กากน้ำตาล หรือโมลาส (Molasses) สร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างรายได้ให้ประเทศ

ในการสกัดน้ำตาล จะให้กากน้ำตาลหรือที่เรียกว่า โมลาส (Molasses)  เป็นของเหลวที่มีลักษณะเหนียวข้น มีสีน้ำตาลไหม้ออกดำ ในกระบวนการผลิตน้ำตาลจากอ้อย 1 ตันจะให้ปริมาณ กากน้ำตาล ประมาณ 46.8 กิโลกรัม  ในอดีตโมลาส นับว่าเป็น by product ที่มีมูลค่าต่ำ ราคาถูก แต่ในปัจจุบันพบกากน้ำตาลกลายเป็นสิ่งที่มีค่า และเป็นที่ต้องการของตลาด ปัจจุบันประเทศไทยถือว่า เป็นผู้ส่งออกจากน้ำตาลรายใหญ่ของโลก เนื่องจากมีการเพราะปลูกอ้อยและทำการผลิตน้ำตาลสูงส่งออกสูงเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากบราซิลและออสเตรเลีย

กากน้ำตาล

กากน้ำตาล

สร้างมูลค่าให้กากน้ำตาล สามารถใช้เป็นวัตถุดิบ ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องต่างๆ ได้แก่

1 การผลิต alcohol อุตสาหกรรม บ้านเราโดยส่วนใหญ่ใช้ประโยชน์จากกากน้ำตาล เพื่อผลิตแอลกอฮอล์ ในการผลิตสุรา โดยนำกากน้ำตาลมาเจือจางด้วยน้ำแล้วหมักด้วยยีสต์ เพื่อเปลี่ยนน้ำตาลกลายเป็นแอลกอฮอล์ หลังจากนั้นนำมาการสกัดแยกออกอีกที ก็จะได้แอลกอฮอล์ที่มีความบริสุทธิ์ประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์

2 ใช้ทำอาหารสัตว์ ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์จะใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนผสมสำหรับอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่นอาหารสำหรับเลี้ยงวัวควาย เพราะกากน้ำตาลช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหาร หรือสามารถใช้เป็นส่วนผสมเม็ดอาหารสัตว์ให้เข้ากัน นอกจากนี้จากกากน้ำตาลยัง ไปกระตุ้นการทำงานของแบคทีเรีย ในกระเพาะอาหารของสัตว์เคี้ยวเอื้องได้ ช่วยทำให้กระบวนการย่อยอาหารของสัตว์ทำได้ดียิ่งขึ้น

3 ใช้เป็นพลังงานทดแทน กากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบที่นิยมนำมาผลิต เอทานอล กากน้ำตาล 1 ตันจะผลิตเอทานอลได้ 260 ลิตร เพื่อใช้ผสมกับน้ำมันเบนซิน ที่เราเรียกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอลเป็นพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยังสามารถช่วยทำให้ประเทศชาติลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศได้อีกด้วย

4 ใช้ในการผลิตไฟฟ้าชีวมวล กากน้ำตาลจัดได้ว่าเป็นพลังงานเชื้อเพลิง ที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าจากพืช อีกวิธีหนึ่ง คือใช้กากน้ำตาล ในการหมักเพื่อสลายสารอินทรีย์ของพืชต่างๆ เพื่อให้ได้แก๊สชีวภาพออกมา ดังนั้นโรงงานอุตสาหกรรมน้ำตาล จึงมักลงทุนโครงการ เพื่อผลิตไฟฟ้าแบบต่อเนื่อง ด้วยการนำชานอ้อยและกากน้ำตาล ที่ได้จากกระบวนการผลิต เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบใช้ในการผลิตไฟฟ้า เพื่อนำมาใช้กับโรงงานหรือจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าต่อไป

6 ทำเป็นปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพบำรุงธาตุอาหารของดินและน้ำ ไว้ใช้ในครัวเรือน วิธีการทำน้ำหมักชีวภาพในครัวเรือนสามารถใช้กากน้ำตาลในอัตราส่วน 2 ต่อ 2 ต่อ 6 โดยใช้กากน้ำตาล 2 ส่วน ใช้เศษพืชผักผลไม้อีก 2 ส่วน และใช้น้ำสะอาดอีก 6 ส่วน แล้วนำไปใส่ถังปิดฝาให้สนิททิ้งไว้ประมาณ 15 วันถึง 1 เดือนหลังจากนั้นก็กรองเอาแต่น้ำ เพื่อไปทำเป็นปุ๋ยชีวภาพ ใช้ในการรดต้นไม้ให้เจริญงอกงามและสามารถป้องกันหรือขจัด ศัตรูพืชต่างๆได้ นอกจากนี้ กากที่กรองเสร็จยังสามารถนำไปใช้คลุมดินในโคนต้นของต้นไม้ได้อีกด้วย

7 ประโยชน์ของกากน้ำตาลในอุตสาหกรรมอาหารได้อีกหลายอย่างเช่น การผลิตผงชูรส การผลิตน้ำส้มสายชู การผลิตซีอิ๊วดำ การผลิตยีสต์แป้งขนมปัง หรือแม้แต่สามารถใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับทำขนม คุกกี้ได้เช่นกัน

8 กากน้ำตาลยังสามารถประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมรายย่อย เช่นการเพาะเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์เพื่อใช้ในฟาร์มกุ้ง

9 การประยุกต์ใช้กากน้ำตาลในการบำบัดน้ำเสีย นอกจากช่วยในการบำบัดกลิ่นแล้ว กากน้ำตาลเป็นอาหารของเชื้อแบททีเรียให้แข็งแรงเจริญเติบโตได้ดี

 10 เนื่องจากน้ำตาลหรือ โมลาส มีธาตุที่สำคัญต่อสุขภาพเช่น เหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียม ที่ช่วยในด้านเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ร่างกายได้  จึงสามารถประยุกต์ใช้กับอุสาหกรรมอาหารเสริมเพื่อสุขภาพได้

บทความน่าสนใจ โทษน้ำตาล

คลิปเครื่องหยอดเหรียญ ลงทุนหลักหมื่น กำไรเป็นแสนhttps://www.youtube.com/watch?v=-evN8YoIS8E

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *