อินทผาลัม ผลไม้คนท้อง คุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ให้นมบุตร
อินทผาลัม เป็นผลไม้ไม่มีคอเลสเตอรอลและไขมันต่ำ นอกจากนี้เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายได้แก่ วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 วิตามินเค แคลเซียม เหล็ก โพแทสเซียม ฟอสฟอรัสแมกนีเซียมและน้ำมันโวลาไทม์ แถมยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ เป็นต้น
โดย อินทผาลัม 100 กัรม * (สายพันธุ์ Deglet Noor) ให้คุณค่าสารอาหารดังนี้
- พลังงาน 282 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 75.03 กรัม
- น้ำตาล 63.35 กรัมต้นอินทผลัม
- เส้นใย 8 กรัม
- ไขมัน 0.39 กรัม
- โปรตีน 2.45 กรัม
- น้ำ 20.53 กรัม
- วิตามิน A 10 ไมโครกรัม
- เบตาแคโรทีน 6 ไมโครกรัม
- ลูทีนและซีแซนทีน 75 ไมโครกรัม
- วิตามินB 1= 0.052 มิลลิกรัม
- วิตามินB2 = 0.066 มิลลิกรัม
- วิตามินB3 = 1.274 มิลลิกรัม
- วิตามินB5 = 0.589 มิลลิกรัม
- วิตามินB6 = 0.165 มิลลิกรัม
- วิตามินB9 = 19 ไมโครกรัม
- วิตามินC =0.4 มิลลิกรัม
- วิตามินE = 0.05 มิลลิกรัม
- วิตามินK = 2.7 มิลลิกรัม
- แคลเซียม 39 มิลลิกรัม
- เหล็ก 1.02 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 43 มิลลิกรัม
- แมงกานีส 0.262 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 62 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 656 มิลลิกรัม
- โซเดียม 2 มิลลิกรัม
- สังกะสี 0.29 มิลลิกรัม
ดังนั้น อินทผาลัม จึงจัดให้เป็นหนึ่งในผลไม้สำหรับคนท้อง คุณแม่ตั้งครรภ์ และคุณแม่ให้นมบุตร ซึ่งคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรนั้น ต้องการสารอาหารสำคัญๆที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายของคุณแม่ที่เพิ่มขึ้น และช่วยในการเจริญเติบโตอย่างมีสุขภาพดีของลูกน้อย ดังนี้
โปรตีน: โปรตีนช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อ กระดูกและเนื้อเยื่อต่างๆ ของทารก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของการตั้งครรภ์ ปริมาณโปรตีนที่แนะนำสำหรับช่วงครึ่งหลังของการตั้งครรภ์ และการให้นมบุตรคือ 71 กรัมต่อวัน
คาร์โบไฮเดรต: การรับประทารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตจะให้พลังงาน เพื่อช่วยในการพัฒนาและเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ หรือทารกแรกคลอดในช่วงการให้นมบุตร
แคลเซียม: แคลเซียมช่วยในการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง และยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต กล้ามเนื้อ และระบบประสาท คุณแม่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรได้รับแคลเซียมเป็นปริมาณ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
ไฟเบอร์: ไฟเบอร์หรือใยอาหารเป็นสารอาหารที่สามารถช่วยลดอาการท้องผูกที่เกิดจากการตั้งครรภ์
ธาตุเหล็ก: ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรจะช่วยป้องกันโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กได้ คุณแม่ที่ได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพออาจรู้สึกเหนื่อยล้า และติดเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่าย
วิตามินเอ: วิตามินเอช่วยในการพัฒนาหัวใจ ดวงตาและระบบภูมิคุ้มกันของทารก อย่างไรก็ตามการได้รับวิตามินเอในปริมาณที่มากเกินไป หรือน้อยเกินไปนั้น อาจเป็นอันตรายต่อการพัฒนาของลูกในครรภ์ได้
วิตามินบี 6 ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงของทารก ช่วยย่อยโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตในร่างกาย และยังจำเป็นต่อการพัฒนาและการทำงานของสมองที่สมบูรณ์
วิตามินบี 12 มีบทบาทสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดงของทารก รวมไปถึงการพัฒนาและการทำงานของสมอง
วิตามินซี: วิตามินซีมีบทบาทสำคัญในการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ และช่วยในการสร้างกระดูกและฟันอีกด้วย วิตามินซียังช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กเข้าสู่ร่างกาย
วิตามินดี: วิตามินดีช่วยในการดูดซึมแคลเซียมของร่างกายเพื่อสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง
กรดโฟลิค: กรดโฟลิคช่วยในการสร้างสมองและไขสันหลังที่สมบูรณ์ และยังจำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง และเม็ดเลือดขาว คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ได้รับกรดโฟลิคปริมาณ 400 ไมโครกรัม (0.4 มิลลิกรัม) ต่อวันในช่วงก่อนตั้งครรภ์ และไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ สามารถลดความเสี่ยงที่ลูกน้อยจะเกิดมาพร้อมกับโรคที่เกิดจากความบกพร่องของหลอดประสาทได้ (เกิดจากการพัฒนาสมองและไขสันหลังที่ไม่สมบูรณ์)
ไอโอดีน: ไอโอดีนนั้นช่วยทำให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโต และพัฒนาสมอง ถ้าหากคุณแม่ได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอในระหว่างการตั้งครรภ์ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่ทารกจะเกิดมามีปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ และมีพัฒนาการทางด้านการรับรู้ช้าได้ แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรใช้เกลือเสริมไอโอดีนในการปรุงอาหารและรับประทานอาหารที่มีไอโอดีนสูง
ไขมันดี: ไขมันดี (ไขมันที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการอะไรมาก่อน) ใช้เป็นแหล่งพลังงานเพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนากระบวนการต่างๆ ของทารก ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาระบบประสาทและสมอง
อินทผาลัม จึงจัดได้ว่ามีประโยชน์ช่วยในการเพิ่มน้ำนมให้แก่บรรดา ซึ่งจะช่วยลดความกดดันและบรรเทาภาวะอาการซึมเศร้าของมารดา จึงทำให้น้ำนมเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสารอาหารให้น้ำนมทำให้บุตรโตอย่างแข็งแรงและยังมีสารกระตุ้นชนิดหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อมดลูก ซึ่งจะช่วยให้การบีบตัวของมดลูกเป็นไปได้อย่างง่ายดายในช่วงเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์และยังช่วยลดการสูญเสียเลือดในขณะคลอด
ประโยชน์ของ อินทผาลัม ยังมีอีกมากมายได้แก่บำรุงร่างกายเพิ่มกำลังขจัดความเมื่อยล้
ช่วยเพิ่มน้ำหนักในกลุ่มคนที่มีน้ำหนักน้อยเกินไป
ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงป้องกันโรคกระดูกพรุน
ช่วยบำรุงสายตา
ช่วยดูแลและควบคุมระบบประสาท
ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดในสมอง
ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดช่วยรักษาโรคเบาหวาน
ช่วยลดความดันโลหิตสูง
ช่วยลดความหิว แก้กระหาย แก้โรควิงเวียนศีรษะ
ช่วยลดเสมหะในลำคอ ทำ
ช่วยฆ่าเชื้อโรค พยาธิและสารพิษที่ตกอยู่ในลำไส้และระบบทางเดินอาหาร
มีฤทธิ์ในการกำจัดสารพิษและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคอันเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งในช่องท้อง
สำหรับคุณแม่ที่ตั้งท้องการได้รับสารอาหารจากผลอินทผาลัม อย่างเดียวคงไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ดังนั้นคุณแม่ควรทานอาหารให้หลากหลายอันได้แก่ ผัก ผลไม้สด ธัญพืช ถั่วต่างๆ ผลิตภัณฑ์จากนม และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ ที่มีปริมาณเพียงพออย่างเหมาะสม นั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะสารอาหารต่างๆจะทำให้คุณแม่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ มีภูมิต้านทานโรคที่ดี เมื่อแม่คุณแม่ได้รับสารอาหารก็จะถูกส่งผลดีไปยังคุณลูกโดยตรง เมื่อคุณแม่บริโภคอาหารได้อย่างถูกต้องก็จะทำให้ทารกในครรภ์มีสุขภาพที่ดี มีพัฒนาการเหมาะสมกับวัย
บทความที่น่าสนใจ ซุปเปอร์ฟรุต ผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมากเป็นพิเศษ
อาหารเช้า อาหารชีวิต ภัยร้ายของการไม่รับประทานอาหารมื้อเช้า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
*https://medthai.com/ 28 สรรพคุณและประโยชน์ของอินทผาลัม ! (อินทผลัม) /
App.Mali/สารอาหารที่จำเป็นในขณะตั้งครรภ์และการให้นมบุตร/