กล้วย สารพัดประโยชน์ มีคุณค่าสารอาหาร บำรุงสุขภาพ บำรุงร่างกาย
กล้วยนับได้ว่าเป็นพืชที่มีความสำคัญ ต่อวิถีการดำรงชีวิตของมนุษย์ โดยเฉพาะสังคมของคนไทยที่ใช้คุณค่าของกล้วยมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน จึงนิยมปลูกกัน โดยสามารถพบกล้วยชนิดต่างๆตามพื้นที่ทั่วไป ในระดับทุกๆหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ เพราะว่า กล้วย สารพัดประโยชน์ โดยทุกๆส่วนของกล้วย ตั้งแต่รากจนถึงปลายยอดของต้นกล้วย สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกชิ้นส่วน คุณค่าของกล้วยสามารถมาใช้เป็นยาสมุนไพรเพื่อการบำรุงสุขภาพหรือเพื่อเป็นสารอาหารบำรุงร่างกาย บำรุงสมอง สามารถใช้ในการประกอบอาหาร ทำขนมหวาน ทำของเล่น จนถึงนำไปใช้เป็นองค์ประกอบในพิธีกรรมทางหลักศาสนา จนกลายเป็นวัฒนธรรมทางความคิด ความเชื่อ หรือแม้แต่การเล่นนิทาน นวนิยายหรือละครพื้นบ้านแบบไทยๆ ก็ยังมีการเชื่อมโยงกับ กล้วย เช่นนางตานีเป็นต้น

กล้วย สารพัดประโยชน์
กล้วย เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ทุกพื้นที่ เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ลำต้นสูง 2-5 เมตร ซึ่งมีก้านใบยาว ใบแตกขึ้นตามข้างลำต้นและซ้อนทับกัน โดยลำต้นของกล้วยจะตรง เมื่อเติบโตขึ้นจะแตกหน่อ ออกลูก ด้วยคุณสมบัติพิเศษกล้วยจะอมน้ำไว้ตามส่วนต่างๆ กล้วยจึงทนแล้งทนฝนได้ดี จึงไม่ชอบน้ำขังจนเกินไป
การขยายพันธุ์ กล้วยสามารถขยายพันธุ์ ด้วยการแบ่งหน่อที่เกิดขึ้นใหม่ไปปลูก การเตรียมต้นกล้าให้ใช้หน่อที่ไม่สูงมาก ควรเลือกหน่อที่มีความสูง 1-1.5 เมตรโดยประมาณ แล้วตัดปลายทิ้งให้เหลือลำต้นและรากไว้ 70-90 เซ็นติเมตรโดยประมาณ แต่ในปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เราสามารถเพาะพันธุ์กล้วยด้วยการเลี้ยงเนื้อเยื่อ ซึ่งช่วยทำให้ได้หน่อกล้วยที่แข็งแรงสมบูรณ์และไม่เป็นโรค
การเตรียมหลุมเพาะปลูก โดยให้ระยะห่างของหลุม 4-5 เมตรโดยประมาณ ขุดหลุมให้มีความกว้าง 4 เท่าของขนาดต้นโดยประมาณ โดยความลึกของหลุมหนึ่งศอก ∼ 50 เซนติเมตร ถึงแม้ว่ากล้วยจะเกิดง่าย แต่ถ้าเราใช้ปุ๋ยรองก้นหลุมได้ยิ่งดี ซึ่งสามารถใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยเคมีก็ได้
วิธีปลูกกล้วยน้ำว้าและกล้วยทุกๆชนิด ให้วางโคนต้นลงก้นหลุม ตั้งลำต้นให้ตรง นำดินกลบลงครึ่งหนึ่งก่อน แล้วใช้เท้าเหยียบข้างๆจนแน่น แล้วนำดินที่เหลือใส่ให้หมด แล้วใช้เท้าเหยียบซ้ำเข้าไปอีก เพื่อให้ดินแน่นลำต้นจะไม่โค่น และไม่เกิดโพรงอากาศ เพราะหากมีโพรงอากาศ จะทำให้เชื้อแบคทีเรียจะเจริญได้ดี ซึ่งกลายเป็นต้นเหตุของโรครากเน่า
วิธีการดูแล ถึงแม้ว่าการปลูกกล้วยจะดูแลรักษาง่าย แต่เพื่อให้ได้ผลผลิตออกมาดี ควรใส่ปุ๋ยเดือนละครั้งจนกระทั่งออกลูก ในช่วงเวลาที่ออกผล ให้ใช้ปุ๋ยที่มีธาตุ โพแทสเซียมสูงเพื่อบำรุงผล และควรรดน้ำขึ้นอยู่กับฤดูกาล โดยหน้าฝนไม่จำเป็นต้องรดน้ำก็ได้ แต่ถ้าเป็นหน้าแล้งก็ควรให้น้ำบ้าง และควรระวังโรคที่เกิดกับกล้วยเช่นโรครากเน่าที่เกิดจากเชื้อราและแมลงที่เป็นศัตรุของกล้วยเช่นมวนร่างแห แมลงวันผลไม้ หนอนกินลำต้น
กล้วย สารพัดประโยชน์ บำรุงสุขภาพ ให้คุณค่าสารอาหารและโภชนาการ
เราสามารถมีสุขภาพดีได้ด้วยกล้วย การมีสุขภาพแข็งแรงได้ด้วยรับประทานอาหารแล้วทำให้ร่างกายได้รับสารอาหาครบ 5 หมู่ และเพียงพอ ซึ่งการกินกล้วยอยู้เป็นประจำ โดยเฉพาะการกินกล้วยน้ำว้า ประมาณ 2 ลูกต่อวัน ก็ช่วยส่งเสริมให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง เพราะกล้วยมีคุณค่า ตามหลักโภชนาการมีสารพัดประโยชน์ บำรุงสุขภาพ บำรุงร่างกายดังนี้
-
ช่วยบำรุงสายตา และสามารถเพิ่มสมรรถนะในการมองเห็นได้เป็นอย่างดี เพราะกล้วยมีสารอาหารที่อุดมไปด้วย วิตามิน A, เบตา-แคโรทีน และ อัลฟา-แคโรทีน
-
ช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยป้องกันทำให้หัวใจแข็งแรง ลดความเสี่ยงความเสี่ยงของอัตราการเกิดโรคหัวใจ เพราะกล้วยมีโพแทสเซียม ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทช่วยกระตุ่นการทำงานของหัวใจ
-
ลดความอ้วน เพราะกล้วยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเร่งการเผาผลาญน้ำตาลและไขมันได้ดีขึ้น จึงช่วยในการควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด ไม่ให้มีปริมาณมากจนเกินไป เพราะหากมีน้ำตาลมากเกินจะเกิดการสะสมในรูปของไขมันไว้ตามส่วนต่างๆของร่างกาย เนื่องจากกล้วยอุดมไปด้วย วิตามิน B1และB2 แต่ก็ไม่ควรปริโภคมากจนเกินความต้องการของร่างกาย
-
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น ช่วยบำรุงระบบลำไส้ให้มีความยืดหยุ่นและแข็งแรง เพราะกล้วยมีคาร์โบไฮเดรตที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ จึงเป็นวิธีช่วยให้แบคทีเรียที่ดีในลำไส้มีจำนวนมากยิ่งขึ้น
-
ช่วยฟื้นฟูร่างกาย จากความเหนื่อยล้า อันเนื่องมาจากการทำงานหนักและการออกกำลังกายได้ เพราะกล้วยมีสารอาหารจำพวกวิตามินบี โพแทสเซียมและแมกนีเซียม
-
ช่วยป้องกันโรคกล้ามเนื้ออ่อนล้า เพราะกล้วยอุดมไปด้วยโพแทสเซียม
-
สารเซโรโทนิน ในกล้วยสุกถือเป็นสารบำรุงสมอง ช่วยให้สมองสามารถควบคุมการทำงานได้ดีขึ้น สามารถทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากความกังวลต่างๆ ช่วยให้อารมณ์สงบขึ้น สดชื่นขึ้น สามารถสร้างสมาธิจดจ่อได้ดีขึ้น ช่วยลดความเครียด สมองสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี นอนหลับได้ดียิ่งขึ้นร่างกายได้รับการแซ่มแซม
-
สรรพคุณต้านโรคกระเพาะได้หลายโรค เช่น โรคกระเพาะอาหาร ท้องเสีย เพราะสารแทนนินในกล้วยดิบที่มีรสฝาด สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียชนิดเลวในลำไส้ ช่วยป้องกันผนังลำไส้ไม่ให้ถูกทำร้าย ช่วยแก้โรคท้องเสีย ช่วยรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหาร
กล้วยน้ำว้า กล้วยสารพัดประโยชน์ 
1. ผลดิบ สามารถใช้เป็นยารักษาโรค แก้ท้องเสียได้ด้วยการกินกล้วยดิบ นอกจากนี้ยังสามารถนำผลดิบมาตำคล้ายๆกับ การทำส้มตำแต่นิยมตำรวมกับผลไม้รสเปรี้ยวจำพวกมะยม เพราะกล้วยดิบจะมีรสฝาด หรือสามารถนำมาทำขนมคบเคี้ยวเป็นการสร้างมูลค่าให้มากขึ้นเช่น กล้วยฉาบ กล้วยเบรคแตก โดยปัจจุบันได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาล ให้เกิดการรวมกลุ่มสร้างผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชน ภายใต้การดำเนินกองส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งกล้วยดิบก็เป็นวัตถุดิบหนึ่งทีได้รับความนิยมแพร่หลาย
2. ผลสุก สามารถทานได้ตั้งแต่เด็กที่อยู่ในท้อง เด็กเล็กเพิ่งคลอดจนกระทั่งโต เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย สามารถนำไปทำเป็นขนมหวาน กล้วยบวชชี กล้วยตาก กล้วยทอด ขนมกล้วย กล้วยกวน จึงส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ ส่งเสริมการเจริญเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศที่เรียกว่า GDP ของประเทศสูงขึ้น เพราะมูลค่าการค้ากล้วย ในประเทศมีมูลค่าเป็นพันๆล้าน นอกจากนี้กล้วยยังสามารถส่งออก ไปยังต่างประเทศได้อีกด้วยเช่น ญี่ปุ่น จีน อเมริกา กล้วยเป็นที่นิยมของคนต่างชาติได้แก่ กล้วยไข่ กล้วยน้ำว้า และกล้วยหอม มูลค่าสงออกกล้วยเป็นหลัก 100 ล้านบาท และในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ตลาดการค้ากล้วยเจริญเติบโตเป็นอย่างมาก ทำให้ราคากล้วยพุ่งแรงไม่หยุด ราคาขยับขึ้นเป็นเท่าตัวเลยที่เดียว
3. ใบตองหรือใบกล้วยสามารถนำมาใช้ห่ออาหาร บรรจุอาหารได้ ในอดีตนิยมใช้ใบตองในการห่ออาหารเป็นอย่างมาก เพราะมีความเป็นธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายในธรรมชาติได้อย่างรวดเร็ว แต่ปัจจุบันด้วยความเจริญก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี จึงทำให้การใช้ใบตองลดลง มีการแทนที่ด้วยการใช้ถุงพลาสติก เพราะง่ายและสะดวก แต่ก็มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ใบกล้วย จึงยังนิยมนำมาประยุกต์ใช้คู่กับวัฒธรรม ประเพณีของไทยๆเช่น การทำกระทง การทำบายศรีสู่ขวัญสำหรับงานบวชนาค งานแต่งงาน และยังสามารถนำใบกล้วยไปเลี้ยงสัตว์ต่างๆได้อีกด้วยเช่น การเลี้ยงปลา เลี้ยงวัวและเลี้ยงแพะ







