คนจน วงจรอุบาทว์วัฏจักรคนจน สาเหตุที่คนจนยิ่งจน คนรวยยิ่งรวย

คนจน ยิ่งจน คนรวยยิ่งรวย

      วงจรอุบาทว์ คือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นวัฏจักรรูปแบบเดิมๆ เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก มีแนวโน้มคงที่แบบถดถอย หรือแม้แต่แย่ลงและเสื่อมโทรมไปเรื่อยๆ  อันเกิดขึ้นจากปัญหาและการแก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงจุด การขจัดปัญหาไม่ได้แก่ที่สาเหตุของปัญหา ซึ่งรากเง้าของปัญหา หรือในบางครั้งถึงแม้จะเกิดไขสาเหตุของปัญหาอย่างหนึ่ง แต่มันกลับไปสร้างปัญหาใหม่ๆขึ้นมาแทนปัญหาเดิมเช่น ปัญหาทางการเมือง ปัญหาจราจร และความยากจน ” คนจน ” เป็นต้น

คนจน

คนจน

      ความยากจน ความจน/ คนจน เป็นวัฎจักร เป็นวงจรอุบาทว์ ซึ่งปัญหาความยากจนนั้นกลายเป็นต้นเหตุของปัญหาต่างๆ มากมาย ประการที่สำคัญคือ ความทุกข์ เพราะการมีเงินที่ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ไม่มีเงินซื้อข้าว-ชื้อน้ำกิน เจ็บป่วยก็ไม่เงินรักษาโรคในพยาบาล

      ถึงแม้ว่า รัฐบาลเกือบทุกๆประเทศมีความพยายามที่จะแก้ปัญหา คนจน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ต้องให้ประชาชนของประเทศตนเองอยู่ดีกินดีอย่างเท่าเทียมกัน พยายามนำโมเดลประเทศที่ประสบความสำเร็จ ประเทศที่ขึ้นชื่อว่า ประเทศพัฒนาแล้ว มาประยุกต์ใช้พยายามจัดทำรัฐสวัสดิการ แต่ความยากจน หรือคนจนก็ไม่ได้หายไปอย่างสิ้นเชิง

       จากความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและไอที  ได้เข้ามามีบทบาทที่สำคัญสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนได้ ทำให้คนจนบางส่วน มีโอกาสปรับชีวิตให้ดีขึ้นได้

      แต่ก็ยังมีส่วนน้อยมาก เพราะโอกาสเหล่านี้ก็เอื้ออำนวยมีการต่อยอดจาก รุ่นพ่อรุ่นแม่ที่ร่ำรวยส่งมอบไปสู่รุ่นลูกๆ สามารถกอบโกยผลประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้นนั้นเอง สามารถขยายธุรกิจและสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ง่ายขึ้น คนรวยยิ่งรวย

        ส่วนคนจน ที่ด้อยโอกาสก็ตกเป็นทาสของความเจริญต่อไป สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆมักถูกพัฒนาขึ้นจากคนรวย คนที่มีอำนาจทางการเงิน  อย่างข้าวของ เครื่องใช้ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในชีวิต  คนทั้วๆไปนอกจากไปทำงานให้กับคนรวยเพื่อสร้างสินค้าเหล่านั้น กับการใช้แรงงานแลกกับเงินแล้ว ก็ยังต้องซื้อสินค้าเหล่านั้นจากคนรวย   คนจนยิ่งจน คนรวยยิ่งรวย

คนจน คือใคร

       นิยาม คนจน ในบทความนี้หมายถึง คนที่มีรายได้น้อย โดยไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในการซื้อปัจจัย 4 ซึ้งพื้นฐานการดำรงชีพและไม่สามารถซื้อความสะดวกสบาย เพื่อสร้างความสุขและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีได้  ความยากจนเริ่มตั้งแต่  ขั้นเลวร้ายอดมื้อกินมื้อ ไปถึงหาเช้ากินค่ำ

        ซึ่งผู้เขียนต้องขออภัยไว้ ณ.ที่นี้  เพราะไม่มีเจตนาต้องการดูถูกใครเพียงแค่ต้องการสะท้อนถึง  ความยากจน

สมการความจน = รายได้เท่ากับหรือน้อยกว่า หนี้สิน

       ทรรศคติ วิธีคิดที่เป็นต้นเหตุ ของความยากจน อันได้แก่ ขาดความกล้าหาญ ไม่กล้าฝันไม่กล้าคิดการใหญ่   มักคิดว่าตนเองมีขีดจำกัด จึงมักชอบปลอบใจตนเองเช่น  การเป็นคนจนไม่ใช่ว่าเป็นคนไม่ดี ถึงจนก็มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหมือนกับคนรวย ถึงไม่มีเงินก็มีความสุขได้  ตรงกันข้าม พอปากท้องมันเริ่มหิว ผู้มีพระคุณ คนรักหรือแม้แต่ตัวเองเริ่มป่วย การเป็นคนจนหรือไม่มีเงิน มันทุกข์จริงๆ

คนจนในโลกมีปริมาณเท่าไร

          ข้อมูลสำรวจทางสถิติพบว่า ประชากรมนุษย์ทั้งโลก สามารถแบ่งสัดส่วนระหว่างคนจนกับคนรวยได้ดังนี้ คนรวยมีอยู่  10 เปอร์เช็นต์ของประชากร แต่สามารถครอบครองทรัพย์สินเงินตราได้มากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ของทรัพย์สินที่มีค่าของคนทั้งโลกรวมกัน  ส่วนประชากรที่เหลือ 90 เปอร์เช็นต์ คือคนที่มีรายได้ปานกลางถึงจน

        จากหนังสือ พ่อรวยสอนลูก : โรเบิร์ต ที คิโยชากิ กูรูด้านเศรษฐศาสตร์การลงทุนและการเงิน เขาได้แบ่งประเภทของคนตามที่มาของรายได้ ออกเป็นสองฝั่งด้วยกันคือ คนฝั่งซ้าย มีรายได้แบบ Active Income คือกลุ่มคนที่มีรายได้จากการทำงานโดยใช้แรงเพื่อแลกกับเงิน ไม่มีอิสรภาพด้านทางการเงินและเวลา เป็นรูปแบบรายได้ฝั่งของคนจน

         ส่วนคนฝั่งขวาคือ กลุ่มคนที่มีรายได้แบบ Passive Income เป็นกลุ่ม คนรวย มักทำงานเพื่อซื้อหรือสร้างทรัพย์สิน  แล้วให้ทรัพย์สินเหล่านั้นทำงานสร้างเงินแทนแรงงานตนเอง เป็นการใช้เงินต่อเงิน จนกระทั้งมีเงินสดมากค่าใช้จ่าย แบบเหลือกินเหลือใช้  แล้วจึงค่อยนำเงินเหล่านั้นไปซื้อความสะดวกสบาย สามารถสนองความต้องการได้ สามารถซื้อความหรูหราให้กับชีวิตได้

วงจรคนจน

   สาเหตุที่คนจนยิ่งจน วงจรอุบาทว์ วัฏจักรคนจน

       ความจนหรือการไม่มีเงินเป็นสิ่งชั่วร้าย เพราะการไม่มีเงินนอกจากความทุกข์แล้ว ยังจำกัดความคิดเชิงเหตุผลและความคิดสร้างสรรค์ คิดสั้น ไม่สามารถค้นหาทางออกในด้านดีได้  ตัวอย่างเช่น ข่าวหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่ง คุณแม่ขโมยของในห้างดัง ถูกจับได้แล้วสารภาพว่า ไม่มีเงินซื้ออาหารให้ลูกกิน จึงจำเป็นต้องขโมยอาหารและนมให้ลูกกิน  ยังมีข่าวที่น่าสลดอีกมากมายเช่น ลูกๆ ปล่อยพ่อ-แม่ที่แก่เฒ่าแถมยังไม่สามารถดูแลตนเองได้  ให้อยู่กันตามลำพัง โดยที่พ่อ แม่ไม่สามารถหาอาหารมาประทังชีวิตได้ ต้องอาศัยข้างปลาอาหารจากชาวบ้าน

       ความเลวร้ายของความยากจนยังมีมากกว่านั้นเช่น คุณค่าความเป็นมนุษย์ลดลง ไม่ว่าจะเป็นสถานะในสังคม การถูกเอารัดเอาเปรียบ  ความด้อยโอกาสเช่น การไม่มีเงินจึงขาดโอกาสศึกษาเล่าเรียน ขาดความรู้  ถึงแม้ว่าจะมีการขยายโอกาสทางการศึกษา แต่ก็ไม่สามารถเทียบเท่าโรงเรียนดังๆได้ พอเรียนจบก็ไม่สามารถต่อยอดทางความรู้ได้ ก็ต้องไปทำงาน เพื่อรับใช้เจ้านายหรือคนรวยเหมือนเดิม สาเหตุที่ คนจน ยิ่งจน มีดังนี้

       1. คนจนจะทำงานเพื่อเงิน โดยส่วนมากจะมีรายได้ทางเดียว  เพราะไม่มีความรู้ในการสร้างรายได้ทางอื่น โดยทั่วไปก็จะทำงานประจำเป็นมนุษย์เงินเดือน ด้วยการรับจ้างคนอื่นเพื่อแลกค่าแรงกับเงิน เป็นการทำงานเพื่อให้ คนรวยยิ่งรวย

         ขาดความรู้การเงินการลงทุน จึงทำให้คนจนติดกับดักคำว่า กลัว จึงยึดติดกับคำว่าความมั่นคง กลัวว่าตนเองจะสูญเสียรายได้ หากถูกเลิกจ้างและการถูกไล่ออก แล้วจะทำให้ตนเองจะสูญเสียความสะดวกสบาย เพราะการไม่มีเงินไปจ่ายหนี้สิน ที่กู้ยืมเงินซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกสบายจากผู็อื่นเช่น กลัวนายหน้าหรือเจ้าหน้าที่ธนาคารจะยึดรถที่กำลังผ่อนดาว เพราะไม่มีเงินส่งค่างวด  กลัวว่าจะสูญเสียบ้านที่อยู่อาศัยเป็นต้น  คำว่าความมั่นคง จึงทำให้คนทั่วไปกลัวการเปลี่ยนแปลงและไม่กล้าที่จะเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ ได้

        คนจนมักจะขาดความรู้ทางการเงินและการลงทุน เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าอะไรคือความเสี่ยงและไม่รู้ว่า จะมีวิธีการอย่างไรที่จะรับมือกับความเสี่ยงนั้นได้  ถึงแม้คนจนจะมีการลงทุนอยู่บ้าง แต่ก็ชอบค้นหาอะไรที่แน่นอนและมีความเสี่ยงต่ำ  แต่ผลตอบแทนที่จะได้รับก็ต่ำด้วยเช่นกัน  เช่น  การฝากเงินเอาดอกเบี้ยนอกจากได้ผลตอบแทนต่ำแล้ว ยังไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ จึงทำให้มูลค่าของเงินมันยังลดลงอีก

       คนจน โดยทั่วไปยึดติดความสบาย จึงซื้อสิ่งของอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันก่อนนำเงินที่ได้ จากค่าแรงไปลงทุนซื้อทรัพย์สิน ซึ่งบางคนยังไม่เคยลงทุนหรือซื้อทรัพย์สินใดๆเลย

       การขาดความรู้ด้านการเงินและวิธีลงทุน จึงมีความเชื่อเรื่องทรัพย์สินแบบผิดๆ เพราะมักเข้าใจว่า บ้านและรถ คือ ทรัพย์สิน  ทั้งๆ ที่ต้องผ่อนจ่ายค่างวดทุกๆเดือน (วิธีคิดว่าอะไรคือทรัพย์หรือค่าใช้จ่าย ให้คิดว่าเงินออกจากกระเป๋าคือค่าใช้จ่าย ส่วนเงินที่เข้ากระเป๋า จึงจะถือว่าเป็นทรัพย์สิน)

2. คนจนชอบโอ้อวด เพื่อให้ได้การยอมรับทางสัมคม ” อวดมี ” เช่น การซื้อบ้าน ซื้อรถและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ถ้าเป็นโทรศัพท์มือถือก็ต้องเป็นรุ่นใหม่ๆ ตามกระแสนิยม  จึงมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น การสร้างหนี้สินที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ก็ยิ่งทวีพลังแห่งความกลัวมากยิ่งขึ้นเช่นกัน  เพราะกลัวว่าจะไม่มีเงินไปใช้หนี้สิน กลัวว่าจะอายคนอื่นๆ จึงต้องทำงานหนักด้วยการทำโอทีให้มากยิ่งขึ้น เวลาส่วนใหญ่จะตกอยู่ที่งานประจำ ทำให้ชีวิตขาดอิสรภาพด้านเวลา ไม่มีเวลาดูแลตนเองและคนอื่นๆ ครอบครัวขาดความอบอุ่น สุขภาพแย่

        เมื่อขาดความรู้ทางการเงินและข้อจำกัดของงานประจำ จึงทำให้คนจนโดยทั่วไป ขาดโอกาสในการเรียนรู้วิธีสร้างรายได้เสริมอื่นๆ เพื่อทำให้ตนเองมีอิสรภาพทางการเงินได้  คนจนจึงถูกครอบงำทางความคิดตั้งแต่เด็กจนโต เริ่มต้นตั้งแต่พ่อแม่ ชอบสอนลูกๆ ให้เรียนให้สูง เพราะจะได้มีงานดีๆทำ จะได้เงินเดือนเยอะๆ

       เมื่อเข้าโรงเรียน ก็สอนหลักสูตรความเป็นมืออาชีพเพื่อรับใช้คนอื่นๆ ซึ่งไม่มีหลักสูตรที่สอนวิธีหาเงินและการเอาตัวรอดทางด้านการเงิน  หากต้องการได้เงินเดือนสูงขึ้นก็ต้องทำงานให้หนักขึ้น ต้องพัฒนาตัวเองที่เกี่ยวกับงาน เรียนรู้วิชาที่เกี่ยวข้องกับงานให้มากยิ่งขึ้น เพราะจะได้เกิดทักษะและความชำนาญ แล้วจะได้มีโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น ได้เงินมากขึ้น แต่สิ่งที่มาพร้อมกับตำแหน่งก็คือ ความรับผิดชอบและแรงกดดันมากยิ่งขึ้น

3. การทำงานหนัก แต่ไม่ถูกที่และถูกอาชีพก็จน บนข้อจำกัดของงานประจำ ไม่สามารถปรับความสมดุลเวลาในการใช้ชีวิตได้ เมื่อไม่มีเวลาดูแลครอบครัวก็มักเกิดปัญหา การไม่มีเวลาก็ไม่สามารถได้ดูแลพ่อแม่และตอบแทนผู้มีพระคุณได้  การไม่มีเวลาก็ไม่สามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้ จึงทำให้ร่างกายอ่อนแอ ภูมิต้านทานโรคก็ต่ำ เจ็บป่วยและเป็นโรคต่างๆได้ง่าย ซ้ำร้าย แถมเงินเดือนที่ได้รับนั้น ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเข้ารับการรักษาตัวกับโรงพยาบาลดีๆได้  จึงได้รับการบริการจากโรงพยาบาลของรัฐที่มีคุณภาพด้อยกว่าโรงพยาบาลเอกชน การบริการด้อยกว่าสิ่งที่คนรวยๆได้รับ

4. การไม่มีเครือข่าย ขาดคอนเน็คชั่นที่ดีกับคนเก่งและรวย โอกาสร้างเงินจึงน้อย การทำงานประจำมักรู้จักคนในวงจำกัด บวกกับการไม่มีเวลาและการติดกับดักกับข้ออ้างต่างๆเช่น คิดว่าคนเองไม่มีความรู้ความสามารถ ไม่มีพื้นฐานทางการเงิน ไม่มีเวลา เหนื่อย เป็นคำที่ใช้เพื่อให้ตนเองรู้สึกดี เช่นถ้าฉันมี…เงิน ความรู้..ฯลฯ เหมือนกับคนนั้นคนนี้ ฉันก็คงประสบความสำเร็จได้  การไม่ได้พัฒนาความรู้จัดการด้านการเงิน ทำให้การใช้เงินอย่างไม่ถูกต้องและไม่ได้วางแผนทางการเงินและการลงทุน จึงไม่สามารถทำให้เงินงอกเงยได้ ส่วนคนรวยพวกเขามักจะมี Connection กับคนรวยด้วยกัน ทำธุรกิจด้วยกัน คนรวยยิ่งรวย

5. การทำงานประจำเป็นมนุษย์เงินเดือน ต้องใช้ทั้งแรงและเวลาแลกกับเงิน จึงจำเป็นต้องฝากลูกรักไว้ให้คนอื่นเลี้ยงดู  และการที่พ่อ-แม่ไม่มีความรู้ทางด้านการเงิน จึงไม่ได้สอนวิธีการเอาตัวรอดทางการเงิน จำได้เพียงแค่คำที่ปู่-ย่าเคยพร่ำสอนกันเป็นรุ่นต่อรุ่นว่า ” เรียนให้เก่ง เรียนให้สูงๆ นะลูก จะได้มีงานดีที่มั่นคงทำเช่น วิศวะ แพทย์ พยาบาล ฯลฯ  ก็จะได้รับเงินเดือนสูงๆเอง ”  ในรุ่นลูกๆ ก็ยังขาดความรู้ทางการเงิน ก็ต้องทำงานเพื่อเงินกันต่อไป วงจรอุบาทว์วัฏจักรคนจน

6. การขาดทักษะและความรู้ทางการเงิน  จึงไม่รู้วิธีการแผนและการจัดการทางการเงิน  ถึงแม้จะมีการลงทุนก็มักขาดความรู้ที่จะบริหารความเสี่ยงทางการเงิน  เมื่อเกิดปัญหาขาดเงินใช้แบบฉุกเฉิน ก็มักตัดสินใจแก้ไขปัญหาเร่งด่วนด้วยการก่อหนี้ เมื่อมีภาระทางการเงินเพิ่ม กลายเป็นความเครียดทำให้สุขภาพจิตเสียและมีความคิดเชิงลบ (จน เครียด กินเหล้า)

7. การไม่ความรู้ทางการเงิน จะไม่มีความเชื่อมั่นในการลงทุนและไม่สามารถตัดสินใจกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงได้  เพราะกลัวว่าจะขาดทุน จึงมักลดความเสี่ยงด้วยการลงทุนแบบปลอดภัยแต่ก็ให้ผลตอบแทนต่ำ เพราะกลัวว่าเมื่อวิกฤต เกรงว่าจะทำให้สูญเสียสินทรัพย์ที่ลงทุนไป (กลัวการล้มเหลวและกลัวขาดทุน ) การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง แต่มีการบริหารการจัดการความเสี่ยงดี โอกาสที่จะทำให้เงินเติบโตอย่างก้าวกระโดดก็มีมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเคล็ดลับที่คนรวยไม่ค่อยเปิดเผย

8. เพราะการไม่มีความรู้ทางการเงิน กรณีที่มีปัญหาทางการเงิน ก็จะกู้ยืมและสร้างหนี้สินให้มากยิ่งขึ้น การไม่มีเงินจะลดความเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเองมากขึ้น ด้วยสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยทำให้เกิดความคิดเชิงลบเกี่ยวกับเงิน

   วงจรชีวิตก็ปรับเข้าสู่วงจรเดิมๆ แล้วความคิดลบเหล่านั้นจะถูกป้อนให้กับจิตสำนึกทุกๆวัน  จิตใต้สำนึกก็จะส่งคลื่นพลังด้านลบออกไป ให้เราแสดงพฤติกรรมเชิงลบ จนไม่สามารถก้าวออกจากความยากจนได้

คนจน

การก้าวออกจาก วงจรอุบาทว์และวัฏจักร คนจน

       ” การเป็นคนดีแต่จน สามารถทำให้คนดี กลายเป็นคนไม่ดีได้ แต่การเป็นคนดีและรวยช่วยทำให้ชีวิตดีมีความสุข ช่วยทำให้โลกน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ”  เงินสามารถพัฒนาปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น ให้หลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์วัฏจักรคนจน  อยากมีเงินต้องเปลี่ยนความคิด มีเป้าหมายชีวิต เพื่อใช้เป็นแรงบันดาลใจเพื่อการเผชิญกับความยากจน

      วิธีการแก้จนตามวงจรอุบาทว์ ด้วยการมองย้อนศร แล้วเริ่มต้นการแก้ไขปัญหาในจุดที่มีการเชื่อมต่อกันมากที่สุดของวงจร ” คนจน “  นั้นคือ การแก้ไขปัญหาเรื่องความรู้ทางการเงิน

วิธีการแก้จน

คนจน     1. การศึกษาหาความรู้ทางการเงิน โดยมี 4 เรื่องที่จำเป็นต้องศึกษาคือ   1) ความรู้ทางด้านบัญชี การอ่านงบการเงิน ความเข้าใจด้านการวิเคราะห์ตัวเลขทางการเงิน 2) ความรู้ทางการเงิน ในการสร้างทรัพย์สิน ที่จำเป็นต้องใช้ศาสตร์ความรู้ การใช้เงินทำงาน 3) สร้างความเข้าใจธรรมชาติของสินค้า  รู้แนวโน้ม อุปสงค์-อุปทาน “รู้ถึงปริมาณหรือความสามารถในการผลิตที่มีอยู่” กับ  “ความต้องการของผู้ซื้อหรือผู้ต้องการใช้สินค้า”สิ่งไหนมีมากกว่ากัน เพื่อหาโอกาสในการลงทุน  4) รู้กฎเกณฑ์ ข้อกำหนดกฎหมายและการใช้ประโยชน์ทางภาษี เพราะความรู้ทางการเงินเป็นสิ่งที่ใช้เงินลงทุนน้อยที่สุด และสามารถจัดการทางการเงินได้

    2. เอาเวลาโดยส่วนใหญ่ที่มีไปสร้างทรัพย์สิน เลิกเอาเวลาที่ทุ่มไปกับการทำ OT หรือการทำงานหนักเพื่อเลื่อนตำแหน่ง แทนที่ด้วยการแบ่งเวลาแล้วเอาเวลาส่วนใหญ่มุ่งไปที่อาชีพเสริม หรือวิธีสร้างรายได้ที่เรียกว่า Passive Income  การใช้เงินทำงาน เพราะการทำงานหนักอย่างเดียวไม่สามารถทำให้คุณรวยได้ ควรรู้จักการแบ่งเวลา โดยเอาเวลาส่วนหนึ่งไปเรียนรู้ด้านการเงินการลงทุน จากคนที่ประสบความสำเร็จ ด้วยการเข้าร่วมฟังสัมมนา อ่านหนังสือหรือสื่อต่างๆ

     3. ลงทุนในทรัพย์สินที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่ต้องศึกษาความเสี่ยงเป็นอย่างดี  แยกแยะให้ถูกต้องระหว่างหนี้สินและทรัพย์สิน “คำจำกัดความง่ายๆ ของหนี้สินคือ เงินออกจากกระเป๋า  ส่วนทรัพย์สินคือเงินเข้ากระเป๋า ” ควรอุทิศเวลาให้กับช่องทรัพย์สินให้มาก หากยังไม่ประสบความสำเร็จ ก็ย้อนกลับไปเริ่มต้นใหม่ที่ข้อ 1 ทำไปเรื่อยๆ หวังว่าสักวันหนึ่งเราและเพื่อนที่อ่านบทความนี้ จะหลุดพ้นจากกระแสแห่ง ความจน  สักที………..

  เหตุที่ทำให้เราต้องอิจฉาคนรวย เพราะพวกเขามีเงินมีอำนาจในการซื้อ เช่น ซื้ออาหารอร่อยๆ ซื้อเสื้อผ้าดีๆไว้สวมใส่ สามารถซื้อของแพงๆหรูๆ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ใน ชีวิต ชีวิตก็มีความสุข

อ่านต่อ  อาณาจักรคนรวย,

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *