จุลินทรีย์ในอาหาร ที่ก่อให้เกิดโรค คือ จุลินทรีย์ทำให้เกิดการเจ็บป่วยเนื่องจากอาหาร
ในอดีตการเกิดโรคจาก จุลินทรีย์ในอาหาร แล้วจะกลายเป็นโรคระบาด ที่ทำให้ผู้คนล้มป่วยถึงขั้นเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ จะรักษาโรคเหล่านี้ได้ แต่หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันถ่วงที ก็ถึงขั้นเสียชีวิตได้ อย่างเช่นเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์ในปี 2541 มีชาวบ้านทางภาคเหนือกลุ่มหนึ่งที่กินหน่อไม้ปี๊บแล้ว ถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งก็มีต้นเหตุมาจากจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในดินปนเปื้อนอยู่กับหน่อไม้ โดยยังไม่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อให้ตายก่อนการบริโภค ซึ่งอาการเบื้องต้นจะสามารถสันนิษฐานได้ว่า ติดเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อเกิดโรค ( Pathogenic Microorganisms ) ซึ่งจะแสดงอาการดังต่อไปนี้ ปวดหัว เป็นไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องร่วง สูญเสียน้ำ เหนื่อยอ่อน เป็นต้น
จุลินทรีย์ในอาหาร ที่ก่อให้เกิดโรค คือ จุลินทรีย์ทำให้เกิดการเจ็บป่วยเนื่องจากอาหาร ( Foodborne Illness ) มี 3 ประเภท 1. เจ็บป่วยเนื่องจากตัวเชื้อจุลินทรีย์ ที่รับประทานอาหารที่มีเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคที่มีชีวิตอยู่ 2. เจ็บป่วยเนื่องจากรับประทานอาหารที่มีสารเคมีอันตรายปะปนอยู่ หรือมีท๊อกซิน ( toxin ) ที่จุลินทรีย์สร้างขึ้น ( Intoxication) เข้าไปในร่างกาย 3.เจ็บป่วยเนื่องจากรับประทานอาหารที่มีจุลินทรีย์ที่เจริญเติบโตและสร้างท๊อกซิน ขึ้นมาในระบบทางเดินอาหาร ( Toxin – Mediated Infection)
จุลินทรีย์ในอาหาร ที่ก่อให้เกิดโรค สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักอันได้แก่ แบคทีเรีย ไวรัส และปาราสิต
1) การเจ็บป่วยจาก จุลินทรีย์ในอาหาร กลุ่มแบคทีเรีย
แบคทีเรีย (Bacteria) อันได้แก่ บาซิลลัส ซีเรียส Bacillus cereus , แคมไพโลแบคเตอร์ เจจูไน:Campylobacter jejuni , คลอสทริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์: Clostridium perfringens , คลอสติเดียม-โบทูลินัม : Clostridium botulinum , ลิสทิเรีย โมโนไซโตจิเนส: Listeria monocytogenes , สกุลซัลโมเนลลา: Salmonella spp. , อีโคไล :Shiga toxin – producing , เอสเชอริเชีย โคไล: Escherichia coli , ชิเกลลาสปีชีส์ :Shigella spp., สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส :Staphylococcus aureus , วิบริโอ สปีชีส์: Vibrio spp.
กลุ่มแบคทีเรียแบ่งออกเป็นชนิด สร้างสปอร์และไม่สร้างสปอร์
-
ไม่สร้างสปอร์ Vegetative cell : เซลล์ปกติของแบคทีเรีย สามารถเจริญเติบโตสืบพันธ์และผลิตของเสียเหมือนจุลินทรีย์ที่มีชีวิตทั่วไป
-
สร้างสปอร์ Spore : เซลล์ปกติของแบคทีเรียสามารถสร้างสปอร์ ซึ่งจะช่วยทำให้แบคทีเรียอยู่รอดในสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น ร้อนเกินไป หรือเย็นเกินไป แห้งแล้ง เป็นกรด หรือในสภาวะที่อาหารไม่เพียงพอ สปอร์ไม่สามารถเติบโต หรือสืบพันธ์ได้เหมือนเซลล์ปกติ
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรค มีด้วยกัน 6 ปัจจัย
1.ประเภทอาหาร (Type of food) แบคทีเรียชอบอาหารที่มีโปรตีน หรือ คาร์โบไฮเครต สูง
2.ความเป็นกรด ( Acid ) ปกติค่าความเป็นกรด-ด่าง อยู่ในช่วง pH 0 – 14 ค่าต่ำมีความเป็นกรดสูง ค่าสูงมีความเป็นด่าง และ pH 7 เป็นค่ากลาง ซึ่งเราสามารถแบ่งประเภทอาหารตามค่าความเป็นกรดด่างที่ pH 4.6 โดยแบ่งจากเชื้อแบคทีเรียคลอสติเดียม-โบทูลินัม Clostridium botulinum ไม่สามารถเจริญได้ โดย ถ้าอาหารมีค่า pH > 4.6 ถือว่าเป็นเป็นอาหารกรดต่ำ Low acid food และ อาหารมีค่า pH < 4.6 ถือว่าเป็นเป็นอาหารกรดสูง Acid food
3.อากาศ ( Oxygen) แบคทีเรียต้องการอากาศ (Aerobic bacteria ) แบคทีเรียไม่ต้องการอากาศ (Anaerobic bacteria ) แบคทีเรียมีอากาศ หรือ ไม่มีอากาศก็เจริญได้ ( Facultative bacteria)
4.ความชื้น (Moisture) แบคทีเรียต้องอาศัยความชื้นในการเจริญเติบโต ซึ่งเรียกว่า Water activity ( Aw) คือ ปริมาณน้ำอิสระที่มีในอาหาร ดังนั้นจึงสามารถแบ่งอาหารตามความชื้นได้ โดยใช้ค่า Aw ค่า Aw > 0.85 คือาหารแห้ง Aw < 0.85 เป็นอาหารสด
5. อุณหภูมิ (Temperature) * จุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค สามารถเจริญระหว่าง 5 °C – 60 °C
แต่ก็มีแบคทีเรียบางชนิดที่ยังสามารถเจริญเติบโตได้ในช่วงอุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศาเชลเซียส แต่เจริญอย่างช้า ๆ คือ ลิสทิเรีย โมโนไซโตจิเนส: Listeria monocytogenes
6.เวลา ( Time) แบคทีเรียจะขยายตัวแบบจาก1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4 ไปเรื่อยๆ ตามเช่น ใน เวลา 0 : 15 นาที: 30 นาที : 60 นาที: 3 ชม.: 5 ชม. แบคทีเรียจะขยายตัวจาก จำนวนเซลล์ 1 – 2 – 4-16 > 1000 > 1 ล้าน
ลักษณะและอาการของ จุลินทรีย์ในอาหาร ที่ก่อให้เกิดโรค
2.บาซิลลัส ซีเรียส :Bacillus cereus แบคทีเรียที่สร้างสปอร์ (Sporeforming Bacteria) เป็นการรับประทานอาหารที่มีสารเคมีอันตรายปะปนอยู่ หรือมีท๊อกซิน ( toxin ) ที่จุลินทรีย์สร้างขึ้น ( Intoxication) และ เจ็บป่วยจากการรับประทานอาหารที่มีจุลินทรีย์เข้าไปแล้วเจริญเติบโตและสร้างท๊อกซิน ขึ้นในระบบทางเดินอาหาร ( Toxin – Mediated Infection) สามารถแบ่งตามลักษณะอาการการเจ็บป่วยได้เป็น 2 ลักษณะคือ 1) ลักษณะของสูญเสียน้ำ จะมีอาการปวดท้อง ซึ่งจะมีระยะเวลาที่ปรากฏอาการ 8-16 ชม. ปกติ 12-14 ชม. ประเภทอาหารที่พบ เนื้อ นม ผัก ปลา ลักษณะของอาการแบ่งตาม 2) อาเจียน อาเจียน ท้องร่วง ปวดท้อง ระยะเวลาที่ 30 นาที – 6 ชม. ปกติ 30 นาที ถึง 6 ชม. ประเภทอาหารที่พบ ข้าว อาหารที่มีแป้ง ธัญพืช การป้องกัน ให้ความร้อนอย่างเพียงพอและคงอุณหภูมิไว้ที่ 60 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นทำให้เย็นทันที ต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส และควรให้ความร้อนก่อนรับประทานอาหาร ( reheat food )
3.คลอสทริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์: Clostridium perfringens แบคทีเรียที่สร้างสปอร์ได้ เป็นการรับประทานอาหารที่มีเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิตอยู่และเป็นจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค หรือแบคทีเรียมีท๊อกซิน ( toxin ) เข้าไปในร่างกาย ลักษณะอาการจะปวดท้องอย่างรุนแรงหรือท้องร่วงอย่างรุนแรง จะแสดงอาการในช่วงเวลา 8-22 ชม. อาหารที่พบ เครื่องเทศ , น้ำซ๊อสที่เก็บแช่เย็นไม่ถูกต้อง(โดยเฉพาะเนื้อ และอาหารที่ราดน้ำซ๊อส) การป้องกัน ( Prevention ) – ให้ความร้อนอาหารอย่างเพียงพอ แล้วทำให้เย็นและให้ความร้อนซ้ำก่อนบริโภค การปรุงอาหารต้องให้ความร้อน (reheat) จนถึง 74 องศาเซลเซียส ภายใน 2 ชั่วโมง และควบคุมอุณหภูมิที่ 60 องศาเซลเซียส จนกว่าจะรับประทาน
4.คลอสติเดียม-โบทูลินัม : Clostridium botulinum แบคทีเรียที่สร้างสปอร์ได้ เป็นการเจ็บป่วยเนื่องจากรับประทานอาหารที่มีสารเคมีอันตรายปะปนอยู่ หรือมีท๊อกซิน ( toxin ) ที่จุลินทรีย์สร้างขึ้น ( Intoxication) เป็น toxin ที่ทนความร้อนได้สูงถึง 121 °C จะแสดงอาการปวดศรีษะ, หายใจลำปาก, เวียนศรีษะหน้ามืดเห็นภาพซ้อน จะแสดงอาการเริ่มต้นปรากฏที่ 12 – 36 ชม. ปกติใช้เวลาหลายวัน จนถึงเวลาเป็นปี อาหารที่พบ อาหารที่มีความเป็นกรดต่ำ ( Low acid food) pH สูงกว่า 4.6 ที่ให้ความร้อนไม่เพียงพอ และหลังจากนั้น บรรจุในภาชนะที่ปิดสนิท (เช่น กระป๋อง หรือ Vacuum pouch) และเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง เช่น ปลากระป๋อง หน่อไม้อัดปี๊บ การป้องกันให้ความร้อนอย่างเหมาะสม และให้ภาชนะบรรจุที่เป็นสูญญากาศและทำให้เย็น (Cool vacuum package) และใช้ภาชนะบรรจุที่ลดออกซิเจนได้ ไม่ควรรับประทานอาหารกระป๋องที่ผลิตตามครัวเรือนที่ผลิตไม่ถูกต้อง โดยต้องใช้อุณหภูมิสูง 100 °C 20 นาทีจะสามารถทำลาย toxin ได้
5. แคมไพโลแบคเตอร์ เจจูไน: Campylobacter jejuni เป็นกลุ่มแบคทีเรียที่ไม่สร้างสปอร์ เป็นการเจ็บป่วยเนื่องจากรับประทานอาหารที่มีจุลินทรีย์ที่จะเจริญเติบโตและสร้างท๊อกซิน ขึ้นมาในระบบทางเดินอาหาร การแสดงอาการ ตัวบวม (watery) ท้องร่วง จนมีเลือดออก ( bloody diarrhea) อาการเริ่มต้นปรากฏ 2 – 5 ชม. ปกติจะใช้เวลา 2 – 7 วัน อาหารที่พบ เนื้อสัตว์ปีกดิบๆ เนื้อดิบ นมดิบ การป้องกัน การขนส่งที่เหมาะสม และการให้ความร้อนที่เหมาะสม รวมถึงการทำความสะอาด และฆ่าเชื้อพื้นผิวที่สัมผัสอาหาร
6.อีโคไล Shiga toxin – producing , เอสเชอริเชีย โคไล Escherichia coli เป็นกลุ่มแบคทีเรียที่ไม่สร้างสปอร์ เกิดจากรับประทานอาหารที่มีจุลินทรีย์ที่จะเจริญเติบโตและสร้างท๊อกซิน ขึ้นมาในระบบทางเดินอาหาร อาการ ท้องร่วงจนเป็นเลือดและ การทำงานของไตล้มเหลว ในกรณีที่รุนแรงที่สุดคือเกิด hemolytic uremic syndrome ( HUS) อาการเริ่มต้นปรากฏ 2 – 72 ชม. โดยปกติใช้เวลา 1 – 3 วัน อาหารที่พบ เนื้อวัวดิบหรือทำไม่สุก ปลาดิบ นมที่ฆ่าเชื้อไม่เพียงพอ ผักกาดหอม ( lettuce ) การป้องกัน ป้องกันการปนเปื้อนข้าม Cross contamination โดยอุ่นอาหารที่ อุณหภูมิสูงกว่า 60 เซลเซียส ถ้าเป็นอาหารเย็นแช่เย็นที่ 5 เซลเซียส ล้างมือก่อนเตรียมหรือก่อนกินอาหาร
อีโคไล แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ตามลักษณะอาการของโรค
Enterotoxigenic E.coli คือสายพันธ์ที่ทำให้ลักษณะการเกิดอาการของโรคคล้ายกับ Vibrio cholera ส่วนใหญ่พบว่าทำให้เกิดโรคท้องร่วงในเด็กเล็ก
Enteroinvasive E.coli คือสายพันธ์ที่ทำให้ลักษณะการเกิดอาการของโรคคล้ายกับ Shigella (dysentery-like disease) เกิดโรคได้กับคนทุกวัย สายพันธ์นี้จะไม่สร้าง เอนเทอโรทอกซิน enterotoxin ( เป็นชีวพิษคายออกโปรตีนที่จุลินทรีย์ปลดปล่อยออกมาโดยพุ่งเป้าไปยังลำไส้)
Enterohemorragic E.coli คือสายพันธ์ที่ทำให้ลักษณะการเกิดโรค hemorrhagic colitis เชื้อจะสร้าง verotoxin ซึ่งคล้ายกับ toxin ของ Shigella
7. ลิสทิเรีย โมโนไซโตจิเนส: Listeria moncytogenes ลิสทิเรีย เป็นกลุ่มแบคทีเรียที่ไม่สร้างสปอร์ เป็นแบคทีเรียที่ทนทนเกลือและเจริญได้ที่อุณหภูมิที่ต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส อาการ ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดี : อาการเหมือนไข้หวัด ( flu – like symptom ) ส่วนผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ : โลหิตเป็นพิษ สมองอักเสป หากเกิดกับหญิงตั้งครรภ์อันตรายถึงแท้งลูกได้ อาการเริ่มต้นปรากฏ อาหารที่พบ เนื้อดิบ , เนื้อสัตว์ปีกดิบ , ผลิตภัณฑ์นม , ผักดิบ , อาหารทะเล การป้องกัน เก็บรักษาอาหารที่สุกแล้วให้ถูกวิธี ป้องกันการปนเปื้อนข้าม หมุนเวียนให้อาหารที่อยู่ในตู้เย็นให้เป็นไปตาม FIFO
8: ซัลโมเนลลา:Salmonella spp. เป็นกลุ่มแบคทีเรียที่ไม่สร้างสปอร์ พบในลำไส้ของมนุษย์ และสัตว์เลือดอุ่น อาการ คลื่นไส้ , มีไข้ , อาเจียน ปอดท้อง , ท้องร่วง อาการเริ่มต้นปรากฏ 6 – 48 ชม. โดยปกติ 2- 3 วัน อาหารที่พบ เนื้อดิบ, หมูดิบ, เนื้อสัตว์ปีกดิบ ไข่ , นม , ผลิตภัณฑ์นม การป้องกัน ให้ความร้อนกับอาหารอย่างพอเพียง เช่น Salmonella bacterial ในสัตว์ปีกถูกทำลายที่ 74°C 15 วินาที หรือในไข่ ที่ต้ม 63°C เวลา 15 วินาที
9.สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส : Staphylococcus aureus เป็นกลุ่มแบคทีเรียที่ไม่สร้างสปอร์ พบในผิวหนัง , มือ , ผม และขน , จมูก , คอ การแสดงอาการ จะ คลื่นไส้ , อาเจียน , ปวดท้วงอย่างรุนแรง ,ปวดศรีษะ อาการเริ่มต้นปรากฏ 1 – 6 ชม. โดยปกติ 2-4 ชม. และนานที่สุดคือ 1 – 2 วัน อาหารที่พบ อาหารพร้อมบริโภค ( cooked ready to eat ) เช่น อาหารกลางวัน เนื้อ, เนื้อสัตว์ปีก ,สังขยา อาหารที่มีเกลือสูง เช่น แฮม นม และผลิตภัณฑ์นม หรืออาหารแปรรูปต่างๆ
9.วิบริโอ สปีชีส์: Vibrio spp . เป็นกลุ่มแบคทีเรียที่ไม่สร้างสปอร์ อาการปวดศรีษะ , มีไข้ , หนาวสั่น , ท้องร่วง , อาเจียน, สูญเสียเกลือแร่อย่างรุนแรง , กระเพาะและลำไส้อักเสบ อาการเริ่มต้นปรากฏ 2 – 48 ชม. อาหารที่พบ ปลาดิบ ปลาที่ให้ความร้อนไม่ถูกวิธี สัตว์น้ำที่มีเปลือก เช่น ปู , กุ้ง การป้องกัน อาหารที่ทำให้เย็นอย่างถูกวิธี การแยกวัตถุดิบและอาหารที่สุกแล้วออกจากกัน
2) การเจ็บป่วยจาก จุลินทรีย์ในอาหาร กลุ่มไวรัส
1.ไวรัสตับอักเสบ เอ: Hepatitis A Virus ลักษณะของอาการ เป็นไข้ , เวียนศรีษะ , อาเจียน , ปวดท้อง อาการเริ่มต้นปรากฏ 10 – 15 วัน กรณีไม่รุนแรงใช้เวลาหลายสัปดาห์ กรณีรุนแรงใช้เวลาหลายเดือน อาหารที่พบ หอยที่ดิบหรือปรุงไม่สุกที่ได้จากแหล่งน้ำสกปรก, ผักดิบที่ใช้น้ำชลประทานหรือล้างโดยน้ำไม่สะอาด, อาหารที่เตรียมโดยสัมผัสกับร่างกาย การป้องกัน ชื้อหอย และสัตว์น้ำ จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ แยกอาหารที่สุกแล้วออก จากอาหารดิบการเตรียมอาหารต้องสวมถุงมือ
2.การติดเชื้อท้องเสียโนโรไวรัส; Norwalk virus อาการ อาเจียน , ท้องร่วง , ปวดท้อง , ปวดหัว , มีไข้อ่อนๆ อาการเริ่มต้นปรากฏ 24 – 48 ชม. ปกติอาจถึง 1 – 3 วัน อาหารที่พบ น้ำที่ปนเปื้อนจากน้ำเสีย , วัตถุดิบของสลัดที่ถูกปนเปื้อนหอยสด , หอยนางรสสด , อาหารที่ปนเปื้อนจากเชื้อตัวผู้ประกอบอาหาร การป้องกัน ใช้น้ำประปา , ทำอาหารให้สุก , ขนส่งอาหารให้ถูกวิธีสุขลักษณะส่วนบุคคล , แยกอาหารดิบและสุกออกจากกัน
3) การเจ็บป่วยจาก จุลินทรีย์ในอาหาร กลุ่มปาราสิต
1.แอนิซาคิส : Anisakis spp เป็นพยาธิที่มากับปลาดิบ เมื่อรับพยาธิกลุ่มนี้จะเกิดอาการไอ ถ้าหนอนลงไปอยู่ที่คอ จะมีอาเจียนและปวดท้อง ถ้าหนอนอยู่ที่กระเพาะอาหาร มีไข้และ ปวดท้องมาก ถ้าหนอนอยู่ในลำไส้ใหญ่ อาการเริ่มต้นปรากฏ 1 ชม. – 2 อาทิตย์ อาหารที่พบ อาหารทะเลที่ดิบหรือไม่สุกโดยเฉพาะปลาที่ให้อาหารอยู่ใต้ผิวน้ำ(bottom – feeding fish ) เช่น ปลาแซลมอน การป้องกัน ให้ความร้อนแก่อาหารพวกปลาจนสุก รวมถึง การแช่แข็งเนื้อปลาให้เป็นไปตาม FDA Fook Code มีการตรวจสอบอาหารทะเลและขนส่งอย่างถูกวิธีและซื้อวัตถุดิบจากแหล่งที่ได้รับการรับรอง
2.คริปโตสปอริเดียม: Cryptosporidium parvum เป็นปรสิตที่ทำให้เกิด โรคอุจจาระร่วง เป็นโปรโตซัว ชนิด coccidia อาการเริ่มต้นปรากฏ ภายใน 1 สัปดาห์ หลังจากรับประทานเข้าไป อาหารที่พบ ปนเปื้อนจากน้ำ , อาหารที่ปนเปื้อนจากมีหนอนอาศัยอยู่ การป้องกัน การล้างมือการใช้น้ำที่ถูกบำบัดอย่างดี
บทความที่น่าสนใจ 6 สัญญาณที่กำลังแสดงให้รู้ว่าคุณกำลังอยู่ใน ภาวะขาดโปรตีน
คลิปที่น่าสนใจ ล้างแอร์ด้วยตนเอง https://www.youtube.com/watch?v=WWLJvh_YB4k