่งที่ได้รับ และความรู้สึกที่มีต่อสิ่งนั้นๆ

4.สังขาร เป็น การคิดปรุงแต่ง เพื่อแยกแยะ สิ่งที่ได้รับความรู้สึก  และความจำในสิ่งนั้นๆได้

5.วิญญาณ เป็นการรับรู้สิ่งนั้นๆ ผ่านทางสัมผัสทั้ง 6 อันได้แก่  ตา หู จมูก ลิ้น กายสัมผัส และจิตใจ

ทําบุญไม่ต้องใช้เงิน

              ต่อมาท่านก็ได้สนทนาธรรม ให้เป็นธรรมทานแก่กระผมว่า  ให้ผมปฏิบัติตนให้เป็นคนดี เป็นคนที่มีศีลธรรมอันดี ถึงแม้จะตายไปในภายภาคหน้า หากได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่อีกครั้ง จะได้ไม่กลายเป็นคนที่กระทำความชั่ว เป็นคนดี   ก็มักจะได้ไปเกิดอยู่ในสังคมและกลุ่มคนที่มีปัญญา มีความเจริญรุ่งเรือง แต่ถึงแม้ว่า จะได้ไปเกิดอยู่ในหมู่คนจน  ก็จะไม่ตกทุกข์ได้ยาก ก็จะสามารถทำให้ตนเองร่ำรวย  อยู่สุขสบายขึ้นมาได้ ชีวิตก็จะมีแต่ความสุขความเจริญได้  มีแรงพอที่จะสร้างบุญกุศลได้มากยิ่งๆ ขึ้นไป

              ท่านยังบอกให้เราเป็นคนที่รู้หน้าที่ ทำหน้าที่ของตนให้ถึงพร้อม ในขณะที่ต้องรับผิดชอบชีวิตตนเองและผู้อื่นก็ทำด้วยกำลังความสามารถ

              แต่ท่านบอก ให้หมั่นฝึกฝนทางจิตใจ เพียงแค่การระลึกถึง “การเข้าและออกของลมหายใจ” ขอเพียงแค่เข้าใจในสิ่งนี้ ก็จะเข้าใจในสังขาร รู้เท่าทันเหตุแห่งความทุขก์ เพราะการหายใจเข้า ก็หมายถึงการมีชีวิตอยู่ แต่หากไม่มีลมหายใจออก นั้นก็คือ ความตาย คนเราก็มีอยู่เพียงเท่านี้ เกิดมาแล้วก็ต้องตาย   การพิจารณาที่ลมหายใจ จะทำให้เราเข้าใจธรรมชาติมากยิ่งขึ้นว่า สิ่งมีชีวิตทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นคนหรือ สัตว์เดรัจฉานนานาชนิด เมื่อเกิดมาแล้วก็ต้องดับไป ขันธ์ทั้ง 5 ก็จะถูกแยกแตกสลายออกไป ส่วนที่เป็นรูปก็สลายไปเป็นธาตุทั้ง 4 อันได้แก่ ดิน น้ำ ลม และไฟเป็นต้น

ทําบุญไม่ต้องใช้เงิน

               การเข้าถึงหลักธรรม  เพียงแค่การเฝ้ามองที่ลมหายใจนี้  ไม่จำเป็นว่า  จะทำได้ก็เฉพาะผู้ที่บวชเป็นพระเท่านั้น  การเป็นผู้ครองฆราวาส ก็สามารถทำสิ่งนี้ได้ดี  ขอเพียงแค่รู้และเข้าใจแห่งการเกิดและดับไป ก็จะทำให้เราเป็นคนดีได้  เป็นคนที่อยู่ในศีลและปฏิบัติธรรม ก็สามารถเป็นโพธิสัตว์หรือเป็นโสดาบันได้

              การเป็นคนมีธรรมะนี้ ถึงจะมีลูก มีเมีย แต่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ในธรรมรักษาศีล จนถึงขั้นสามารถละกามราคะคือ การลดละความเพลิน ใน รูปรสกลิ่นเสียง กาม อารมณ์ ต่างๆ รวมทั้งการทำให้ความโกรธเบาบางลงได้ หรือการลดลงถึงครึ่งหนึ่งก็สามารถเป็น สกิทาคามี (ผู้กลับมาเกิดเพียงครั้งเดียวก็บรรลุนิพพานได้) ได้

             แต่หากสามารถยับหยั้งกามและอารมณ์โกรธ ไม่ให้แสดงออกมาได้  ก็เท่ากับว่าจัดอยู่ในขั้น อนาคามี ก็จะไม่กลับมาเกิด ในกามาวจรภพอีก หลังจากนั้นหลวงตาท่านก็ยังได้ให้พรแก่กระผมก่อนจะจบการสนทนาธรรมในครั้งนี้  ขอให้มีความสุขความเจริญ สาธุ….. แบ่งปันบุญ ทําบุญไม่ต้องใช้เงิน ไม่ต้องไปวัด

 

บทความที่น่าสนใจ  เทคนิคการเสริมดวง ชะตางานและเงินให้รุ่งโรจน์ตลอดทั้งปี

 

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *