กฎแห่งแรงดึงดูด ไขความลับ The secret เพื่อดึงพลังความเชื่อศรัทธามาใช้งาน

 

         The Secret ไขความลับ กฎแห่งแรงดึงดูด เป็นเทคนิคกำลังเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการความสำเร็จในหลากหลายอาชีพที่นำมาปรับใช้กับการพัฒนาตนเอง เป็นการดึงพลังอำนาจพลังแห่งความเชื่อมั่นและพลังแห่งความทรัทธาในศักยภาพ ทักษะ ความสามารถที่ฝังอยู่ในตัวตนของเราเอง เพื่อเอาออกมาใช้งาน เป็นวิธีรังสรรค์กฎแห่งการป้อนพลังทางความคิด ทัศนคติและความเชื่อที่เป็นพลังอำนาจเชิ่งบวกให้กับจิตใต้สำนึก โดยที่จิตใตสำนึกคือศูนย์กลางอำนาจแห่งจักวาล หลังจากนั้นจะเกิดการปลดปล่อยพลังเหล่านั้นออกไป เพื่อดึงดูดโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ  เพราะตัวเราจะมีการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาตัวเองจากการสร้างแรงบันดาลใจจนสามารถกระตุ้นตนเอง ให้เป็นคนที่รู้คุณค่าของตนเอง สามารถฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคต่างๆ  แล้วก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายของชีวิต

กฎแห่งแรงดึงดูด

กฎแห่งแรงดึงดูด

กฎแห่งแรงดึงดูด คือ อะไร?

           จากหนังสือกฎแห่งแรงดึงดูด “The secret” เราสามารถสรุปกลวิธี เพื่อใช้กฏแห่งแรงดึงดูดให้ง่ายขึ้น ด้วยการคิดเชิงระบบหรือเป็นวัฏจักร ซึ่งข้อสำคัญของกฏแห่งแรงดึงดูด อย่างหนึ่งคือ ความต่อเนื่องในการนำกฎไปใช้ ด้วยปฏิบัติตามกฎแห่งแรงดึงดูดแบบซ้ำๆ จนถึงขั้นประสบความสำเร็จ เพราะสภาวะทางความคิดและอารมณ์ของคนเรานั้น มักจะไม่หยุดนิ่งและสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งเร้าที่เข้ามากระทบ

          กฎแห่งแรงดึงดูด คือ เทคนิควิธีเพื่อสะสมพลังให้จิตใต้สำนึก ด้วยการป้อนสิ่งที่ดีๆ อันได้แก่ ความเชื่อ ทรรศนคติ การคิดบวก เชิงสร้างสรรค์ การมองโลกในแง่บวก ให้มากพอที่จะเอาชนะความคิดอันชั่วร้ายที่ทำให้เรากลายเป็นคนล้มเหลว นั้นคือ การคิดลบ

ประโยชน์กฎแห่งแรงดึงดูด

กฎแห่งแรงดึงดูด มีประโยชน์อย่างไร?

       เมื่อพลังจิตจักวาลหรือจิตใต้สำนึกซึ่งสะสมพลังบวกมากๆ พลังเหล่านั้นก็จะถูกปลดปล่อยเป็นคลื่นพลังงาน  ออกไปจับคู่กับสิ่งที่มีลักษณะเหมือนๆกัน ตาม กฎแห่งแรงดึงดูด เชื่อว่า สิ่งที่มีลักษณะเหมือนกันจะดึงดูดเข้าหากัน สิ่งที่ควรคู่กันย่อมได้พบเจอกัน คนดีย่อมดึงดูดสิ่งดีๆ คนคิดบวกก็ย่อมประสบความสำเร็จและได้รับสิ่งดีๆเป็นรางวัล

      ความเพียร ความพยายาม ความเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง ก็เช่นเดียวกัน เมื่อสะสมมากขึ้นๆ คนๆ นั้น ก็จะกลายเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเองมากยิ่งขึ้น กล้าพูด กล้าทำ กล้าแสดงออก มีพลัง สามารถต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคปัญหา ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้นและมีความสุขในชีวิต

วงจรกฎแห่งแรงดึงดูด

ขั้นตอนการสร้างพลังจากกฎแห่งแรงดึงดูด 

กฎแรงดึงดูดมีขั้นตอนง่ายๆ เพียงแค่ 3 ขั้นตอน

กฎแห่งแรงดึงดูด1.ขั้นตอนการร้องขอ (Ask) : เป็นวิธีการสื่อสารกับจิตใต้สำนึก ให้รู้จักกับพลังแห่งจักรวาล จิตใต้สำนึกสามารถรับรู้ได้แม้กระทั้งพลังอันเกิดขึ้นจากความคิด ความเชื่อ ทรรศนคติ  พลังจากจินตนาการต่างๆ หรือแม้แต่ความฝัน  ซึ่งแม้ว่าสิ่งเหล่านั้นยังไม่เป็นจริง สิ่งเหล่านี้ก็สามารถป้อนให้จิตใต้สำนึกได้ เป็นการสร้างความคิดดีให้สถิตอยู่ที่ใจ  ” เป็นการสต็อกความคิดดีๆ หรือสร้างธนาคารแห่งความคิดดี เพื่อเอาชนะสิ่งไม่ดี “  เทคนิคสำหรับขั้นตอนนี้คือ ในทุกๆ วัน ควรทำการจดบันทึกความคิดดี ความคิดบวก  คำคมดีๆ เช่น เราเป็นคนเก่ง เราทำได้ เราสวย-หล่อ มีความมั่นใจ ทำงานสำเร็จได้ ฯลฯ และต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง จงเขียนมันทุกวัน ตั้งเป้าหมายอย่างน้อยสักวันละ 5 ความคิดดี หรือเรียกขั้นตอนนี้ว่า ลับสมองให้รับรู้ในสิ่งที่ต้องการ

2. ขั้นตอนสร้างความเชื่อ(Believe) : หลังจากมีธนคารแห่งความคิดดีๆ แล้วจะทำอย่างไร  ให้เกิดความเชื่อมั่นและศรัทธาได้ว่า สิ่งดีๆความคิดดีๆที่อยู่ในสต๊อคนั้น  มันเกิดขึ้นและมีอยู่จริงในตัวเราแล้ว เทคนิคคือ ให้เชื่อจากข้างในจิตใจและจงหยุดความลังเลสงสัยใดๆในตัวเอง ใช้จินตนาการเพื่อสร้างความเชื่อ  ต่อให้มีอุปสรรคหรือมีเหตุการณ์ที่ลดความเชื่อมั่นก็จงอย่าหยุดที่จะเชื่อ  เชื่อมั่นว่า เราทำได้ เราจะประสบความสำเร็จได้ เพราะจิตใต้สำนึกไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนคือเรื่องจริง  และสิ่งใดเป็นเรื่องที่สร้างขึ้น  เพียงแค่ความคิดและเชื่อจิตใต้สำนึกมันจะรับรู้ได้ว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ถึงแม้ว่ามันจะถูกหลอกก็ตาม และที่สำคัญความเชื่อเหล่านั้นต้องเป็นเรื่องจริง ที่มีความเป็นไปได้เช่น ขอให้ถูกหวยๆ จิตใต้สำนึกเอง ก็ไม่สามารถตอบรับได้

3. ขั้นตอนแห่งการรับ(Receive): รู้จักการชื่นชมตัวเองและน้อมรับด้วยใจ แล้วยินดีกับความสำเร็จทุกๆ เรื่อง ที่เราทำแล้วมันสำเร็จ  ถึงแม้จะเป็นเรื่องใหญ่หรือสิ่งเล็กเล็กก็ตาม เช่นตื่นนอนตามเวลาที่กำหนด ต้องทำการขอบคุณตัวเอง เป็นการทำตามกฎการร้องขอ เพราะได้ปฏิบัติตามกฎสะสมความคิดดีๆ เพื่อให้เราได้บันทึกเอาไว้ในธนาคารแห่งความคิด หรือหากมีคนชื่นชมก็ให้น้อมรับด้วยความยินดี และกล่าวคำว่าขอบคุณเช่น มีคนบอกว่า วันนี้เราแต่งตัวดูเท่ห์มากเลย  น้อมรับและให้กล่าวว่า “ขอบคุณ” เพื่อเป็นการส่งผ่านพลังไปให้จิตใต้สำนึก  หากบางครั้งเราไม่สามารถปฏิบัติได้ตามกฎร้องขอ  ต้องมีการทบทวนถึงสาเหตุว่า ทำไมถึงทำตามกฎไม่ได้แล้วต้องทำการปรับปรุง

          กฎแห่งการดึงดูด ที่ได้รับการฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ พลังแห่งอำนาจแห่งความคิดดีและความเชื่อมั่น ในจิตใต้สำนึกเองก็จะมีปริมาณมากขึ้นๆ

วิธีป้อนพลังเข้าสู้จิตใต้สำนึกตาม กฎแห่งแรงดึงดูดทำอย่างไร

กฎแห่งแรงดึงดูด

1. การคิดเชิงบวก: คิดบวกชีวิตก็เป็นบวก ฝึกคิดบวกทุกๆวัน ไม่ว่าก่อนนอน ตื่นนอนตอนเช้า ใช้บันทึกธนาคารแห่งความคิดดีบอกกับตัวเองสม่ำเสมอว่า เราเก่ง เราทำได้ มีพรสวรรค์ ทำงานได้ดีเยี่ยม ฯลฯ ทุกๆวัน แล้วเชื่ออย่างนั้นจริงๆ

2. รู้เท่าทันความคิดของตัวเอง: ให้พิจารณาความคิดของตนเองที่เกิดขึ้น ณ.ขณะปัจจุบันอย่างมีสติ ว่าขณะนั้นในความคิดเราเป็นเช่นไร เพราะในช่วงเวลาหนึ่งความคิดของเราจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามสถานการณ์ที่สิ่งเร้าที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกัน แต่คนทุกคนมีความสามารถในการรับมือที่แตกต่างกันออกไป  ดังนั้น เราต้องมีคลังอาวุธทางปัญญา สามอย่างด้วยกันคือ

      2.1. สะสมความคิดดี ความสร้างสรรค์ตามกระบวนที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น

      2.2.ใช้หรือสร้างความคิดดี ความคิดสร้างสรรค์ สร้างอารมณ์ดี โดย รู้จักมีความพึงพอใจ รู้จักชื่นชมผู้อื่น หวังดีกับผู้อื่น มีความหวังตามความฝัน มีความสุขสนุกสนานร่าเริง รู้จักวิธีขอบคุณตัวเองและคนอื่น รู้จักรักตัวเองและรักผู้อื่น และรักสิ่งอื่นๆ ที่อยู่รอบตัวเรา

      2.3. ละทิ้งความคิดและอารมณ์เลวๆ โดยตัดความหวาดกลัวแล้วเผชิญหน้ากับปัญหา ลดละขจัดแรงกดดันและความเครียดจากความผิดหวังและความผิดพลาดของชีวิต  เปลี่ยนแนวคิดให้ได้ว่าทุกๆ ปัญหามันจะผ่านพ้นไป ขจัดความไม่พอใจความขุ่นเคืองและความเกลียดด้วยการให้อภัย ขจัดความโกรธด้วยการไม่โกรธ ใช้วิธีวางเฉยแล้วตรึกตรองต่อการตำหนิติเตียนว่ากล่าว ในสังคมจะมีทั้งคนที่ชื่นชมและไม่ชอบในตัวเรา การกล่าวโทษนินทา ให้ถือว่าเป็นธรรมดา หาข้อมูลเท็จจริงเป็นอย่างไร

3. เริ่มต้นวันใหม่ด้วยสิ่งดีดี: ในการดำเนินชีวิตของเราในหนึ่งวันจะพบปัญหามากมาย ตั้งแต่ตื่นนอนแล้วไม่อยากไปทำงานในเช้าวันจันทร์ น้ำไม่ไหล รถติด ไปทำงานสายเจ้านายบ่น เพื่อนร่วมงานไม่ได้ดังใจ ลูกน้องทำงานให้ได้ไม่ดี ทุกๆวันเราก็มักจะพบปัญหา ถ้าเราเอาตัวเองไปจมอยู่กับปัญหา วันทั้งวันเราก็จะรู้สึกแย่ ดังนั้น ต้องวางแผนเติมพลังความคิดดีๆเข้าไปทุกๆวัน ตามขั้นตอนการสร้างพลังจาก กฎแห่งแรงดึงดูด เขียน “คำพูดดี”  ที่สร้างพลังให้ตัวเองก่อนนอนทุกๆคืน หรืออาจจะเป็นตอนเช้าตรู่ ก่อนที่เราจะได้รับโทรศัพท์ในเรื่องร้ายๆ ให้คิดคำพูดที่ดีสร้างสรรค์วันละห้าคำ วันนี้อากาศดีสดใส วันนี้เป็นที่เราโชคดีทั้งวัน เราเก่ง เราฉลาด เรามีความเชื่อมั่นในตัวเอง และในตอนอาบน้ำก็ยิ้มให้ตัวเองในกระจก

4. อย่าลังเลที่จะลงมือทำ ขอให้ทำมันอย่างจริงจังแล้วจงเชื่อมั่น อย่าแปรปรวนเมื่อมีสิ่งอื่นๆ เข้ามาทำให้ความมุ่งมั่นเราลดลงแม้แต่น้อย ให้ยืนหยัดแล้วเชื่อจริงๆว่า เราเป็นคนทำได้ดีอย่างนั้น เราทำได้และทำตามแผนที่เราเขียนเอาไว้ ใช้ความฝันเป็นเป้าหมาย แต่ถึงแม้ว่าฝันจะใหญ่โตสักเพียงไหน จะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าไม่ลงมือทำ

5. รู้จักความพอเพียง ความพอดีจะเป็นแรงดึงดูดความสมดุลได้มากกว่า อย่าพยายามเค้นหาความอยากเกินความพอดี จงพอใจในสิ่งที่ตนมี ไม่ใช่มองหาว่าตนเองทำไมไม่มีเหมือนคนอื่นเขา อย่าคิดว่ามีอย่างเขาแล้วจะประสบความสำเร็จได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์บางอย่าง ระหว่างที่เรากำลังเดินไปสู่จุดมุ่งหมาย แต่มีอุปสรรคเกิดขึ้น อย่าเอาปัญหามาใส่ในความคิด ถ้าไม่พยายาม มัวแต่นั่งท้อแท้สิ้นหวัง มัวแต่คิดมากแทนที่จะแก้ปัญหา เราจะกลายเป็นโรคทางประสาท การคิดด้านลบจะกลายเป็นแรงพลักตนเองออกนอกเส้นทางที่จะก้าวไปให้ถึงเป้าหมาย ถึงแม้บางครั้งการลงมือทำ อาจจะมีแรงต้านจากสิ่งเร้าภายนอกบ้าง ก็จงพยายามเปลี่ยนแนวคิดของตัวเองให้อยู่ภายใต้ กฏแห่งการดึงดูด เพราะกฏแรงดึงดูดไม่ให้เราใช้คำพูดเชิงลบ เช่นคำว่า “ต่อต้าน” หากพูดเชิงบวก จะใช้คำว่า “ส่งเสริม” หรือแทนที่จะใช้คำว่าต้อต้านการโกง ให้ใช้คำว่า ส่งเสริมให้ผู้คนสุจริต

สรุปสิ่งที่ได้รับและทำตามกฎ วัฏจักร The Secret กฎแห่งแรงดึงดูด มีดังนี้

  1. ประสบความสำเร็จทั้งทางด้านการเงินความร่ำรวย สุขภาพ ความสัมพันธ์ ความรัก ครอบครัว เพื่อน ชีวิตที่มีความสุขสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ทุกรูปแบบได้กับทุกคนในโลกนี้ เพราะเข้าใจสามารถใช้พลังอำนาจที่เกิดขึ้นจากตัวเอง

  2. กฎแห่งแรงดึงดูด เป็นการทำซ้ำและเป็นวัฏจักรต้องทำอย่างต่อเนื่อง ในแต่ละวัน ส่งความคิดดีให้จิตใต้สำนึกเมื่อจิตใต้สำนึกได้รับพลังแต่สิ่งดีๆ ก็จะส่งคลื่นความถี่ออกไปหาสิ่งดีเหล่านั้นกลับมาที่ตัวเรา ได้พบเจอแต่สิ่งดีๆ ได้รู้จักเพื่อนที่ดี โอกาสที่ดี ผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลือ เมื่อเจออุปสรรคก็มองเห็นทางออก เพียงแค่สร้างแรงดึงดูด

  3. รู้จักขอบคุณและชื่นชม ให้เราขอบคุณสิ่งที่เรามี และสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต ไม่มีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของเล็กน้อย ให้ขอบคุณด้วยใจที่ชื่นชมจริงๆเช่น ขอบคุณปากกาด้ามนี้ ที่ฉันภูมิใจมากจากรางวัลที่สอบได้ที่ 1 ขอบคุณสมุดบันทึกไดอารี่เล่มนี้ ที่ทำให้ฉันได้จดจำเหตุการณ์ดีๆที่เกิดขึ้นในอดีต ขอบคุณรถยนต์คันแรกซึ่งเป็นเงินที่ฉันซื้อมัน ขอบคุณโรงเรียนมัธยมที่ทำให้ฉันเจอเพื่อน ที่จริงใจและแสนดี  ให้ขอบคุณทุกวันเพราะคำขอบคุณเหล่านี้ จะทำให้เราสามารถมองหาสิ่งรอบตัวในมุมที่ดีดีได้ สามารถคิดเชิงบวกกับสิ่งเหล่านั้นได้ เราก็จะสามารถสร้างแรงดึงดูดดีดี ให้กับชีวิตได้อย่างง่ายดาย

  4. รู้จักจินตนาการ หรือการมโนภาพให้เห็นภาพแห่งผลลัพธ์ ที่บรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ ถ้าจะให้ดีให้เขียนความฝันออกมาเป็นตัวหนังสือหรือวาดภาพนั้นออกมา แล้วให้เอาตนเองเข้าไปสู่ภาพแห่งความฝันนั้น สมมุติฝันว่าตัวเองอยากมีบ้านสวย ก็ค้นหาภาพบ้านสวยๆไปติดไว้ที่ผนังบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องน้ำ และเป็นไปได้ลองเอาตัวเองไปสัมผัสกับบ้านตัวอย่าง  ไม่ว่าจะไปเยี่ยมโครงการ นิทรรศการ บู๊ทต่างๆ เพื่อใช้กฎแรงดึงดูด อยากได้สิ่งที่ต้องเป็นวิธีสร้างแรงบันดาลใจ

        สรุป  กฎแห่งแรงดึงดูดเป็นกระบวนการรวบรวม พลังแห่งจักรวาลให้เข้ามาสถิตที่ใจ เป็นการป้อนพลังงานที่มีพลานุภาพดี ด้วยการร้องขอจากความคิด ความเชื่อ ทรรศคติและสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เป็นการสะสมประสบการณ์ตั้งแต่อตีดจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้จิตใตสำนึกสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการสร้างเชื่อมั่นความศรัทธาในศักภาพที่ตนเองมี พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือพลังที่เกิดขึ้นจากตัวเราสร้าง…ชีวิตสร้างได้

บทความแนะนำ: กล้าคิดใหญ่ 

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *