โรคเบาหวาน เกิดจากสาเหตุใดแล้วถ้าเป็นเบาหวานจะดูแลรักษาร่างกายอย่างไร

 

           โรคเบาหวาน เป็นโรคอันเกิดขึ้นจากความเสื่อมของเซลล์ เซลล์ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่เล็กของร่างกาย เมื่อเซลล์ในร่างกายเสื่อม จะส่งผลทำให้เนื้อเยื่อต่างๆเสื่อมลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกาย ให้ทำงานได้ช้าลง จึงมีผลต่อระบบต่างๆในร่างกายทำงานไม่สมดุล โดยเฉพาะระบบภุูมิต้านทานลดลง เราก็จะเป็นโรคได้ง่ายขึ้น  เบาหวานเป็นโรคที่อยู่ในกลุ่มโรคอันเกิดขึ้นจากความเสื่อมสภาพของร่างกาย  ซึ่งเรียกกลุ่มโรคเหล่านี้ว่า  NCDs: Non-communicable diseases เป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อและไม่ใช่โรคที่เกิดจากเชื้อโรค จากข้อมูลเชิงสถิติของสำนักนโยบายสุขภาพระหว่างประเทศเมื่อปี 2552  พบว่า การเสียชีวิตของประชากรไทยทั่วประเทศที่มีสาเหตุมาจากกลุ่มโรค NCDs สูงมาเป็นอันดับหนึ่งคือ  73% ของการเสียชีวิตทั่วประเทศ โดยที่การเสียชีวิตจากโรคเบาหวานก็ยังเป็นสาเหตุลำดับต้นๆของกลุ่มโรค NCD

เบาหวาน

โรคเบาหวาน

      ความมหัศจรรย์ของเซลล์ เมื่อยังเล็กๆและแข็งแรงจะ สามารถรักษาตัวเองและสร้างทดแทนเซลล์ที่ตายได้อย่างเหลือเชื่อ เช่นเดี่ยวกับร่างกายของเด็ก หากได้รับบาดเจ็บเป็นแผล ก็จะหายได้ภายในไม่กี่วัน เพราะอวัยวะและระบบต่างๆในร่างกายจะทำงานประสานกัน ตามหน้าที่ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถซ่อมแซมตนเองได้อย่างมหัศจรรย์ เราก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรง

       ดังนั้นหากต้องการให้ร่างกายแข็งแรงและอวัยวะต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องทำให้เซลล์แข็งแรง โดยเฉพาะพฤติกรรมการบริโภค เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ และมีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย  ซึ่งหากรับประทานอาหารน้อยจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและหากรับประทานมากจนเกินไปจะสะสมไว้ตามอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกาย   เซลล์ต้องการพลังงานจากการเผาผลาญสารอาหารจำพวก แป้ง น้ำตาล แต่เมื่อเซลล์ไม่ได้รับพลังงานมันจะโกรธ มันก็จะปิดปากเซลล์ เมื่อเซลล์ไม่ได้รับสารอาหารในที่สุดมันก็จะตาย

      โดยเฉพาะเซลล์สมอง ในช่วงเช้าเซลล์ต้องการแป้ง น้ำตาล เพื่อสร้างพลังงาน ดังนั้นการรับประทานอาหารมื้อเช้าต้องไม่ควรเกิน 9.00 น. ถ้าร่างกายไม่ได้รับแป้ง น้ำตาล เซลล์สมองจะไม่มีพลังงานใช้ เมื่อเรามีอายุมากขึ้น สมองก็จะเสื่อมเร็วกว่าปกติ  แต่ถ้าเราทานแป้ง น้ำตาล มากจนเกินความต้องการของร่างกาย จะทำให้เกิด ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง แล้วเมื่อเป็นเช่นนั้น ด้วยความฉลาดและกลไกลพิเศษของร่างกาย มันจะหาวิธีการกำจัด หรือนำไปสะสมไว้ตามร่างกายในรูปแบบของไขมันเกาะตามอวัยวะต่างๆ หรือหากมีน้ำตาลในร่างกายมากจนเกินไปก็จะเกิดโรค

โรคเบาหวาน

 

โรคเบาหวาน เกิดขึ้นได้อย่างไร

         เบาหวาน เป็นโรคที่เกิดจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเกินผิดปกติ เป็นความผิดปกติในการควบคุมน้ำตาลของร่างกาย โดยปกติแล้วเมื่อเราทานแป้งหรือน้ำตาลต่างๆ เข้าไปในร่างกาย ตับอ่อนจะทำหน้าที่ปล่อยคำสั่งให้หลั่งสารที่เรียกว่าฮอร์โมน อินซูลิน ซึ่งอินซูลินมีโครงสร้างของโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่ในการนำพาน้ำตาลไปป้อนให้กับเซลล์ ส่วนน้ำตาลที่เหลือ จะถูกเก็บไว้ในน้ำเลือด

          ดังนั้นถ้าหากบริโภคน้ำตาลมากเกิน ความต้องการของเซลล์ในร่างกาย จะทำให้มีน้ำตาลในน้ำเลือดสูง เมื่อตับอ่อนรู้ว่ามีน้ำตาล มันก็จะสั่งให้หลั่งอินซูลินเพิ่มมากขึ้น  เมื่อพฤติกรรมนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ก็จะทำให้การทำงานของร่างกายผิดปกติ โดยตับอ่อนสั่งให้หลั่งอินซูลินออกมา ทั้งๆที่เราไม่ได้ทานแป้งหรือน้ำตาล  แล้วอินซูลินที่หลงเหลือก็จะวิ่งไปหาเซลล์  โดยที่ไม่มีน้ำตาลไปป้อนให้กับเซลล์   เมื่อเซลล์อ้าปากเปิดรับ แต่ไม่มีน้ำตาล เซลล์มันก็จะโมโห  โกรธ  ครั้งต่อมา ถึงแม้ว่าเราจะทานแป้งหรือน้ำตาลเข้าไป  และถึงแม้ว่าอินซูลินจะทำงานปกติคือจับน้ำตาลไปหาเซลล์แล้วก็ตาม  เซลล์ก็จะปิดปากไม่รับน้ำตาล  ในที่สุดก็ทำให้เกิดภาวน้ำตาลในเลือดสูง กลายเป็น โรคเบาหวาน

 

 

โทษของการมีอินซูลินในร่างกายมากเกินไป

       ฮอร์โมนอินซูลินจะเป็นคู่ปรับกับโกรทฮอร์โมน เมื่ออินซูลินมีมาก จะทำให้สมองไม่สั่งให้โกรทฮอร์โมนทำงาน เราก็จะแก่เร็ว โทรมเร็ว เพราะโกรทฮอร์โมนทำหน้าที่ ในการซ่อมแซมและสร้างเซลล์ใหม่ๆ

       อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่มีความขยัน ขณะเดินทางไปที่ตับๆก็จะสร้างไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลออกมา และถ้าฮอร์โมนอินซูลินเดินไปที่หลอดเลือดก็จะกรีดหลอดเลือดให้ได้รับบาดเจ็บ หลอดเลือดก็จะแข็งกระด้าง เมื่อเกิดแผลจึงทำให้แผลหายช้า ติดเชื้อได้ง่าย จึงทำให้คนเป็นแผลและเป็นโรคเบาหวานหายช้า

 

โรคเบาหวาน

 

สาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน

           ปกติเมื่อเรากินแป้ง แป้งก็คือน้ำตาลที่เกาะกันเป็นกลุ่ม ร่างกายเราจะเริ่มย่อยแป้ง ตั้งแต่ปากแล้วส่งไปย่อยต่อที่กระเพาะ  เพื่อให้โมเลกุลเล็กลงจนกลายเป็นน้ำตาล  แต่ปัจจุบันการบริโภคน้ำตาลของคนเราได้เปลี่ยนไปจากเดิม  คือเราบริโภคแป้งและน้ำตาลมาก แถมยังเป็นแป้งที่ย่อยแล้วและส่งเข้าไปในร่างกายทันทีเช่น  แทนที่จะกินผลไม้เป็นลูก ก็นิยมกินผลไม้ปั่นแถมยังใส่น้ำตาลเพื่อเพิ่มความหวาน แทนที่จะกัดกินมันที่เป็นหัว ก็มักจะกินมันที่บดละเอียดแล้ว  แทนที่จะกินข้าวกล้อง ก็หันมากินข้าวขาวขัด เพราะข้าวกล้องไม่นุ่มเหมือนข้าวขาว 

         จากพฤติกรรมการบริโภคแป้งและน้ำตาล ที่ไม่ผ่านกระบวนการย่อยตามลำดับชั้น จึงทำให้ร่างกายไม่สามรถดูดซึมน้ำตาลไปใช้ทีละน้อยๆ ทำให้เซลล์เผาผลาญน้ำตาลได้หมด การบริโภคน้ำตาลรูปแบบไม่ต้องย่อย จึงเป็นสาเหตุหลักๆของการเกิดปริมาณน้ำตาลมากเกินความต้องการของร่างกาย และมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

         นอกจากนี้พฤติกรรมการนอนดึก ก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคเบาหวานได้  ปกติแล้วอาหารที่เรากินเข้าไปต้องใช้เวลาในการย่อยถึง 4-5 ชั่วโมงโดยประมาณ แต่ถ้าเรานอนดึก เรามักจะหิวอีกครั้งก่อนที่จะหลับได้ ท้ายที่สุดแล้วเราก็มักจะหาอะไรใส่ท้อง แล้วถ้าหากเราได้กิน ก็มักจะง่วงทันที่  ทำให้เราหลับหลังจากการกินอาหาร  แต่ผลเสียที่ตามมาก็คือประสิทธิภาพการเผาพลาญต่ำและไม่สามารถย่อยสารอาหารได้หมด  เพราะร่างกายไม่สามารถนำอาหารไปเผาผลาญที่เซลล์ได้หมด  โดยเฉพาะสารอาหารประเภทน้ำตาล เมื่อนอนดึกบ่อยๆ มันก็จะติดเป็นนิสัย ถึงจะเข้านอนเร็ว เราก็มักจะนอนไม่หลับกลายเป็นวัฏจักรแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนในที่สุด ก็เข้าสู่ภาวะน้ำตาลในเส้นเลือดสูงได้เช่นกัน  นอกจากนี้แล้วการนอนดึกยังมีโทษอีกมากมายเช่น ทำให้เกิดโรคอ้วน ร่างกายเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ หนังรอบดวงตาเป็นสีดำเหมือนหมีแพนด้า

         ความพิเศษอีกอย่างของระบบกลไกลการทำงานของร่างกายคือ เมื่อไม่สามารถเผาผลาญสารอาหารได้หมด โดยเฉพาะการใช้น้ำตาลได้ไม่หมด ร่างกายก็จะสะสมน้ำตาล ด้วยการแปรรูปน้ำตาลให้เป็นไขมัน แล้วส่งไปสะสมไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายเช่น หน้าท้อง สะโพก เพื่อกักเก็บไว้ใช้ในช่วงจำเป็น เช่น ช่วงหน้าหนาวคนอ้วนจะทนหนาวได้มากกว่าคนทั่วไป  เพราะในขณะที่ร่างกายทำการเผาผลาญสารอาหาร ก็จะทำให้เกิดพลังงาน จึงสามารถสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย แต่พฤติกรรมส่วนใหญ่ของคนอ้วน ต่อให้ฤดูกาลใดๆ ก็จะกินจนเหลือแล้วก็เก็บสะสมๆ ถึงจะผ่านฤดูหนาวไปแล้ว ร่างกายก็ยังไม่สามารถนำไขมันที่สะสมไปใช้ได้หมด 555

 

 

 

โรคเบาหวาน

การดูแลสุขภาพและการป้องกัน โรคเบาหวาน

    1.เมื่อเป็นโรคเบาหวาน ปกติหมอจะจ่ายยาลดปริมาณน้ำตาลในหลอดเลือด แต่ข้อเสียเมื่อทานยาประเภทนี้ ในระยะยาวมักจะเกิดผลข้างเคียง ซึ่งอาจจะผลต่อระบบลำไส้และระบบการขับถ่ายเช่น ท้องร่วงหรือมีอาการท้องผูก เมื่อระบบลำไล้มีปัญหา ก็จะส่งผลต่อระบบสารสื่อประสาท กลายเป็นสาเหตุของ ปวดหัว มึนงง แต่เราสามารถแก้ไข ด้วยการกินอาหารที่มีวิตามินบีรวม เพื่อลดปัญหาของระบบประสาทและสมอง

    2.เปลี่ยนพฤติกรรม การกินใหม่ ลด ละ เลิก การกินน้ำตาล ที่เข้าสู่ร่างกายโดยตรง โดยให้กินผลไม้ที่กัดกินเป็นลูกแทนการกินผลไม้ปั่น และต้องไม่กินผลไม้ที่มีรสหวานหรือไม่กินผลไม้ ในปริมาณมากเกินความจำเป็น ลดการกินเนื้อสัตว์บกที่มีไขมันสูง

   3.บริโภคอาหาร ให้ได้สารอาหารครบ 5 หมู่อย่างเพียงพอและเหมาะสม เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสมดุล ควรบริโภคโปรตีนให้เพียงพอ เพื่อทำให้อวัยวะต่างๆแข็งแรงขึ้น  อวัยวะร่างกายเมื่อได้รับการซ่อมแซมก็จะกลับมาแข็งแรง โดยเฉพาะตับอ่อน เพื่อให้ตับอ่อนกลับมาทำงานตามปกติ  การทำให้เซลล์ที่โกรธเปิดปาก ด้วยการกินอาหารทะเล ปลาน้ำจืด ปลาเนื้ออ่อนหรืออาหารต่างๆที่ให้โอเมก้า 3 โอเมก้า 6-9

   4.ไม่นอนดึกและนอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-9 ชั่วโมง ซึ่งการนอนหลับที่ดีต้องหลับให้ลึก โดยเฉพาะในช่วงเวลา 22.00-3.00 น. เพื่อให้สมองสั่งให้ระบบการซ่อมแซมของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการหลับลึกในช่วงเวลาดังกล่าวทำให้สมองสั่งให้หลั่งโกรทฮอร์โมนทำงานร่วมกับโปรตีนได้ดี ไปซ่อมแซมเซลล์ที่ได้รับบาดเจ็บให้กลับมาแข็งแรงเป็นปกติได้อีกครั้ง

   5. อย่าทานแป้ง น้ำตาลหลังเวลา 18.00 น. จะช่วยทำให้ตับอ่อนทำงานหนักน้อยลงและช่วยทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนอินซูลินออกมาไม่มากจนเกินไป  ควรกินอาหารก่อนนอน 3-4 ชั่วโมง และไม่ควรกินอาหารเสร็จแล้วเข้านอนทันที

    6. ควรมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างปริมาณกล้ามเนื้อให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายมีประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น ปริมาณสารอาหารที่เหลือภายในเลือดก็จะต่ำลง

    7. ลดละเลิกพฤติกรรม ที่ไม่เป็นผลดีต่อร่างกายเช่น การสูบบุหรี่ เพราะสารในบุหรีทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะต่ำลง การเลิกสูบบุหรี่จะช่วยทำให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น  การไม่สูบบุหรี่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนออกชิเจนของปอดได้ดีขึ้น ร่างกายก็มีประสิทธิภาพในการเผาผลาญสารอาหารได้สูงขึ้น นั้นเอง

    8.เลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะการดื่มแอลลกอฮอลล์จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานมากจนเกินความจำเป็น ยังไม่รวมในเวลาที่เราดื่มแอลกอฮอล์ ก็มักจะมีกับแกล้มในวงเหล้าที่ให้พลังงานสูงอีกด้วย

    9.ลดปริมาณการบริโภคผลไม้ที่ให้ความหวานมากเช่น เงาะ ทุเรียน น้อยหน่า ฯลฯ เป็นไปได้ควรบริโภคผลไม้ที่มีความหวานน้อย

    10. กินอาหาร ประเภทผักที่ปลอดสารเคมี และมีไฟเบอร์สูงๆ โดยเฉพาะกลุ่มอาหารที่มีโปรไบโอติก จะช่วยทำให้จุลินทรีย์ชนิดดีทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ ระบบลำใส้แข็งแรง เพื่อสร้างสารสื่อประสาทได้ดี ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน เมื่อฮอร์โมนต่างๆมีความสมดุลจะทำให้ระบบอวัยวะทำงานเป็นปกติ

 

     บทสรุป จากเนื้อหาข้างต้นแสดงให้เห็นว่า โรคเบาหวาน ซึ่งเป็นโรคหนึ่งที่มีสถิติการเสียชีวิตสูง ในกลุ่มโรค NCD และกลุ่มโรค NCD โดยส่วนใหญ่เกิดจากการเสื่อมสภาพของร่างกาย อันเนื่องมาจากการบริโภคสารอาหารที่ไม่เพียงพอ หรือการบริโภคอาหารที่ได้รับสารอาหารชนิดใด ชนิดหนึ่งมากหรือน้อยจนเกินไป ดังนั้นควรศึกษาและทำความเข้าใจการรับประทานอาหาร  ด้านโภชนาการถือเป็นเรื่องสำคัญ และการใช้ชีวิตอย่างสมดุลด้วยการบริหารเวลา การทำงาน การออกกำลังกายและการผักผ่อนให้เพียงพอ ลดละเลิกพฤติกรรมไม่ดี หลีกเลี่ยงความเครียดต่างๆ ด้วยการคิดบวก แค่นี้ก็ห่างไกลโรคเบาหวานได้

 บทความที่น่าสนใจ โรคเสื่อม

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *