แมวมงคล ลักษณะแมวไทยในตำรา ให้โชคหนุนนำอำนาจวาสนาสร้างบุญบารมี
ตามหลักฐานทางความเชื่อได้แสดงไว้บนสมุดข่อยโบราณว่าการเลี้ยง แมวมงคล จะนำพามาซึ่งสิ่งดีๆและการเกื้อกูลให้กับคนที่เลี้ยงมัน ช่วยเสริมโชคลาภและอำนาจวาสนา มีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตมากยิ่งขึ้น ทั้งทางด้านการค้าขายหรือแม้แต่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงานต่างๆ นอกจากนี้แล้วการเลี้ยงแมวมงคลยังมีประโยชน์อีกหลายประการ ซึ่งจะได้กล่าวไว้ในลำดับถัดไป
แมวมงคลนั้นถือได้ว่าเป็นสัตว์เลี้ยง ที่ได้รับความนิยมและคู่กับคนไทยมาเนิ่นนาน นับได้ว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมตั้งแต่พระราชวงศ์ไทย ลงมาถึงสามัญชนคนทั่วไป ซึ่งปรากฎหลักฐานยืนยันเด่นชัดได้จาก ภาพพระบรมฉายาลักษณ์กับแมวทรงเลี้ยง
คนไทยในอดีตมักนิยมเลี้ยงแมวมงคลไว้เกือบทุกๆบ้าน เพราะเชื่อว่าการมีแมวมงคลไว้ในบ้าน นอกจากด้านความเชื่อเสริมดวง เสริมอำนาจวาสนา โชคลาภ ช่วยหนุนนำการสร้างสมบุญบารมีและการสร้างเกียรติยศชื่อเสียงให้ขจรขจายแล้ว การเลี้ยงแมวมงคลจึงถือได้ว่า เป็นกลอุบายในการสะสมพลังบวกได้ดีอีกวิธีหนึ่ง เพราะความเชื่อต่างๆที่เป็นคำพูดดีๆจะถูกสะสมไว้ในจิตใต้สำนึก เพื่อใช้กลับมาเป็นแรงกระตุ้นตนเอง ในการประกอบอาชีพการงานให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งจะนำพาความสุขมาสู่ตนเองและครอบครัวได้
ปัจจุบันคนไทยก็ยังคงนิยมเลี้ยงแมว เพราะแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่เชื่องและไม่หนีไปไหน สามารถปล่อยไว้ในบ้านเรือนได้โดยไม่จำเป็นต้องกักขัง เหตุผลนอกเหนือจากนี้แล้วการเลี้ยงแมว การเล่นกับแมวยังสามารถใช้ในการรักษาโรค เพื่อให้เป็นเพื่อนคลายเหงาได้ ซึ่งผลงานวิจัยจากต่างประเทศพบว่า การให้ผู้สูงอายุหรือคนวัยชราได้เล่นกับแมว สามารถช่วยบำบัดโรคซึมเศร้าได้
การเลี้ยงแมวเพื่อการค้าเชิงธุรกิจ การเลี้ยงแมวยังสามารถยึดอาชีพสร้างรายได้ เช่น เลี้ยงเพื่อการแข่งขัน เลี้ยงแมวเพื่อโชว์หรือแสดงความสามารถ โดยสามารถแบ่งประเภทของการประกวดแข่งขันด้านต่างๆ เช่น ประเภทแมวสวยงามหรือประเภทลักษณะแมวที่สอดคล้องกับลักษณะความเป็นมงคล ทำให้แมวมงคลที่ใช้ในงานประกวดบางตัว มีราคาสูงเป็นหลักหลายแสนบาทเลยที่เดียว
ยังมีเหตุผลของคนรักแมวอีกมากมายเช่น เลี้ยงไว้ไล่สัตว์อื่นๆ จำพวก ไล่หนู ไล่หมา ส่วนเหตุผลง่ายๆคือการเลี้ยงไว้ดูเล่นและสำหรับคนชอบแมว แมวคือสัตว์เลี้ยงที่มีคุณคุณค่าทางใจ ช่วยทำให้คนเลี้ยงเป็นสุขได้
ประโยชน์ที่ได้สำหรับการเลี้ยงแมว นอกจากทำให้มนุษย์ได้แสดงออกถึงความเอื้อเฟื้อ ความรักและความเมตตาต่อสัตว์โลกด้วยกันแล้ว ยังช่วยให้เรากลายเป็นคนที่มีน้ำใจและเป็นคนใจดี สามารถเข้าใจถึงคุณค่าแห่งการแบ่งปันและการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน จึงนับได้ว่า การเลี้ยงแมวมงคลเป็นเทคนิคอย่างหนึ่ง เพื่อการพัฒนาจิตใจและการสร้างคุณงามความดีจากการเลี้ยงแมว
นอกจากนี้การเลี้ยงแมวมงคลยังเป็นเทคนิค ช่วยสร้างความสัมพันธ์กันภายในครอบครัว เพราะการช่วยกันเลี้ยงดู แมว การให้อาหาร การอาบน้ำแมว จะเป็นตัวเชื่อมโยงและการสร้างรัก ความสามัคคีและสร้างความอบอุ่นให้คนภายในครอบครัวได้
ลักษณะ แมวมงคล ที่จะได้กล่าวต่อไปมีอยู่ทั้งหมด 6 ลักษณะ คือ
แมวมงคลชนิดที่ 1. ชื่อแมว วิเชียรมาศ Wichienmaat เป็นแมวที่ได้รับการยอมรับ จากชาวต่างชาติ เป็นที่รู้จักและยังได้รับการยกย่องว่าเป็นแมวไทยชนิดแรก จึงถูกชาวต่างชาติตั้งชื่อว่า “Royal Siamese Cat” หรือ “แมวสยาม” แมววิเชียรมาศ มีลักษณะคือ ตาแมวสีฟ้า ลำตัวเป็นสีครีมหรือสีงาช้าง มีแต้มเข้มสีน้ำตาลออกดำบนลำตัว 9 จุดอันได้แก่ จุดที่ 1 หน้า จุดที่ 2 หาง จุดที่ 3-6 อยู่ที่เท้าทั้งสี่ จุดที่ 7-8 อยู่ที่หูทั้งสองข้าง และจุดที่ 9 จุดสุดท้ายอยู่ที่อวัยวะเพศ ลักษณะสีอุ้งเท้าจะเป็นสีเปลือกมังคุดสุก มีความเชื่อว่า ถ้าใครเลี้ยงแมวสยาม จะทำให้ครอบครัวมีทรัพย์สมบัติเพิ่มพูลมากขึ้น ให้โชคลาภ โรคภัยไข้เจ็บ จะไม่เกิดขึ้นกับคนในบ้าน
แมวมงคลชนิดที่ 2. ชื่อแมวโคราช Korat แมวมาเลศ แมวดอกเลาหรือ แมวสีสวาด แมวโคราชแบบดั่งเดิม จะมีสีขนลักษณะคล้ายเมฆหมอก หรือสีขนลักษณะคล้ายกับ สีของลูกสวาด ชื่อแมวโคราชนั้น ได้ขนานนามมาจากการประกวดแมว ในสมัยราชกาลที่ 5 ซึ่งพระองค์ท่านได้รับสั่ง ถามคนที่นำแมวมาประกวดว่า ที่นำแมวนี้มาจากที่ไหน คนที่นำแมวมาประกวดจึงตอบว่า แมวนี้ได้นำมาจากโคราช จึงได้ชื่อแมวโคราชตั้งแต่นั้นมา ลักษณะแมวโคราช มีนัยน์ตาสีเขียวสดใสหรือสีเหลืองอำพัน ใบหูใหญ่ ตาโต เชื่อว่าถ้าใครเลี้ยงไว้ จะนำความสุขความเจริญมาให้ จะได้พบพานแต่สิ่งที่อันเป็นมงคล
แมวมงคลชนิดที่ 3. ชื่อแมวศุภลักษณ์ Suphalak หรือแมวทองแดง ชื่อของแมวถูกเรียกตามลักษณะของแมวคือ ที่มีนัยน์ตาสีเหลือง ลำตัวสีซ็อตโกแลต หรือสีน้ำตาลเข้มเหมือนกับสีทองแดงทั้งตัว ไม่มีแต้มสีเข้มเหมือนกับวิเชียรมาศ อุ้งเท้าสีส้มอมแดง เชื่อว่าถ้าใครเลี้ยงไว้ จะได้พบพานแต่สิ่งอันเป็นมงคล ชีวิตมีแต่ความเป็น ศุภ คือมีโชค มีชัย ชีวิตโชติช่วงชัชวาล มีความเจริญในหน้าที่การงาน
แมวมงคลชนิดที่ 4. ชื่อแมวโกญจา Konja หรือแมวดำปลอด เพราะว่าลักษณะมีสีดำทั้งตัว มีขนเรียงละเอียดมาก ลำตัวดูสง่า ตาโตสีเหลืองคล้ายตาสิงห์โต หางยาวเรียว เชื่อว่า ถ้าใครได้เลี้ยงไว้จะ เป็นผู้มีอำนาจวาสนา ประสบแต่ความสำเร็จอย่างสูง เป็นที่รักเป็นที่ชื่นชอบของเจ้านาย ได้รับการส่งเสริมให้มีความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน ได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่ที่สูงศักดิ์
แมวมงคลชนิดที่ 5. ชื่อแมวขาวมนี Khaomanee เป็นแมว ที่มีลักษณะสีขาวมนีทั้งตัว ลักษณะของนัยน์ตา จะมีอยู่ 3 แบบด้วยกันคือ ตาสองสี สีฟ้าและสีเหลืองข้าง, ตาสีฟ้าทั้งสองข้าง, ตาสีเหลืองทั้งสองข้าง มนีแปลว่าเทพเจ้า เชื่อว่าถ้าใครได้เลี้ยงไว้จะสมดังปรารถนา หวังสิ่งใดไว้ จะได้สิ่งนั้นมาดังใจต้องการ ช่วยสร้างขวัญกำลังใจ ในการเผชิญกับอุปสรรคปัญหา เพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จตามเป้าหมาย ช่วยให้การทำงานทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี แบบปลอกกล้วยเข้าปาก แต่ได้รับผลประโยชน์อย่างที่ตั้งใจเอาไว้
แมวมงคลชนิดที่ 6. ชื่อแซมเศวต เศวตแปลว่าขาว ดังนั้นการเรียกชื่อแมว จึงถูกเรียกตาม ลักษณะขนพื้นสีดำทั้งตัว แต่มีขนสีขาวขึ้นแซม มีรูปร่างเรียว เชื่อว่าถ้าใครได้เลี้ยงไว้ จะมีความอุดมสมบูรณ์ จะได้เป็นเศรษฐี มีทรัพย์สมบัติมากมายเหลือกินเหลือใช้ ไม่อับจนถึงแม้ดวงชะตา จะอยู่ในช่วงตกต่ำก็ตาม ยังมีผู้คนคอยเกื้อหนุน ค้ำชู
นอกจาก แมวมงคล 6 ชนิดแล้ว ยังมีแมวมงคล ที่สูญพันธุ์ไปแล้วดังนี้
ข้อมูลจากสมุดข่อยโบราณพบว่า แมวมงคล ไทยได้สูญพันธุ์ไปแล้ว 12 ชนิด อันได้แก่ 1. แมวนิลรัตน์ 2. แมววิลาศ 3. แมวเก้าแต้ม 4. แมวรัตนกำพล 5. แมวนิลจักร 6. แมวมุลิลา 7. แมวกรอบแว่น 8. แมวปัดเสวตร 9. แมวกระจอก 10. แมวสิงหเสพย์ 11. แมวการเวก 12. แมวจตุบท ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย หากมิเช่นนั้นแล้ว คนไทยคงมีแมวมงคลไว้เลี้ยงอีกหลายลักษณะ ซึ่งสามารถสร้างสีสันให้กับคนรักแมวได้มากกว่านี้
เก็บมาฝาก (ความเชื่อและการบูชา รกแมว)
นอกจากตัวแมวที่เป็นมงคลแล้ว ยังมีความเชื่อด้านไสยเวชศึกษาเกี่ยวกับ รกของแมว ซึ่งสามารถหาได้จาก หลังการออกลูกของแมว รกแมวถือได้ว่า เป็นวัตถุมงคลอีกอย่างหนึ่ง ที่เชื่อว่าเป็นของวิเศษที่หาได้ยาก เพราะถ้าใครมีไว้ครอบครองและบูชา จะทำให้มีโชคลาภ ค้าขายร่ำรวย มีอำนาจวาสนาและมีความเจริญในหน้าที่การงาน เป็นที่รักใคร่ของผู้บังคับบัญชา
บทสรุปส่งท้าย
ทั้งนี้การมีวัตถุมงคลหรือการมีสัตว์เลี้ยงอันเป็นมงคลนานๆชนิดไว้ในบ้าน ก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิตกันทั้งหมดทุกคน เช่นเดียวกับการได้ครอบครอง แมวมงคล 6 ชนิด นั้นก็ถือถือว่าได้ เป็นบุญและมีวาสนา ช่วยเสริมดวงแห่งโชคแล้ว แต่ถ้าคนเลี้ยงขาดเป้าหมายในการดำเนินชีวิต ไม่ขยันและไม่พากเพียร ชอบคิดแง่ลบ โดยไม่สามารถคิดเชิงบวกและไม่มีเชื่อมั่นในศักยภาพของตน การประกอบอาชีพการงานให้ประสบความสำเร็จนั้น ก็เป็นไปได้ยากเช่นกัน
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีชีวิตอายุสั้น ซึ่งมันมีอายุอยู่ได้เพียง 15 ปีโดยประมาณเท่านันเอง ดังนั้นคนที่เลี้ยง แมวมงคล จะต้องใส่ใจดูแลเขาให้ดี ให้อาหารอย่างที่เขาต้องการ อย่างถูกต้องเหมาะสม ใส่ใจฝึกเขาให้ทำในสิ่งที่ถูก จะทำให้พวกเขามีสุขภาพแข็งแรง แมวมีสุขภาพดี คนเลี้ยงก็จะได้บุญ สร้างสมบารมีและเสริมความเป็นมงคลแก่ชีวิต
ขอขอบคุณภาพจาก Facebook เพจ Thaicat คนรักแมวไทย
ขอขอบคุณภาพจาก Facebook เพจ แมวไทย.com
บทความน่าสนใจ ไม้มงคล ว่านมงคล