โอโซน คือ อะไร สูดโอโซนแล้วสดชื่นจริงหรือไม่
โอโซน คือ ก๊าซที่มีโครงสร้างไม่เสถียร ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของออกซิเจน 3 อะตอม โอโซนถูกสร้างขึ้นได้ โดยการแยกอะตอมของออกซิเจน 2 อะตอมออกจากกัน ( O2 to 2O ) อะตอมหนึ่งที่แยกออกไป จะไปรวมตัวกับโมเลกุลของออกซิเจน O2(g) กลายเป็นก๊าซโอโซน O3(g) (OZONE)
โอโซนถูกค้นพบโดยนักเคมี ชาวเยอรมัน ในปี ค.ศ. 1840 ชื่อ คริสเตียน ฟรีดริช เชินไบน์
![โอโซน คือ](https://i0.wp.com/besterlife.com/wp-content/uploads/2019/05/7-1.jpg?resize=297%2C162)
โอโซนเกิดขึ้นได้อย่างไร
การเกิดขึ้นของโอโซนแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือ
1.โอโซนตามธรรมชาติ พบได้บนพื้นผิวโลกและในชั้นบรรยากาศสูงขึ้นไป จะสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อมีออกซิเจนถูกกระตุ้นด้วยรังสี UV ในชั้นบรรยากาศ ระดับความสูง 10- 50 กิโลเมตร จากพื้นพิวโลกเรียกว่า สตาโตสเฟีย ( Stratosphere) เกิดจากการเกิดฟ้าผ่า ฟ้าแลบตอนที่เกิดพายุ หรือ แสงจากดวงอาทิตย์ที่มีรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ไปเปลี่ยนโครงสร้างของออกซิเจนจาก O2 ให้กลายเป็นก๊าชโอโซน O3 ก๊าซโอโซนที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวโลกนั้นจะมีปริมาณเพียงเล็กน้อย โดยมีระดับความเข้มข้น 0.01-0.05 ppm โดยประมาณ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้อากาศในปริมาณนั้นสดชื่นได้ ซึ่งในบางพื้นที่มีโอโซนเกิดขึ้นจากความผิดปกติ มีความเข้มข้นสูงและจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
2. โอโซนที่มนุษย์เราสามารถสร้างขึ้นได้ ด้วยเครื่องกำเนิดโอโซน (Ozone Generator) ใช้หลักวิธีเลียนแบบธรรมชาติ ด้วยการเป่าก๊าซออกซิเจน ผ่านสนามไฟฟ้าแรงสูง (Corona discharge)
![โอโซน คือ](https://i0.wp.com/besterlife.com/wp-content/uploads/2019/05/11.jpg?resize=272%2C194)
สูดโอโซนแล้วสดชื่นจริงหรือไม่
หลายๆคนคงเคยได้ยินคำกล่าว “สูดโอโซนแล้วทำให้สดชื่น” คำกล่าวนี้คงทำให้หลายคนเข้าใจผิด
คิดว่า โอโซน เป็นก๊าชที่มีประโยชน์ต่อระบบหายใจ แท้จริงแล้วก๊าชโอโซนไม่มีสีและมีกลิ่นเหม็นคาว
เป็นพิษต่อระบบหายใจของสิ่งมีชีวิต
ความเป็นจริงก็คือ คุณสมบัติของก๊าชโอโซนที่มีความว่องไว ในการเกิดปฏิกิริยา แต่หลังจากเกิดปฏิกิริยา โอโซนจะแปรสภาพกลับเป็นก๊าซออกซิเจน ทำให้รู้สึกที่ว่าโอโซนดับกลิ่น และอากาศสดชื่น ซึ่งไม่ใช่เป็นเพราะ ก๊าชโอโซนอย่างที่คนเราเข้าใจกัน
ข้อดีและคุณสมบัติของโอโซน
โอโซน สามารถทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับสารอินทรีย์ และสารอนินทรีย์ได้เกือบทุกชนิด ทั้งในน้ำและในอากาศ โดยโอโซนจะไปจับโมเลกุลของสารปนเปื้อนหรือเชื้อโรคต่างๆ แล้วทำการย่อยสลายสารปนเปื้อนนั้น โอโซนสามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส สปอร์ ราเมือก ราน้ำค้าง เชื้อรา อะมีบา ตามปริมาณความเข้มข้นของโอโซนและระยะเวลาที่ใช้ต่างกัน คุณสมบัติของโอโซน มีดังต่อไปนี้
1.โอโซน คือ สารออกซิไดซ์ (Oxidizing agent) มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อที่ ทะลุทะลวง มีประสิทธิภาพและมีความรุนแรงเร็วกว่าคลอรีน โดยโอโซนมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรคได้ดีกว่าคลอรีนถึง 3000 เท่า สามารถฆ่าเชื้อโรคแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคอย่างรุนแรงรวดเร็ว
3.สามารถทำลายกลิ่นเหม็นของสารเคมีและก๊าซพิษได้เช่น กลิ่นน้ำหอม กลิ่นบุหรี่ กลิ่นอาหาร เป็นต้น
4. ไม่มีพิษตกค้าง โอโซนหลังทำปฏิกิริยา จะแปรสภาพกลับไปเป็นก๊าซออกซิเจน จึงไม่ทำให้เป็นอันตรายหรือ ส่งผลกระทบใดๆ ต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม เนื่องจากโอโซนมีความเสถียรต่ำสามารถละลายอยู่ในน้ำที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสได้ นานไม่เกิน 2 นาที และ สลาย ไปเมื่ออุณหภูมิ ของน้ำสูงขึ้นไปถึง 40 องศาเซลเซียส
5. สามารถผลิตขึ้นได้ในบริเวณที่มีไฟฟ้า
6. ก๊าศโอโซนสามารถกำจัดสีที่ละลายในน้ำหรือสีที่ตกบนเนื้อผ้าให้จางหายไป ได้แก่ สีหมึก สีผสมอาหาร สีเลือด สีชากาแฟ และสีย้อมผ้าต่างๆ
![โอโซน คือ](https://i0.wp.com/besterlife.com/wp-content/uploads/2019/05/17.jpg?resize=286%2C187)
ก๊าซโอโซน สามารถประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ดังนี้
1. โอโซนในระบบบำบัดคอนเดนเซอร์ สามารถนำไปใช้กับน้ำประปา ในหอผึ่งเย็น (Cooling Tower) ได้โดยตรง โอโซนสามารถนำไปใช้ในการบำบัดน้ำซึ่งประสิทธิภาพสูง จะไม่ทำให้เกิดไบโอฟิล์มอันเป็นสาเหตุของตะกรันในท่อคอนเดนเซอร์ โดยจะรักษาการเพิ่มของอุณหภูมิคอนเดนเซอร์ Approach temperature ไม่เกิน 2 องศาฟาเรนไฮต์จากค่าเริ่มต้น ซึ่งทำให้เครื่องทำน้ำเย็นชิลเลอร์คงประสิทธิภาพที่ดีอยู่ตลอดเวลา
2.ใช้ในการบำบัดน้ำทะเล สำหรับตู้กระจกโชว์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทะเลหรือในอควาเรียมแทนสารเคมีเพื่อฆ่าเชื้อที่มากับน้ำทะเล และยังสามารถปล่อยโอโซนผสมลงในทะเล เพื่อป้องกันการเกิดเพียงที่เข้ามาเกาะฝัง ตัวติดอยู่กับท่อ ในน้ำทะเล โอโซนจะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและไม่ทำให้คุณภาพน้ำทะเลเปลี่ยนแปลง
3. โอโซนสามารถใช้ในการบำบัดหรือฆ่าเชื้อโรคในสระว่ายน้ำ ระบบโอโซนสามารถบำบัดน้ำในสระว่ายน้ำต่างๆ แทนการใช้คลอรีนได้อย่างเด็ดขาด เนื่องจากโอโซนสามารถฆ่าเชื้อและสลายในน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะไม่มีกลิ่นคลอรีนหรือทำให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตาและระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้จึงไม่ทำให้มีสารตกค้างในสระว่ายน้ำและสามารถประหยัดการเปลี่ยนน้ำได้มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์
4. ประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร น้ำที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารที่นับได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะน้ำใช้ในอุตสาหกรรมนี้ ต้องได้รับความมั่นใจว่าเป็นน้ำที่สะอาด และจะไม่เกิดการปนเปื้อนข้ามหรือนำเชื้อโรคปนไปกับผลิตภัณฑ์ ดังนั้นการใช้โอโซนในระบบการผลิตน้ำ จึงสามารถสร้างความมั่นใจว่า จะไม่มีสารคลอรีนหรือสารฆ่าเชื้ออื่น หลงเหลือในน้ำ จากคุณสมบัติของโอโซนซึ่งมันสามารถจะสลายตัวได้
5. ใช้กับระบบบำบัดน้ำเสียหรือระบบการรีไซเคิลน้ำ ระบบโอโซนในระบบน้ำเสียสามารถลดค่า BOD ได้มากกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ และมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าระบบเติมอากาศแบบดั้งเดิมมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ระบบโอโซนในการบำบัดน้ำ เป็นการยกเลิกการปล่อยน้ำเสียลงสู่คูคลอง นอกจากนี้ยังสามารถขจัดสีและกลิ่นขั้นตอนระบบน้ำเสียสุดท้ายได้ 100%
6. โอโซนในสำนักงาน/ ห้องนอน/ ห้องครัว/ รถยนต์ จะใช้โอโซนในความเข้มข้นเพียงแค่กำจัดกลิ่นและควันมากกว่า เพราะถ้าหากใช้ความเข้มข้นของโอโซนที่สูงมากพอที่จะฆ่าเชื้อโรคให้ตายได้ มันก็จะเป็นอันตรายต่อคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นๆได้ อาจถึงขั้นเสียชีวิตถ้าสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก
![โอโซน คือ](https://i0.wp.com/besterlife.com/wp-content/uploads/2019/05/19.jpg?resize=274%2C193)
อันตรายที่เกิดจากก๊าซโอโซน
- ก๊าซโอโซนจัดเป็นก๊าซพิษ โอโซนจะมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มีกลิ่นคาว หากสูดดมก๊าซโอโซนที่มีความเข้มข้นสูง ในระดับความเข้มข้นที่ 0.25 ppm จะเป็นอันตราย ก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อตา จมูก และระบบทางเดินหายใจ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ ป่วยและอาเจียน ถ้าได้รับในปริมาณมากจะทำให้ตายได้ การนำก๊าชโอโซนมาประยุกต์ใช้ ควรระมัดระวัง เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
- การบริโภคน้ำหรือของเหลวที่ปนเปื้อนโอโซน จะมีอาการท้องเสีย แน่นท้อง
- ผิวหนังที่สัมผัสกับน้ำหรือของเหลวที่ปนเปื้อนโอโซนที่มีความเข้มข้นสูง ผิวจะไหม้รุนแรง ปวดแสบปวดร้อน
ถึงแม้โอโซน จะมีประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมและสามารถสร้างสิ่งแวดล้อมให้สะอาดขึ้น แต่โอโซนก็ “จัดเป็นก๊าซพิษ” การได้รับโอโซนในปริมาณที่สูงมาก จะเป็นผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าที่จะเป็นผลดี
บทความที่น่าสนใจ อินทผาลัม ผลไม้คนท้อง คุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ให้นมบุตร