อัตราการเต้นของหัวใจ VSค่าความผันแปร HRVกับการดูแลสุขภาพให้เกิดประโยชน์
HRV ย่อมาจาก heart rate variability หรือความผันแปรของ อัตราการเต้นของหัวใจ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งทุกคนคงรู้เป็นอย่างดีว่า อัตราการเต้นของหัวใจของคนปกติทั่วไป จะอยู่ที่ 50 ถึง 60 ครั้งต่อนาทีโดยประมาณ แต่หากหัวใจมีอัตราการเต้นสูงมากกว่า 100 ครั้งต่อนาที ในขณะที่เราพักก็ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ ซึ่งอาจมีปัญหาด้านสุขภาพได้เช่น ต่อมไทรอยด์ทำงานหนักมากเกินไปหรือเป็นโรคหัวใจ เป็นต้น
อัตราการเต้นของหัวใจ ของกลุ่มคนรักสุขภาพหรือนักกีฬา ในขณะที่พักอาจจะมีค่าอัตราการเต้นของหัวใจน้อยกว่า 60 ครั้งต่อนาที
ในลักษณะของการออกกำลังกายนั้น เราสามารถแบ่งความเข้มข้นของการออกกำลังกายได้ โดยดูจากอัตราการเต้นของหัวใจได้ ซึ่งดูได้จากเปอร์เซ็นต์ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด โดยคำนวณจากอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด โดยคำนวณจาก 220 ลบด้วยอายุปี เช่น ถ้าเราอายุ 30 ปี จะได้อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดเท่ากับ 220 – 30 = 190
จากนั้นเราจะดูว่า เราต้องการออกกำลังกายหนักระดับใด ด้วยการนำเปอร์เซ็นต์ไปคูณกับอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดอีกครั้ง
จากภาพตารางด้านบนจะเห็นได้ว่า หากต้องการ การออกกำลังกายแบบเบาและนาน ซึ่งจะเน้นในเรื่องการนำไขมันมาใช้ จะต้องคุมอัตราการเต้นหัวใจที่ 60 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นอัตราการเต้นหัวใจสูงสุดจะอยู่ในช่วง 114-133 ครั้ง
แต่หากต้องการ การออกกำลังกายที่มุ่งเน้นให้ระบบหลอดเลือดและหัวใจแข็งแรง จะแนะนำให้ควบคุมอัตราการเต้นหัวใจอยู่ที่ 70 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นอัตราการเต้นหัวใจสูงสุด จะอยู่ในช่วง 133-152 ครั้ง เป็นต้น
แต่อย่างไรก็ดี การดูแล อัตราการเต้นของหัวใจ เพียงดวงเดียวไม่ทำให้การออกกำลังกายหรือการดูแลสุขภาพของเราได้ผลดีเสมอไป ควรติดตามควบคู่ไปกับการดูค่าความแปรผันของ อัตราการเต้นของหัวใจ หรือ Heart rate variability หรือ HRV จะทำให้ การวางแผนการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพของเราได้ดีมากยิ่งขึ้น
หากดูจากภาพเป็น จะเป็นภาพแสดงให้เห็นคลื่นไฟฟ้าของหัวใจ โดยจุดสูงที่สุดนั้นเราเรียกว่า จุด R จะเห็นได้ว่ามีระยะห่างระหว่างของการเต้นหัวใจแต่ละครั้ง ตามภาพเราเรียกว่า R-R Interval ซึ่งพบว่าคนที่มีสุขภาพดีนั้น R-R Interval จะไม่คง ซึ่งก็เป็นผลมาจาก การทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติที่เราเรียกว่า ซิมพาเทติกและพาราซิมพาเทติก
ซึ่งกล่าวได้ว่า อัตราการเต้นหัวใจคือการวัดค่าเฉลี่ยว่าหัวใจเต้นกี่ครั้งใน 1 นาที ส่วน HRV เป็นค่าที่บ่งบอกถึงความแตกต่างของการเต้นหัวใจ ในแต่ละครั้งนั่นเอง
ปัจจัยที่มีผลต่อค่า HRV ได้แก่
1 ระบบประสาท มีผลต่อ HRV โดยตรง เพราะผลจากการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามพบว่าผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของระบบประสาทและสมอง อาทิผู้ป่วยพาร์กินสัน จะพบว่ามีค่า HRV ลดลง
2 ระบบการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด พบว่าคนที่ป่วยด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดมีค่า HRV ลดลง
3 การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ พบว่าคนที่ นิยมบริโภคหรือดื่มสุราและการสูบบุหรี่เป็นประจำจะมีผลทำให้ค่า HRV ลดลง
4 ความเครียด มีผลทำให้ข้าง HRV ลดลงเช่นกัน
1 Response
viagra online
WALCOME