เปราะหอม ว่านหอม ว่านเปราะหอมหรือว่านเสน่ห์จันทร์ ทำน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิริมงคล
จุดกำเนิดน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์จาก ว่าน เปราะหอม / ว่านหอมมงคล
น้ำมนต์ถือได้ว่าเป็นวัฒนธรรมประเพณี เป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งที่สืบทอดกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและในอนาคต โดยน้ำมนต์ ถูกจัดทำขึ้นตามพิธีกรรมต่างๆ อาทิเช่น
น้ำมนต์เพื่อออกรบ จากความกล้าหาญและวีรกรรมชองชาวชุมชนบ้านบางระจัน ในช่วงที่พม่ากำลังเข้าตีพระนครศรีอยุทธยา บางระจันเป็นค่ายที่มีความแข็งแกร่ง จนสามารถต่อสู้ยื้อศึกจากพม่าได้เป็นระยะเวลานาน โดยมีพระอาจารย์ธรรมโชติ ซึ่งเป็นพระเกจิในสมัยนั้น ที่อยู่ในค่าย ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ที่วัดโพธิ์เก้าต้น ต.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี และบริเวณนั้นมีสระน้ำ โดยมีตำนานเล่าขานต่อกัน จากรุ่นสู่รุ่น ว่าสระน้ำแห่งนี้ เมื่อครั้งที่มีพม่ากำลังเข้ามาตีค่าย พระอาจารย์ธรรมโชติ จึงได้ทำน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ลงในสระน้ำ เพราะครั้ง “จะทำน้ำมนต์ที่ละขัน ก็คงจะไม่สามารถแจกจ่ายน้ำมนต์ให้นักรบผู้กล้าออกรบได้ทัน จึงได้ทำพิธีบวงสรวงแล้วทำน้ำมนต์ลงในสระ เพื่อให้นักรบผู้กล้าหาญ ชาวบ้านบางระจันได้อาบและดื่มกิน” เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่นักรบเหล่านั้นมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
นำมนต์สำหรับการรักษาโรคภัย ในอดีตการรักษาพยาบาลและการเข้าถึงทางการแพทย์เป็นไปได้น้อยมาก เพราะไม่มีเส้นทางคมนาคม จึงทำให้ชาวบ้านที่อยู่ตามชนบท ไม่รู้จะไปพึงพิงกับใครได้ ไม่เครื่องมือทางการแพทย์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่สามารถวิเคราะห์โรคร้ายต่างๆได้ จึงได้อาศัยการรักษาตัวโดยใช้ อาคมและน้ำมนต์ เพื่อปัดเป่าโรคภัย
น้ำมนต์ เพื่อการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ไสยศาสตร์ อาคมมนต์ดำ ภูตผีปีศาจ ในยุคอดีตมักมีโจรผู้ร้าย การจี้ปล้น การทำสงครามเพื่อแย้งชิงพื้นที่หรือการขยายอาณาจักร หรือแม้แต่การป้องกันสัตว์ป่าต่างๆที่ดุร้าย ซึ่งการไม่อุปกรณ์ป้องกันภัยต่างๆเช่น ปืน และเสื้อเกาะป้องกันภัย สิ่งที่ทำได้คือการหาที่พึงทางใจ เช่น การแขวนพระ การทำน้ำมนต์ปัดเป่าสิ่งร้าย อันได้แก่ คุณไสย มนต์ดำ เสน่ห์ยาแฝด ยาสั่ง การสะเดาะเคราะห์ เป็นต้น
น้ำมนต์ สำหรับพิธีมงคลต่าง น้ำมนต์เป็นน้ำ เพิ่มความสิริมงคลอย่างหนึ่ง ซึ่งจะทำขึ้นในงานมงคลดีๆ เช่น มงคลสมรส งานทำบุญไหวพระ ขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น
การทำน้ำมนต์นั้น จะมีเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับทำน้ำมนต์อันได้แก่ ขันมนต์ น้ำ ว่านหรือน้ำหอม น้ำตาเทียน การทำน้ำมนต์มักจะทำให้มีความหอม เพราะเชื่อว่าสิ่งชั่วร้ายไม่ชอบกลิ่นหอม และหากปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายได้ต้องทำให้ร่างกายมีความหอมสดชื่นด้วย ซึ่งในอดีตไม่มีความสะดวกสบายเหมือนในปัจจุบัน คนโบราณจึงได้เสาะหาว่านชนิดหนึ่ง ซึ่งมีความหอมและเหมาะสำหรับทำน้ำมนต์ นั้นคือ ว่านเสน่ห์จันทร์ ว่านเปาะหอมหรือว่านหอม
การทำน้ำมนต์ด้วย เปราะหอม ว่านหอม จะใช้ส่วนที่เป็นหัวซึ่งอยู่ในดิน เริ่มจากเตรียมขันน้ำมนต์ แล้วทำการขุดหัวของว่านหอมขึ้นมา เอาเฉพาะส่วนหัวไปล้างน้ำให้สะอาดหลังจากนั้น ทำการซอยหัวของว่านหอมเป็นแผ่นบางๆ ใส่ลงในขันน้ำมนต์ ความหอมของว่านจะค่อยๆแทรกตัวไปกับน้ำ หลังจากนั้นจึงน้ำมนต์ไปให้พระเกจิ ทำการลงมนต์คาถา เสร็จแล้วให้พระท่านสะบัดน้ำมนต์ใส่ตัว พร้อมกับการอธิฐานสิ่งที่เป็นสิริมงคลต่างๆ ให้แก่ตนเองและคนอันเป็นที่รัก…หลังจากนั้นก็นำน้ำมนต์ดังกล่าวไปอาบหรือดื่มกิน
เราโดยทั่วไปก็สามารถทำน้ำมนต์จากว่านเปราะหอม ได้ด้วยตนเอง หลังจากเตรียมขันน้ำมนต์ใส่น้ำใส่ว่านหอมแล้ว ก็สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย ท่องนะโม 3 จบ ท่องคาถาต่างๆเช่น อิ ติ ปิ โส หรือ คาถาชินบัญชร ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ท่องคาถาเสร็จก็อธิฐานสิ่งที่เราต้องการระลึกถึงเช่น สิ่งชั่วร้ายอย่าได้เข้ามาย่ำกลาย ต่อไปจากนี้จงมีแต่สิ่งดีๆ มีโชคลาภและมีความเป็นสิริมงคลเข้ามาในชีวิต……. หลังจากนั้นก็เอาน้ำมนต์ไปอาบหรือดื่มกิน
ว่านเปราะหอม จึงถือได้ว่าเป็น ว่านมงคล ซึ่งว่านเปราะหอมมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามท้องถิ่นหรือภาคต่าง ๆ เช่น ภาคกลางเรียกว่าเปราะหอมขาว, เปราะหอมแดง หรือเรียกสั้นๆว่าหอมเปราะ ภาคเหนือเรียกว่า ว่านหอม ว่านแผ่นดินเย็น ว่านตีน ส่วนภาคใต้เรียกว่า เปราะ ว่านเปราะหอมมีสองชนิดคือ เปราะหอมขาวและเปราะหอมแดง
นอกจากความเป็นมงคลแล้ว ว่านเปราะหอมยังเป็นสมุนไพร มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีสรรพคุณ สามารถนำมาทำเป็นยาบำรุงสมอง บำรุงประสาทได้ นำรากเหง้าไปตากแห้งทำเป็นผงแล้วนำไปชงกับน้ำร้อนใช้ดื่มเป็นชาแก้คลายเครียดได้ ช่วยในการขับลม สามารถแก้ท้องอืด เป็นยาบำรุงระบบลำไส้และกระเพาะ สามารถนำไปทำน้ำมันหอมระเหย อโรม่า Aromatherapy เพื่อคลายความเครียดได้
เปราะหอมมีประโยชน์มาก เช่น สามารถนำส่วนหัวและใบมาทำเป็นส่วนประกอบ ในการปรุงอาหารได้เช่น คนภาคใต้จะใส่เปราะหอมในน้ำพริก ง่ายๆเลยคือสามารถปลูกเป็นไม้ประดับเพราะนอกจากสีของใบจะเขียวดูเย็นตาแล้วสีของดอกว่านหอมเปราะยังดูสดใส มีสีสันสวยสะดุดตาด้วยสีขาวปนม่วงอ่อน ความหอมของเปราะหอมยังสามารถนำไปทำเป็นลูกประคบนวดตัวทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ความหอมของเปาะหอม สามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ที่กำลังเจริญเติบโตในยุคปัจจุบัน แถมยังเป็นสารที่สกัดได้จากธรรมชาติ มีความปลอดภัยมากว่าและกำลังได้รับความสนใจมากกว่า สารสกัดจากสารเคมีสังเคราะห์ เช่น แป้ง น้ำหอม สบู่ เป็นต้น
ว่านหอม / เปราะหอม เป็นพืชที่มีหัวสลัดใบปีละครั้ง โดยจะแตกใบอ่อนในช่วงต้นฤดูฝนและใบจะแห้งสลัดใบในปลายฤดูหนาว ชอบที่ร่ม ไม่ชอบความชื้นมาก เจริญเติบโตได้ดีในดินที่ร่วนซุย
รากและลำต้นของว่านหอม / เปราะหอม ซึ่งมีรากเหง้าหรือหัว แล้วยังมีรากฝอยเล็กๆ ความยาวของรากขึ้นอยู่กับความร่วนซุยของดิน รากยาวสูงสุด 18-20 cm.ประมาณ ปลายของยอดอ่อนจะแทงทะลุผิวดิน แต่ส่วนของลำต้นนั้นสั้นๆและฝังอยู่ใต้ผิวดินโดยส่วนใหญ่ หัวของเปราะหอมจะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
ใบของ ว่านหอม / เปราะหอม เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว หนึ่งต้นมีประมาณ 5-6 ใบ ลักษณะใบจะกลมรีเรียว ความกว้างของใบสูงสุด 8-10 เซนติเมตร ยาว 8-16 เซนติเมตร โดยประมาณ เส้นใบจะยาว ไม่มีก้านใบ ใบอ่อนจะมีสีเขียวอ่อน ส่วนใบแก่เป็นมีสีเขียวมรกตเข้ม เมื่อขยี้ใบจะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
ดอกของว่านหอม / เปราะหอม ต้นว่านเมื่อเจริญเติบโตสมบูรณ์ดี จะมีดอกในช่วงเดือน กรกฎาคม โดยส่วนปลายดอกมีสีขาวและที่ฐานของดอกจะมีสีม่วง ก้านดอกจะยาวและจะชูช่อดอกเฉพาะตอนเช้า ตอนเย็นช่อดอกจะตก ดอกของเปราะหอมจะมีอายุช่วงสั้นๆ 2 สัปดาห์โดยประมาณ
ว่านหอม ว่านเปราะหอมหรือว่านเสน่ห์จันทร์ ทำน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ สร้างความเป็นสิริมงคล