ภาวะผู้นำ เป็นผู้นำแห่งวิสัยทัศน์ วัฒนธรรมและการเป็นผู้นำแห่งอนาคต

        ภาวะผู้นำ คือผู้นำที่ดีนอกจากมีภาระหน้าที่ตามความรับผิดชอบแล้ว ควรมีวิสัยทัศน์ยาวไกลและการยอมรับสิ่งใหม่ๆ เป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งสามารถโน้มน้าวให้ผู้ใต้บังคับบัญชาให้เกิดการยอมรับและการลงมือทำงานตามแผนงานต่างๆ ให้บรรลุผลสำเร็จด้วยความเต็มใจ ทำให้ลูกน้องสามารถรู้สึกได้ถึง ความรับผิดชอบในเป้าหมายที่ตกลงร่วมกัน ซึ่งต่างจากคำว่าหัวหน้า ซึ่งทำหน้าที่เพียงแค่การใช้อำนาจ ในการสั่งการ บริหารงานให้ได้งานหรือผลสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

ภาวะผู้นำ

ภาวะผู้นำ

         ภาวะผู้นำ จึงสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยน และสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งไว้ ซึ่งทรัพยากรบุคคนเป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการผลักดันระบบ การบริหารจัดการ การใช้ทรัพยกรต่างๆได้อย่างความคุ้มค่า พูดง่ายๆคือลงทุนไปแล้วได้ผลประโยชน์สูงสุดเป็นค่าตอบแทน บริษัทแนวหน้าต่างๆ จึงได้ให้ความสำคัญในกระบวนการค้นหา การพัฒนาและรักษาผู้นำที่มี ภาวะผู้นำ เพราะจะทำให้บริษัทมีความมั่นคง เจริญเติบโต

        องค์กรต่างๆจึงให้ความสำคัญต่อทรัพยากรมนุษย์  โดยเฉพาะผู้นำแล้ว นั้นหมายถึงค่าตอบแทน และโอกาสต่างๆที่จะได้รับมากยิ่งขึ้นเช่น ความก้าวหน้าในตำแหน่งงานที่สูงขึ้น เป็นต้น ดังนั้นสำหรับใครที่ต้องการเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการสร้างโอกาสให้ตนเอง ต้องให้ความสำคัญกับคำนิยามว่า ภาวะผู้นำ ซึ่งมีคุณสมบัติดังนี้

ภาวะผู้นำ

 1. ผู้นำแห่งวิสัยทัศน์ มีลักษณะดังนี้

           1. กำหนดทิศทาง (direction setter) เพื่อกำหนดเป้าหมายองค์การไปสู่อนาคต และต้องมีความสามรถในการจูงใจให้บุคลากรเห็นพ้องต้องกันและโน้มนำให้เกิดผลสู่เป้าหมายที่ดีในอนาคต

          2. กระตุ้นการเปลี่ยนแปลง ( Change agent)  ส่งเสริมความเปลี่ยนแปลงในองค์การเพื่อการแข่งขัน สามารถประเมินผลกระทบที่ ผลต่อองค์การและสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานในการตอบรับสิ่งใหม่ๆ ได้

          3. ประชาสัมพันธ์ ( Spokesperson )  ผู้นำจะต้องเป็นผู้แนะนำ เจรจาต่อรอง ประสานงานกับภายนอกองค์กรได้เป็นอย่างดี และสามารถสร้างเครือข่ายเพื่อผลประโยชน์ในด้านการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

          4. การสอนและชี้แนะ (Coaching)  ผู้นำจะต้องสร้างทีมงาน ชี้ให้ทุกคนมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ช่วยสอนให้เกิดความเข้าใจและบรรลุวิสัยทัศน์ร่วมกันได้

  2. มีคุณลักษณะผู้นำแห่งอนาคต  ดังนี้

                    1. เป็นนักสื่อข้อความที่ดี   ผู้นำที่ดี คือผู้แผ้วถางถางทางให้ลูกน้องได้ทำงานไปสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ต้องจูงใจลูกน้องโดย ทำให้เป้าหมายของงาน และเป้าหมายส่วนตัวของลูกน้องไปด้วยกันได้ในการทำงาน การจูงใจ (Motivation) หมายถึง การสร้างอิทธิพลเพื่อให้ผู้อื่น ยินยอมทำงานหนักให้ตามที่เราต้องการ

                    2. มีความสามารถในการทำงานเป็นทีม โดยให้คนส่วนใหญ่ในองค์การมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา และเสนอข้อคิดเห็น  มีธรรมาภิบาล เป็นองค์ประกอบของผู้นำ ที่จะต้องมีการมอบหมายงานให้เหมาะสม โดย ผู้นำต้องมีหลักการในการบริหารทั้งแบบรุก แบบรับ โดยปรับให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ที่เกิดขึ้น

                    3. ใช้เทคโนโลยีได้ดี  มี Innovative คิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ  การพัฒนาธุรกิจในอนาคตจึงจำเป็นจะต้องใช้เทคโนโลยีในด้านต่างๆ มาช่วยในการบริหารงาน ไม่ว่าจะเป็นในด้านการผลิตสินค้าและบริการ ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้ความสะดวก รวดเร็ว แม่นยำ เพื่อให้เกิด 3 E คือ Economy (ประหยัด) Efficientcy (ประสิทธิภาพ) Effectiveness (ประสิทธิผล) ซึ่งเราสามารถที่จะใช้เทคโนโลยีในด้านการผลิตในด้านของการใช้ Logistic & Supplie chain เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการผลิตการขนส่ง ลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บสินค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งมอบสินค้าได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด ในส่วนทางด้านการบริหารการจัดการจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีมาเป็นส่วนช่วยในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ

                    โดยใช้ M I S Manangement Information System : ซึ่งเป็นระบบสารสนเทศใช้ในการจัดการองค์การ โดยแบ่งเป็นระดับ ดังนี้

                        1. TPS : Transaction Procesing Systems เป็นระบบพื้นฐานใช้รวบรวมข้อมูลต่างๆ ประจำวัน เช่น รายรับ รายจ่าย ระบบการเข้า – ออก งานของพนักงาน เป็นต้นในระดับของการใช้ ระบบปฎิบัติการสำหรับระดับ Operational Level

                        2. MIS : Managemant Information Systems เป็นระบบสำหรับผู้บริหารระดับกลางใช้ข้อมูลเป็นแบบ ผลสรุป Summary จากข้อมูล TPS เป็นรูปแบบรายงาน เพื่อการวางแผน ควบคุมงานและช่วยในการตัดสินใจ

                        3. DSS : Decision Support Systems ใช้สำหรับผู้บริหารระดับกลางเช่นกันแต่จะนำมาใช้ตัดสินใจในงานที่ไม่เป็นปกติ

                        4. ESS : Executive Support Systems เป็นระบบสำหรับผู้บริหารระดับสูงเพื่อใช้ในการตัดสินใจในด้านต่างๆ เป็นลักษณะรูปแบบ กราฟ ต่างๆ เพื่อสามารถดูแนวโน้มของธุรกิจ รวมทั้งการวิเคราะห์ถึงผลการดำเนินงานภายในบริษัท เพื่อประเมินถึงการบริหารงานภายในว่าตรงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่

                 4. สามารถแก้ปัญหาได้ดี  ต้องทราบถึงความสามารถที่มีและปัจจัยที่สำคัญจะทำให้การทำงานดำเนินไปได้ โดยไม่มีความเสี่ยงต่อผลกระทบด้านต่างๆ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นต้องสามารถดำเนินแก้ไขได้ทั้งปัญหาระยะสั้นรวมถึง การป้องกันสาเหตุของปัญหาไม่เกิดขึ้นซ้ำ

                 5. มีความสามารถเสมือนนักการฑูต  ทำให้เกิดเกิดความร่วมมือและการสนับสนุนจากลูกน้อง  ทำให้เขารู้สึก (Feel) ว่าสามารถ ทำงานได้สำเร็จ, ทำให้เขาเชื่อมั่น (Confident) ในผลตอบแทนเมื่องานสำเร็จ, ทำให้เขาเข้าใจ (Understand) ถึงคุณค่าของผลตอบแทนที่จะได้รับ

              6. เป็นนักบริหารการเปลี่ยนแปลง  ความเหมาะสมและความยืดหยุ่น  ผู้บริหารต้องเข้าใจตามทฤษฎีของ Maslow’s เกี่ยวกับความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ 5 ประการ คือ ความพร้อมในปัจจัย 4 , มีความปลอดภัย มั่นคงในชีวิต, มีสังคมและต้องการได้รับการยอมรับจากผู้อื่น, การได้รับการยกย่องให้เกียรติ, และบรรลุตามความฝันอันสูงสุดของชีวิตแล้ว ต้องเข้าใจพื้นฐาน พฤติกรรมของคนในองค์การที่ต้องการมีผู้นำที่เก่งคิด เก่งทำ และมีคุณธรรม ที่จะเป็นผู้นำที่จะพาองค์การอยู่รอด และมีความสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขั    ผู้นำจะต้องเป็นทั้งพี่เลี้ยง เป็นผู้ที่สามารถเจรจาต่อรองแก้ไขปัญหาได้ดี, มีความยืดหยุ่นในการทำงานไม่ยึดติดในกฎระเบียบจนเกินไป, มี Innovative คิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ, เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงได้ดี

           7. เป็นผู้นำศตวรรษที่ 21
– ลดลำดับขั้นการบังคับบัญชา แต่อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และการปฏิบัติได้จริง
– เพิ่มขีดความสามารถ Empowerment  เน้นการพัฒนาความสามารถขององค์การ โดยลงทุนอย่าง เหมาะสม เพื่อก่อให้เกิด ความรู้ นวัตกรรมใหม่ๆ มีระบบการจัดการที่มีความสามารถสูง เพื่อดึงดูดรักษา จัดการ ความสามารถขอองค์การ

3. มีคุณลักษณะผู้นำแห่งวัฒนธรรม  ดังนี้

         การให้ความรักกับตนเองและการแบ่งปันให้กับผู้อื่น ช่วยทำให้องค์กรเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นอยู่ที่ใคร แต่เกิดขึ้นจากตัวผู้นำ ที่ให้ความใส่ใจในกระบวนการ การใส่ใจในทีม การใส่ใจลูกค้า  การทุ่มเทชีวิตให้กับการทำงาน วิธีที่จะทำให้งานดีขึ้นคือ การทำงานที่โฟกัสทีละขั้นตอน เพราะการทำอะไรทีละหลายๆอย่างพร้อมกันจะไม่ประสบความสำเร็จ สิ่งดีที่หัวหน้าที่มี ภาวะผู้นำ ต้องทำคือ วัฒนธรรม

    1 ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรม คือการสร้าง การสะสม และการประเมิน

    2 วัฒนธรรมจะส่งผลและมีอิทธิพลต่อผู้นำและทีมในการกระตุ้นพฤติกรรม

   3 วัฒนธรรม ถึงช้าแต่มีพลังการสร้างวัฒนธรรมเป็นแผนงานง่ายๆ และค่อยค่อยเดินไป ข้างหน้า

   4 ต้องบำรุงวัฒนธรรมส่วนใดที่กระบวนการและศักยภาพของผู้นำ

   5 สร้างวัฒนธรรมที่เป็นเลิศวัฒนธรรมที่มีผลต่อแรงจูงใจ แรงจูงใจจะส่งผลต่อผลผลิตและประสิทธิภาพการผลิตได้

เทคนิคการสร้างวัฒนธรรมให้มีความเป็นเลิศ

    1 คาดหวังว่าจะมีเรื่องใหญ่ ต้องเกิดขึ้นได้แม้อยู่ในช่วงเวลาแห่งอุปสรรคก็ตาม

    2 ทำให้ดีที่สุดอย่ายอมรับสิ่งที่น้อยกว่าคำว่ายอดเยี่ยม

    3 การสอนงานการอบรมและพัฒนาให้มีความเป็นเลิศ วัฒนธรรมของหัวหน้าที่ดีจะทำให้คนในทีมเจริญรุ่งเรือง มีสภาพสิ่งแวดล้อมที่มีแต่นิสัยอันดีงาม ได้เรียนรู้คุณค่าและสร้างจริยธรรมในการทำงาน

วิธีสร้างวัฒนธรรมให้เกิดความเข้มแข็ง

     1 ทำงานด้วยการมองโลกในแง่ดี จากงานวิจัยพบว่าคนดีหรือคนมองโลกในแง่ดีจะทำงานประสบความสำเร็จกว่าคนที่มองโลกในแง่ร้าย

      2 การถ่ายทอดความเชื่อความแตกต่างระหว่างความสำเร็จกับความล้มเหลวคือความเชื่อผู้นำจะต้องถ่ายทอดความเชื่อวิสัยทัศน์และความหลงใหลร่วมกับคนอื่นเพื่อจุดประกายความคิดให้คนอื่นผู้นำที่ดีจะ ถ่ายทอดความเชื่อของตนไปสู่ผู้อื่นได้

     3 ป้องกันการมองโลกในแง่ร้ายผู้นำต้องมองโลกในแง่ดีเป็นผู้นำเชิงบวกมากกว่าเดิมต้องบริหารความเชื่อของพวกเขาเมื่อมีคนพูดถึงอุปสรรคให้พูดถึงโอกาส

      4 ทัศนคติเชิงลบที่แผ่ออกมาจะสามารถทำนายขวัญกำลังใจและศักยภาพของทีมที่มีทั้งคนเก่งและมีศักยภาพได้เพราะงานวิจัยอธิบายว่าความจริงที่คนเราต้องรู้คืออารมณ์ต่างๆติดต่อกันได้ข่าวดีคือ อารมณ์ที่เป็นบวกก็เป็นพาหะได้เช่นเดียวกันผู้นำต้องมองกระจกแล้วสะท้อนตัวเอง ภาพเป็นคนแบบไหน

    5 จ้างคนที่คิดแบบเป็นไปได้ ผู้นำจะต้องรู้ว่าคนในทีมใครมีความคิดเชิงลบและใครคือ คนที่มีความคิดเชิงบวกให้คำแนะนำ เพื่อช่วยให้พวกเขาได้เรียนรู้และเติบโตจากประสบการณ์ด้านการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและการตัดสินใจที่เป็นพาหะเชิงบวก

     6 สร้างวิสัยทัศน์ในทิศทางเดียวกัน การทำงานเป็นทีมจะต้องอาศัยทุกคนในทีมที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน มีเป้าหมายเดียวกันถึงจะประสบความสำเร็จในการทำงานได้

        อยากไปใกล้ๆไปคนเดียวอยากไปไกลไปด้วยกัน การทำงานจะประสบความสำเร็จหรือไม่  ไม่ใช่ขึ้นอยู่ที่วิธีการหรือเครื่องมือในการจัดการ แต่อยู่ที่คน ที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำ  เพราะผู้นำเป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุดที่  จะทำให้งานที่กำลังทำอยู่ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ผู้นำคือคนที่ทำให้ ตัวแปรอื่นๆ ในกระบวนการการทำงานเกิดขึ้นเช่น ความผูกพัน ความรัก การให้เกียรติ การยอมรับ การไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งเป็นกระบวนการ ที่ควบคู่ไปกับความสำเร็จของทีม ซึ่งมีเป้าหมายเดียวกัน

       ผู้นำตามคำจำกัดความของอดีตนายกรัฐมนตรีอานันท์ ปันยารชุน  ได้กล่าวไว้ว่าผู้นำคือ  คนที่เดินนำหน้าและมีคนอยากเดินตาม ผู้นำที่กำลังทำให้งาน  ที่กำลังทำอยู่ ประสบความสำเร็จได้  จะต้องมีความรู้ การมองโลกในแง่ดี สร้างความไว้วางใจ มีวิสัยทัศน์ มีการสื่อสาร มีความจริงใจ เป็นผู้นำที่ตั้งใจ สามารถดึงเอาส่วนดีของตัวและเพื่อนร่วมงานออกมาแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้แก่ตนเองและผู้อื่น  ลูกน้องในทีมเกิดการเปลี่ยนแปลง มองผลประโยชน์องค์กรเป็นที่ตั้ง

บทความที่น่าสนใจ ผู้นำในดวงใจ

You may also like...

1 Response

  1. มีนาคม 7, 2020

    viagra online

    WALCOME

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *