สมการแห่งความสำเร็จ วิธีสร้างแรงบันดาลใจและความศรัทธาในตนเอง
ตอนที่ 1
ความสำเร็จคือ ผลลัพธ์ตามความคาดหวังหรือเป้าหมาย อันได้จากการลงมือทำจนแล้วเสร็จ แต่ผลลัพธ์เพียงอย่างเดียวก็ยังไม่สามารถแสดงถึงความสำเร็จได้ทั้งหมด เพราะความสำเร็จย่อมเกิดขึ้นได้ในระหว่างการเดินทางนั้นๆ มันคือประสบการณ์ เป็นกระบวนการทำงานทำให้เกิดการเรียนรู้ เพราะกว่าจะประสบความสำเร็จ จะต้องเผชิญกับความยาก-ง่ายในการแก้ไขปัญหาและการฝ่าฟันขวากหนาม และสิ่งเหล่านั้นคือตัวชี้วัดคุณค่าและความภาคภูมิใจ เช่นเดียวกับ สมการแห่งความสำเร็จ คือ กระบวนในการคัดกรองคนที่สมควรได้รับชัยชนะและประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ
จากกฎแห่งความต้องการขั้นพื้นฐานการดำรงชีวิตมนุษย์ที่มาสโลว์กล่าวเอาไว้ ซึ่งประกอบไปด้วย ปัจจัย 4 อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค และเมื่อมนุษย์ได้รับการตอบสนองขั้นต้นแล้ว จะมีความต้องการในลำดับถัดไป จนถึงขั้นความต้องการขั้นสูงสุดนั้นคือ การได้รับการยอมรับจากคนอื่นและได้ทำในสิ่งที่ตนเองคาดหวัง แสดงให้เห็นว่ามนุษย์ทุกคนต้องการความสำเร็จ เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าอะไรคือ ความสำเร็จที่ต้องการ
แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่สามารถบอกได้ว่า รู้แล้วว่าชีวิตนี้ต้องการอะไรอยากได้ชีวิตรูปแบบใด แต่แล้วทำไม ยังไม่ประสบความสำเร็จสักที ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งของที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ ไม่มีอะไรเกินความสามารถของมนุษย์ ซึ่งตรงกับคำว่า หากคนอื่นทำได้ เราต้องทำได้ ความสำเร็จมันเป็นเพียงแค่สมการ แต่ต้องแก้สมการให้ถูกต้อง
ก่อนอื่นเราจะมาทำความเข้าใจกับคำว่าสมการ สมการ ซึ่งเป็นตรรกะในการเปรียบเทียบสิ่งต่างๆ โดยอาศัยเครื่องหมาย “=” เป็นสัญลักษณ์ ที่แสดงให้รู้ว่าสิ่งที่อยู่ด้านตรงข้ามเครื่องหมาย จะต้องมีคุณค่าและมูลค่าที่เท่าเทียมกัน โดยสิ่งต่างๆเหล่านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งเดี่ยวกันก็ได้ แต่สิ่งที่ใช้เปรียบเทียบนั้นต้องมีคุณค่าเท่ากัน และหากทั้งสองด้านของสมการยังมีคุณค่าไม่เท่ากัน จะต้องเติมเต็มหรือเพิ่มเติมอย่างอื่นเข้าไป เพื่อทำให้สมการสมบูรณ์
สมการแห่งความสำเร็จ = ความคิด + ลงมือทำ
จากสมการแห่งความสำเร็จจะเห็นได้ว่า เป็นสมการที่ไม่ได้ซับซ้อนหรือเป็นเรื่องที่ยุ่งยากอะไร แต่ทำไมเราถึงแก้ไขมันไม่สำเร็จสักที่ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับปัจจัยคุณค่าทางขวามือ ซึ่งประกอบด้วย 1) ความคิด ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญ เพราะมันจะเป็นฐานและเป็นเข็มทิศชี้นำให้ปัจจัยที่ 2 ดำเนินไปสู่ความสำเร็จได้ ปัจจัยที่ 2) ” การลงมือทำ ” ต่อให้มีความคิดมากมาย ก็ไม่สามารถสร้างคุณค่าได้เพียงพอที่จะทำให้สมการสมบูรณ์ได้ นอกเสียจากความคิดนั้นถูกใส่ค่าจากการลงมือทำ จนสามารถเติมเต็มคุณค่าให้ สมการแห่งความสำเร็จ กลายเป็นจริงได้
ซึ่งในบทนี้เราจะกล่าวถึงเทคนิควิธีคิด การเติมเต็มคุณค่าทางความคิด
“การสตาร์ทจะต้องออกจากจุดเริ่มต้นเสมอ และจุดสตาร์ทของความสำเร็จมันเริ่มต้นที่ความคิด ความคิดเปลี่ยนชีวิตเปลี่ยน เพราะความคิดจะเป็นพลังในการขับเคลื่อนชีวิตให้ก้าวไปสู่สิ่งที่คาดหวังได้ ใครที่สามารถควบคุมพลังแห่งความคิดได้จะประสบความสำเร็จ ส่วนคนที่ไม่สามารถควบคุมความคิดได้จะกลายเป็นทาญาตแห่งความล้มเหลว ต่อไป
คุณลักษณะทางความคิด ความเชื่อ ทรรศคติ คนที่ประสบความสำเร็จ มักจะเป็นคนมีทัศนคติเชิงบวก คิดสร้างสรรค์ คิดเชิงระบบ มีความเพียรพยายามและความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะ เมื่อเจอปัญหาอุปสรรคและล้มเหลว แทนที่จะจมอยู่กับความคิดลบ พวกเขาจะสามารถคิดหาวิธีการแก้ไขได้ สามารถให้กำลังใจและกระตุ้นตัวเองเพื่อให้ก้าวออกจากความคิดไม่ดีเหล่านั้นได้
สมการแห่งความสำเร็จคือ ความสามารถการนับถือตนเอง มีความเชื่อมั่นและศรัทธาในตนเอง
การทดลองเปลี่ยนโลก มีการทดลองของชาวญี่ปุ่นชื่อ Dr. Emoto ด้วยการนำขวดน้ำ มาตั้งเรียงกันไว้ แล้วเขียนคำพูดไว้ข้างขวดที่แตกต่างกันออกไป กลุ่มที่1 เขียนคำพูดเชิงบวกเช่น ความรัก ความกล้าหาญ ความมีวินัย ส่วนกลุ่มที่ 2 เขียนพูดเชิงลบได้แก่ เกลียด โมโห
หลังจากนั้นเขาจึงนำเอาขวดเหล่านั้น ไปส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งพบว่าโมเลกุลของน้ำที่อยู่ในขวดที่เขียนคำพูดดีๆ จะเรียงตัวกันสวยงาม จับตัวกันเป็นกลุ่มก้อน ตรงกันข้ามขวดน้ำที่เขียนคำพูดเชิงลบ โมเลกุลจะกระจัดกระจาย เรียงตัวกันไม่เป็นระเบียบ มีลักษณะเป็นคลื่นและสลับกันไปมา เช่นเดียวกับความคิดของคนที่มีคุณค่าทางความคิด “โมเลกุลของความคิดก็จะเรียงตัวกันเป็นระเบียบสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทันกับสถานการณ์ เหมาะสมกับโอกาสต่างๆ ” 4 เทคนิคสร้างคุณค่าทางความคิด เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเรียกความศรัทธาในตนเอง มีดังนี้
องค์ประกอบของ สมการแห่งความสำเร็จ ในด้านความคิด
1.”คุณค่าของการคิดแทนที่คนสำเร็จ”
Albert Einstein ได้กล่าวว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพราะความรู้ต่างๆมักเกิดขึ้นจากการจินตนาการ ไม่มีใครมองเห็นความสำเร็จของคนอื่น ได้ก่อนตัวของเขาเอง การจินตนาการเป็นไกลทางความคิดอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นวิธีสะสมพลังให้กับจิตใต้สำนึก เมื่อจิตใต้สำนึกได้รับภาพจากจินตนาการเชิงบวกมากๆ ก็จะกลายเป็นพลังความเชื่อมั่น ซึ่งสอดคล้องกับกฎแห่งแรงดึงดูด สิ่งที่เหมือนกัน สิ่งที่ควรคู่กันย่อมดึงดูดเข้าหากัน วิธีจินตนาการ คือการแทนที่คนที่ประสบความสำเร็จค การเรียนรู้ทางความคิดจากคนที่ประสบความสำเร็จ เพราะความคิดเหล่านั้นได้ผ่านการกลั่นกรองมาระดับหนึ่งแล้วว่า ประสบความสำเร็จแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะนำเอาความคิดเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ตรงกับตนเองได้เพียงใด เช่นการอ่านหนังสือชีวประวัติ วลีเด็ดๆหรือหนังสือวิธีคิดของคนที่ประสบความสำเร็จ การเข้าร่วมฟังสมนาต่าง ข้อดีการจินตนาการแทนที่คนสำเร็จ จะช่วยทำให้เราร่นระยะเวลาแห่งความสำเร็จลงได้
ชีวิตย่อมเป็นสิทธิของตนเอง ไม่มีใครเหมือนใครได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ทุกคนมีอิสระภาพในการตัดสินใจเลือกเป้าหมายของตนเอง อยากเป็นคนสำเร็จแบบไหน ร่ำรวยหรืออยากใช้ชีวิตสไตล์ไหน จงตัดสินใจเลือกแล้วรับผิดรับชอบต่อความคิดเหล่านั้น
จินตนาการอย่างไร
จินตนาการไม่มีขีดจำกัดจงฝันให้ใหญ่ คิดว่าเราคือคนๆนั้นที่ประสบความสำเร็จ แล้วใช้จินตภาพ ใช้ภาพเราแทนที่คนสำเร็จคนนั้น แล้วทำตัวเปรียบเสมือนว่า คนที่ประสบความสำเร็จคนนั้นเป็นตัวเราเอง
จินตนาการต้องการแบบซ้ำๆ เพื่อทำให้ภาพแห่งความสำเร็จนั้น ให้ประทับตรึงตราและสามารถสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดพลังของการเปลี่ยนแปลง ไปสู่ฝันที่ยิ่งใหญ่
2. คุณค่าของการคิดภาพผลลัพธ์เป้าหมาย
ภาพที่มองเห็นสำหรับคนที่มีเป้าหมายในชีวิต พวกเราจะเป็นคนที่มีความกระตือรือร้น มีแรงบันดาลใจและมีความมุ่งหวังในชีวิต เพราะพวกเขาจะใช้ประโยชน์ จากภาพแห่งผลลัพธ์ของเป้าหมาย มาใช้เป็นแรงกระตุ้นต่อมความกระหายใคร่อยาก เพื่อเป็นการเสริงแรงให้เกิดเป็นความเพียร มีใจพร้อมที่จะทำให้ภารกิจนั้นให้บรรลุความสำเร็จได้
“คนประสบความสำเร็จ จะรู้ความต้องการของตนเองและมองเห็นภาพผลลัพธ์ในแต่ละขั้นของความสำเร็จ ” การคิดภาพผลลัพธ์จากเป้าหมาย อย่าคิดเล็ก เพราะการคิดเล็กๆ จะกลายเป็นคนประสบความสำเร็จเล็กๆ เพราะการคิดเล็กจะทำให้เสียเวลาและไม่คุ้มค่าที่จะทำ ซึ่งเป็นขยะความคิด
วิธิคิดเป้าหมาย ให้”กล้าที่จะคิดการใหญ่” โดยเขียนเป้าหมายที่ต้องการมากที่สุดในชีวิต แล้วนำไปติดไว้ในบริเวณที่เราสามารถมองเห็นได้ชัดและบ่อยๆ เช่นประตูห้องนอนเป็นต้น เคล็ดลับในการตั้งเป้าหมายที่ดี ต้องคิดให้ SMART คือ ต้องมีความเฉพาะเจาะจง วัดได้ เป็นไปได้ ทำสำเร็จได้ และต้องตั้งกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน จากนั้นคิดวางแผนงานและใช้วิธีลงมือปฏิบัติอย่างทุ่มเท
3. คุณค่าของความคิดที่ชัดเจน
ความชัดเจนจะเป็นพลังแห่งการคิดและการตัดสินใจ ความชัดเจนจะสร้างมั่นคงและความแน่วแน่ในการทางเดินของชีวิตให้ไปสู่ความสำเร็จ ความคิดชัดเจนย่อมเกิดผลชัดเจน ในตรงกันข้ามถ้าหากการเดินทางของชีวิตยังขาดความชัดเจนยังไม่รู้เป้าหมาย ก็จะทำให้ชีวิตขาดคิดแผนดำเนินการ เมื่อประสบปัญหาจะทำให้ไขว้เขวและคล้อยตามสภาพแวดล้อมหรือการโน้มน้าวชักจูงจากคนอื่นๆได้ ความไม่ชัดเจนจะเกิดความกังวนและไม่กล้าตัดสินใจ
ความชัดเจนถึงแม้ว่าไม่สร้างความสำเร็จได้ทุกครั้ง แต่ทุกครั้งของการตัดสินใจที่ชัเจนจะทำให้เราได้เรียนรู้ จงกล้าที่จะตัดสินใจ แล้วยอมรับในการตัดสินใจของตนเอง ถึงแม้ว่าการตัดสินใจครั้งนั้นมันจะผิดพลาดและล้มเหลว อย่างน้อนมันก็ยังกลายเป็นประสบการณ์ให้เราได้เรียนรู้ แล้วสามารถนำความรู้เหล่านั้นไปใช้กับโอกาสถัดไปได้ ส่วนคนที่กลัวและไม่กล้าตัดสินใจนอกจากเสียเวลาแล้วยังต้องเสียโอกาส ความชัดเจนเป็นพลังทัศนคติเชิงบวก ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้คุณก้าวไปข้างหน้าแบบผู้ชนะ
4. คุณค่าของการคิดบวก
คิดบวกคือ ความสามารถในการควบคุมความคิดและอารมณ์ได้ คนคิดเชิงบวกคือ คนที่สามารถยอมรับได้ทั้งเรื่องที่ประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จ พวกเขาจะไม่โทษสิ่งนั้นสิ่งนี้หรือแม้แต่การโทษโชคของตัวเอง แต่พวกเขาจะเป็นผู้กุมชะตาของตัวเอง ซึ่งคนที่สามารถมองโลกในแง่บวกได้จะค้นหาความเติบโตทุกครั้ง ที่จำเป็นต้องถอยหลัง แล้วกลับไปตั้งหลักเพื่อเริ่มต้นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ความคิดบวกมีพลังอำนาจเหมือนแม่เหล็ก คนที่คิดดี คิดบวก ก็จะเรียกร้องสิ่งดีๆที่เป็นปัจจัยเชิงบวกให้เข้ามาในชีวิต ในเวลาที่เหมาะสม
เมื่อไหร่ที่ต้องคิดบวก เมื่อไหร่ก็ตาม ที่เกิดความคิดเชิงลบขึ้น ให้คุณเปลี่ยนมุมมองเสียใหม่ คนส่วนใหญ่ มักจะไม่ประสบความสำเร็จในการคิดเชิงบวก เพราะมัวแต่กังวล มีแต่หวาดกลัวและคิดว่าตัวเองไม่สามารถทำได้เหมือนกับคนประสบความ คิดว่าคนเองไม่มีความสามารถบ้างละ ไม่มีสิ่งนั้นสิ่งนี้ฯลฯ ใช้ข้ออ้างเหล่านี้เพื่อทำให้ตนเองรู้สึกว่าไม่ผิด เทคนิคสำคัญเมื่อเกิดความคิดลบแว้บเข้ามา อย่าให้ความสำคัญกับมัน ลืมมันเสีย แล้วแทนที่มันด้วยความคิดเชิงบวก ใช้ความพยายามและฝึกคิดเชิงบวกให้ต่อเนื่องเช่น ในตอนเช้าก่อนออกจากบ้านให้เริ่มต้น คิดถึงแต่สิ่งดีๆ เรื่องดีๆ หรือเขียนสะสมความคิดสร้างสรรค์จากชีวิตประจำวัน หรืออีกวิธีหนึ่งคือการรู้จักขอบคุณในสิ่งที่ตนเองมีทุกๆวัน เพื่อเรียกเชื่อมั่นและศรัทธาในศักยภาพที่ตนมี
ชัยชนะ ไม่ได้มีไว้คู่กับคนเก่งหรือคนที่มีพรสวรรค์เสมอไป แต่ชัยชนะผูกไว้กับคนที่มีหัวใจไม่เคยยอมแพ้
การตกผลึกทางความคิดการผสานคุณค่าของการคิดแทนที่คนสำเร็จ คิดชัดเจน คิดบวกและคิดถึงผลลัพธ์ของเป้าหมาย จะช่วยสร้างแรงกระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อเปลี่ยนโลกของตนเอง ให้ก้าวไปสู่ความต้องการขั้นสูงสุดของมนุษย์ คุณค่าความคิดทั้ง 4 เป็นวิธีสะสมพลังแห่งจักวาล เพราะคนที่ “คิดเป็น” จะกลายเป็นคนที่ยืดหยุ่น แต่ไม่หย่อนยาน ขอเพียงแค่ตัดสินใจ โฟกัสทุกอย่างทุมเททั้งแรงกายแรงใจไปที่เป้าหมาย และลงมือทำแบบเร่งด่วน เมื่อเจอปัญหาอุปสรรคก็ไม่ท้อถอย พัฒนาตนเองอยู่เสมอ ในที่สุดก็จะได้รับชัยชนะ สมการแห่งความสำเร็จ หัวใจของคนที่ไม่เคยยอมแพ้ให้กับชีวิต…ชีวิตสร้างได้ ติดตามต่อ ” คุณค่าของการลงมือทำ “
อ่านต่อ ตอนที่2 ผู้ที่ประสบความสำเร็จเขาทำกันอย่างไร “ลงมือทำ” เคล็ดลับ สมการแห่งความสำเร็จ