วิธีคิดบวก PDCA วิธีเปลี่ยนตัวเองให้ คิดบวกชีวิตบวก คิดบวกชีวิตดี

        ในบทความที่ผ่านๆมา เราได้ทราบถึงความหมายคิดบวก ความสำคัญของคิดบวก คิดบวกส่งผลดีต่อจิตใต้สำนึก แล้วยังส่งผลประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะการคิดบวกจะส่งผลดีต่อระบบการหลั่งของฮอร์โมน ทำให้คนที่ป่วย หายป่วยได้ รวมทั้งการรู้ถึงเทคนิคในการคิดเชิงบวกได้สำเร็จ ด้วยหลักของการฝึกฝนปฏิบัติตามหัวใจแห่งการคิดบวก  สุ จิ ปุ ลิ  คือ การพูด การทำ การอ่าน การเขียน เป็นระบบการคิดเชิงบวกเพื่อคนคิดบวก ซึ่งเป็นพื้นฐาน วิธีคิดบวก แบบต่อเนื่องด้วยหลัก PDCA

วิธีคิดบวก

วิธีคิดบวก

        ใครที่สามารถคิดเชิงบวกได้ ในขณะที่ชีวิตกำลังเผชิญกับปัญหา ก็จะทำให้มีความมั่นคงทางภาวะอารมณ์มากยิ่งขึ้น เป็นคนใจเย็นขึ้น รู้จักการคิดตรึกตรองได้รอบด้านมากยิ่งขี้น ก่อนที่จะแสดงอากัปกริยาอะไรออกไป จึงสามารถรับมือได้ทั้งสิ่งที่เป็นบวกหรือเป็นลบก็ตาม

        จากแนวคิดพลังแห่งความคิดและอำนาจทางจิต คือหัวใจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ เพราะอิทธิพลทางความคิด จะไปกระตุ้นจิตสำนึก พฤติกรรมต่างๆ ที่จะตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น คนที่คิดบวกเชิงสร้างสรรค์  ก็จะแสดงพฤติกรรมในด้านบวก

        คิดบวกจะทำหน้าที่เปลี่ยนชีวิตให้ดีมากยิ่งขึ้นได้ คิดบวกคือเข็มทิศชีวิต สำหรับคนที่ต้องการพัฒนาตนเอง ซึ่งการคิดบวกจะสามารถควบคุมทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อการเผชิญกับปัญหาอุปสรรคได้อย่างมีสติ สามารถคิดสร้างสรรค์  คิดดีได้ถึงแม้ว่า จะตกอยู่ในเหตุการณ์คับขัน มีสติและควบคุมอารมณ์ได้ ถึงแม้ว่าจะมีสิ่งยัวยุกิเลสหรือต่อมโมโห  จะสามารถแก้ไขปัญหาอุปสรรคได้และช่วยสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพตนเองได้มากยิ่งขึ้น

         คนที่คิดบวกจะไม่ทำให้ชีวิตจมอยู่กับความล้มเหลว แต่เมื่อรู้ว่าผิดพลาดก็มักจะค้นหาสาเหตุของปัญหาแล้วทำการแก้ไขปัญหา ให้ดียิ่งขึ้นกว่าสิ่งที่เคยปฏิบัติมาแล้วในอดีต คนคิดบวกจะปรับเปลี่ยนกระบวนการ วิธีการหรือกลยุทธ์ใหม่ๆ ให้ไปสู่ความสำเร็จได้ ส่วนคนคิดลบมักจะจมอยู่กับตัวปัญหา มักจะท้อแท้สิ้นหวังเพราะคิดว่าสิ่งที่ไม่ประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องเลวร้ายทุกๆเรื่อง  การคิดบวกที่ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายจิตใจ ก็จะช่วยทำให้เราสามารถอาศัยอยู่ร่วมกันในสังคม เป็นไปอย่างมีความสุข ได้อีกด้วย

       ทำไมคนเราแม้จะเคยผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตร เพื่อการคิดบวกมาแล้วมากมาย  แต่ก็ไม่เคยคิดเชิงบวกสำเร็จได้สักที โดยที่สถาบันต่างๆก็มีความเชี่ยวชาญ มีเทคนิคการสอนด้านเชิงบวกดีแล้วก็ตาม แต่ภายหลังจากการฝึกอบรมเราก็ไม่ได้นำไปปฏิบัติจริง หรือไม่ก็การลงมือทำเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ เมื่อเวลาได้ผ่านไป ก็ได้ทิ้งแนวคิดและ วิธีคิดบวก เหล่านั้นไป

       เพราะคนเรามีขีดจำกัด มีภาวะทางอารมณ์และความคิดไม่มั่นคงนั้นเอง ซึ่งคนธรรมดาโดยทั่วไปจะไม่สามารถควบคุมจิตได้ทุกเวลา ความคิดก็เหมือนเส้นกราฟ มีขึ้น-ก็ย่อมมีลงเป็นธรรมดา มีความไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อม เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ต่างๆ ตามสิ่งที่ได้รับรู้ พื้นฐานทางความคิด ประสบการณ์  วิธีคิดบวกก็เช่นเดียวกัน

        จะทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จในการคิดเชิงบวกได้ทุกสถานการณ์ ถือแม้จะเป็นเรื่องท้าทาย เพราะปัจจัยสภาพแวดล้อมในชีวิตประจำวันของมนุษย์อย่างเราๆ ไม่มีเฉพาะเรื่องดีๆเท่านั้น แต่ต้องเผชิญกับเรื่องเลวร้าย ที่บีบบังคับให้การคิดเชิงบวกได้น้อยลง

        เมื่อเรารู้ว่ากระบวนการทางความคิด ถูกควบคุมตามเชิงปริมาณแนวคิดในจิตใต้สำนึก นั้นหมายความว่า หากจิตสำนึกมีปริมาณ คิดบวก คิดดีคิดเชิงสร้างสรรค์มาก เราก็จะคิดบวกได้อย่างต่อเนื่อง  ดังนั้นเพื่อป้อนปัจจัยเชิงบวกเหล่านั้นให้กับจิตใต้สำนึกทุกๆวัน จึงถือได้ว่าเป็นเทคนิค วิธีคิดบวก ได้อย่างยั่งยืน คล้ายๆกับการแปรงฟัน หรือการทำอะไรแบบซ้ำๆ ที่เป็นกิจวัตรต้องทำทุกๆวัน จะช่วยทำให้เกิดความชำนาญได้มากยิ่งขึ้น กลายเป็นความเชี่ยวชาญ ซึ่งการสะสมปริมาณความคิดเชิงบวกให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ ก็จะกดทับปริมาณความคิดเชิงลบให้เหลือน้อยลงได้สำเร็จ

           วิธีสร้างความคิดบวกให้ได้อย่างต่อเนื่องได้ ด้วยกระบวนการ PDCA ของ Deming แม้ว่าจะเป็นแนวคิดเชิงระบบอย่างง่าย แต่เป็นวงจรที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้นี้ ถือได้ว่ามีประโยชน์ต่อการพัฒนาและการปรับปรุงสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้นอย่างเป็นระบบและมีความต่อเนื่องได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด  เช่นเดียวกับการคิดบวก  เราสามารถนำเอาหลักแนวคิดของ PDCA นี้ มาประยุกต์ใช้กับกระบวนการคิดบวกได้

         วิธีคิดบวก PDCA  เป็นระบบในการพัฒนาการคิดบวกได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้

วิธีคิดบวก

          P: Planning (คือ การวางแผน) เป็นขั้นตอนเตรียมพร้อม เขียนแผนประจำวัน เพื่อสะสมจำนวนความคิดบวกให้มากขึ้น โดยค้นหาสิ่งดีๆคำพูดดีออกมาได้มากที่สุด  ซึ่งสามารถรวบรวมจากแนวคิดบวกเชิงสร้างสรรค์ จากคนอื่นๆและของตัวเองได้

         การค้นหาในความดีของคนอื่น จะช่วยเปิดโลกทัศน์ให้มีมุมมองกว้างมากยิ่งขึ้น ด้วยการอ่าน การฟังหรือการสนทนา แนวความคิดดีๆ ของคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตเช่น คำคมของคนต้นแบบ ความเชื่อแนวคิดทัศนคติของปราชญ์  วิธีคิดของนักธุรกิจที่พวกเขาเคยผ่านเรื่องเลวร้ายมาจนสร้างความสำเร็จได้

          การสะสมปริมาณความคิดเชิงบวกที่ได้จากความดีของตน เป็นการคิดถึงแง่ดี จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับการดำเนินชีวิตที่ผ่านมา หรือแม้แต่ความรู้สึกนึกคิดในด้านดี  แล้วนำความคิดดีๆเหล่านั้นไปเขียนลงในสมุดความคิดดีสักหนึ่งเล่ม โดยทำให้เป็นประจำ เขียนวันละอย่างน้อย 5 วลี

ตัวอย่างและเทคนิค เพื่อค้นหาข้อดีของตัวเองในอดีต

  • เคยบริจาคเงินให้คนขอทาน

  • ให้อภัยเพื่อนที่เคยด่า เคยดูถูกเรา

  • เคยบริจาคเงินสร้างพระ สร้างโรงทาน สร้างสะพาน สร้างโบสถ์

  • เหตุการณ์ที่ตนเองภูมิใจ  สามารถแก้ปัญหายากๆจนสำเร็จ

  • เหตุการณ์ที่เราได้รับคำชม แล้วเราน้อมรับด้วยความใจจริง

    ให้ทำตัวเป็นคนน้ำครึ่งแก้ว ถ่อมตนเพื่อจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ  จากผู้เชี่ยวชาญ คนที่เป็น Expert ในเรื่องนั้นๆ

          D: Do (ทำ) หมายถึง การนำความคิดบวกในสมุดความดี ที่ได้สะสมเอาไว้ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน หากต้องเผชิญกับปัญหาอุปสรรค ให้เปลี่ยนความคิด อย่ามองว่าตัวปัญหาคือปัญหา ให้คิดว่า จะค้นหาสิ่งดีๆในช่วงวิกฤตครั้งนั้นๆได้อย่างไร ทำอย่างไรถึงจะได้ประโยชน์จากความล้มเหลว แล้วนำบทเรียนที่ได้รับ ไปประยุกต์ใช้กับโอกาสดีๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

        เทคนิคอีกอย่างหนึ่งก็คือ การป้อนความคิดบวกจากสมุดความดี ให้กับจิตใต้สำนึกเป็นประจำ  ด้วยการอ่านคำพูดบวกเหล่านั้นในช่วงเวลาก่อนที่จะเข้านอนหรือหลังจากตอนตื่นนอนใหม่ๆ ก่อนที่จะถูกความคิดอย่างอื่นแทรกแซง

         ตั้งคำถาม “ทำอย่างไรถึงจะคิดเชิงบวก ให้เกิดขึ้นได้ในทุกๆวัน” หากอยู่ในระหว่างการเผชิญกับปัญหา เราจะได้ไม่ถูกความคิดลบครอบงำ และที่สำคัญการคิดบวกได้ต้องมีสติและสมาธิ  ดังนั้นควรฝึกสมาธิเป็นประจำ เพื่อจะทำให้จิตสุขุม และมีสติมากยิ่งขึ้น

         กรณีที่เจอเรื่องไม่ดีหรือเรื่องแย่ๆในชีวิตประจำวันให้ค้นหาวิธีคิดบวก ตัวอย่างวิธีคิดเชิงบวกเช่น เบอร์โทรศัพท์ในมือถือหายหมด วิธีคิดบวก ให้คิดว่า ” ดี แล้ว” เพราะจะได้ล้างข้อมูลเบอร์โทรที่ไม่ได้ใช้งาน โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาลบทีละเบอร์ จะได้มี Memory เพิ่มขึ้น หลังจากนั้นค่อยบันทึกเบอร์ใหม่  เฉพาะเบอร์ที่ได้ใช้งานจริงๆ

        C: Check (การตรวจสอบ)  หากต้องเผชิญปัญหากับสถานการณ์บางอย่าง  แต่ไม่สามารถมองหาข้อดีในวิกฤตครั้งนั้นได้ เพราะการคิดบวกไม่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกสถานะการณ์ หรือมีอยู่กับตัวได้ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อเป็นการทบทวนความสามารถในการคิดเชิงบวก จึงต้องนำเหตุการณ์ครั้งนั้นมาคิดทบทวนใหม่ แล้วเทียบกับสมุดความดีที่เรามี  ว่ามีแนวคิดใดเทียบเคียงแล้วสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดครั้งนั้นได้

        การตรวจสอบว่าตนเองยังคงปฏิบัติตนตามแผนในขั้นตอนแรกอยู่หรือไม่ เป็นวิธีการเรียกสติและพลังศรัทธาในการคิดบวกได้อีกครั้ง ซึ่งช่วยสร้างทักษะและความชำนาญในการคิดบวกได้ ดังนั้นจำเป็นต้องหมั่นฝึกฝนและได้รับการตรวจสอบความคิดเสมออยู่เสมอ

         A: Action (การน้อมรับ) จากการปะเมินและตรวจสอบการคิดเชิงบวกแล้วพบว่า ยังพบข้อผิดพลาด จำเป็นต้องปรับเปลี่ยน เรียนรู้จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ ย่อมแสดงให้เห็นว่า เราสามารถก้าวข้ามไปอีกขั้นของความสำเร็จได้

         ภายหลังจากตรวจสอบ ให้เรากลับไปเริ่มต้นที่ขั้นตอน P: Planning (การวางแผน) ด้วยการเขียนความคิดบวกที่ได้ จากการเรียนรู้จากความล้มเหลวทุกๆครั้ง  เพื่อสะสมแนวความคิดเชิงบวก เข้าไปยังคลังในจิตใต้สำนึก เป็นการพัฒนาแนวความคิดเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง และหากเราสามารถสร้างความสำเร็จในการคิดบวกครั้งได้ใด  ให้เราน้อมรับด้วยใจจริง  และกล่าวคำว่า คำขอบคุณซ้ำๆ ไม่ว่าความสำเร็จนั้นจะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม”

         จิตใต้สำนึกเช่นเดียวกัน ต้องมีวิธีคิดเชิงระบบ เพราะระบบวิธีคิดที่ดี จะช่วยทำให้การคิดบวกได้ทุกสถานการณ์ ถึงมีเรื่องแย่ๆ ก็สามารถรับมือกับมันได้ โดยไม่ทำให้ตนเองจมอยู่กับตัวปัญหา เราก็จะกลายเป็นคนที่คิด เพื่อแก้ไขปัญหา คิดบวกชีวิตเปลี่ยน คิดบวกจะส่งผลดี เพื่อให้ชีวิตมีการพัฒนาในทิศทางที่เป็นบวก

        “การคิดเชิงบวกให้คุณทำไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นการสร้างรากฐาน  และรักษาความคิดเชิงบวกให้มีอยู่กับเราได้ตลอดเวลา และสามารถนำเอาสิ่งที่เลวร้ายในอดีต มาปรับปรุง เพื่อให้เกิดแนวคิดดี ที่เป็นบวกยิ่งๆขึ้นไป ถึงแม้พลังความคิดจะไม่มีตัวตน ไม่มีใครมองเห็นความคิดของเราได้ แต่การคิดบวก คิดสร้างสรรค์มีพลังอำนาจ ที่จะสื่อสารให้คนอื่นรับรู้ได้  คิดบวกช่วยทำให้เรากลายเป็นคนดี  คนคิดบวกช่วยทำให้ได้รับสิ่งที่เป็นบวก

          และหากสามารถนำเอา พลังความคิดเชิงบวกออกมาใช้ เพื่อรับมือกับเหตุการณ์อุปสรรคในการดำรงชีวิตประจำวันได้ทุกๆวัน จะถือได้ว่าเป็นการพัฒนาความคิดเชิงบวกอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ”  ถึงแม้ว่าความสำเร็จในการคิดเชิงบวก จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้  แต่ผู้เขียนเชื่อว่า ชีวิตของคุณย่อมดีขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้นแน่นอน เราคิดบวกได้ เราก็สามารถประสบความสำเร็จได้  ชีวิตเรา…สร้างได้

ตอนที่5 ตอนจบ

บทความที่น่าสนใจ วิธีมองโลกในแง่ดี คิดบวกพลิกวิกฤต เปิดโอกาสชีวิต

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *