หัวเราะบำบัด สร้างความสำราญใจแล้วยังเป็นยารักษาโรคหัวใจ ปรับสมดุลร่างกาย
หัวเราะบำบัด รักษาโรค
ปัจจุบันโรคหัวใจนับได้ว่า เป็นโรคที่มีอัตราการเกิดโรคสูงขึ้นมาก โรคหัวใจถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มโรคซึ่งเรียกว่า กลุ่มโรคที่ไม่เป็นโรคติดต่อ NPD เป็นโรคที่มีสาเหตุอันเกิดขึ้นจากความบกพร่อง หรือการเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆ ของอวัยวะภายในร่างกายก่อนวัยอันควร โดยหลากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
1.ความผิดปกติของระบบเส้นเลือดที่ถูกทำร้าย อันเกิดจากภาวะไขมันอุดตันเส้นเลือด
2. เส้นเลือดตีบ ภาวะเครียดจากการทำงาน
แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่า คนที่สามารถควบคุมภาวะอารมณ์ขันและสามารถสร้างเสียง หัวเราะได้ จะสามารถช่วยป้องกันโรคหัวใจและการห่างไกลจากโรคอื่นๆได้
ในช่วงที่ยังไม่รู้ พอเราได้ยินคำพูดนี้ ฟังดูแล้วมันยิ่งตลก จึงตั้งคำถามในใจว่า แล้วทำไมคนบนโลกนี้ยังเป็นโรคหัวใจกัน ทั้งๆ ที่มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาบนโลกนี้ ก็สามารถหัวเราะได้ตั้งแต่เด็กๆ และในขณะที่โตขึ้นเราก็ยังหัวเราะกันได้ จนกระทั่งได้ศึกษาข้อมูล ผลจากการศึกษาของ Dr. Robert Willer พบว่าเสียงหัวเราะ ช่วยให้เราห่างไกลโรค โดยการทดลองเขา สามารถบอกปรโยชน์ได้อย่างมากมาย ซึ่งการเปล่งเสียงของการหัวเราะ นอกจากช่วยคลายเครียดแล้ว มันยังสามารถเป็นบัตรประกันสุขภาพได้เป็นอย่างดี เพราะการหัวเราะมีผลดีต่อสุขภาพร่างกายดังนี้
1. การหัวเราะบำบัด ช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหาร ทำงานได้เป็นอย่างดี ทำให้อาหารที่เรารับประทานเข้าไป ถูกย่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปกติสารอาหารที่ร่างกายเผาผลาญไม่หมด มักจะถูกเก็บสะสมไว้ในร่างกาย โดยเฉพาะสารอาหารจำพวกแป้งและนำ้ตาล มันจะถูกเก็บไว้ในรูปแบบของไขมัน พอกไว้ตามพนังของหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ
2. การหัวเราะบำบัด ช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรง เพราะการหัวเราะช่วยทำให้หลอดเลือดหัวใจขยายตัว ระบบหมุนเวียนของเลือดที่หล่อเลี้ยงหัวใจก็จะมีประสิทธิภาพ จากการทดลอง โดยให้คนชมภาพยนตร์อยู่สองแนวคือ แนวสงครามและแนวตลกขบขัน พบว่า คนที่ดูหนังแนวตลก ช่วยทำให้หลอดเลือดขยายตัวใหญ่ขึ้นมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
3. หัวเราะบำบัด ช่วยทำให้ระบบลำไส้แข็งแรง ซึ่งลำไส้จะทำหน้าเพื่อสร้างสารสื่อประสาทหรือการหลั่งฮอร์โมนให้กับสมอง จึงช่วยทำให้สมองทำงานอย่างมีคุณภาพ เมื่อสารสื่อประสาททำงานได้ดีระบบฮอร์โมนต่างๆก็จะมีความสมดุล
4. หัวเราะบำบัด จะช่วยป้องกันหลอดเลือดตีบ ปกติเมื่อคนเป็นโรคหัวใจ หลอดเลือดจะตีบ การคิดถึงแต่เรื่องดีๆ ไม่คิดมากไม่เครียด การหัวเราะจะช่วยผ่อนคลายและยิ้มได้
วิธีหัวเราะบำบัดได้ด้วยตนเอง
-
การดูรายการตลก ละคร หนัง คลิปวิดีโอ จากทีวีหรือในอินเตอร์เน็ต ยูทูป หรือการใช้เสิร์ชของ Google
-
ฟังรายการตลกทางสถานีวิทยุ ให้คนอื่นเล่าเรื่องตลกให้ฟัง
-
อ่านเรื่องขำๆ จากหนังสือขายหัวเราะ หรือหนังแนวตลกๆขบขัน
-
ให้คิดถึงแต่เรื่องดีๆ หรือคิดย้อยเรื่องราวในอดีตที่ตลกขบขัน
-
เทคนิคที่ดีอีกอย่างหนึ่ง จากผลวิจัยพบว่า การสร้างบรรยากาศและการหัวเราะร่วมกับคนอื่น จะสามารถทำให้เราหัวเราะเพิ่มขึ้นได้ถึง 30 % ฉะนั้นไม่ควรอยู่คนเดียวใน ขณะที่อยู่ช่วงที่เผชิญกับปัญหาชีวิต เพราะอาจทำให้คุณกลายเป็นโรคหัวใจได้โดยไม่รู้ตัว
ข้อดีของการหัวเราะ หัวเราะบำบัด
จากกรมสุขภาพจิต 15 August 2550 By โดย DMH Staffs
ประโยชน์ของการหัวเราะ จะทำให้ระบบต่างๆในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่เป็นบวก มีทั้งหมด 7 ระบบ ได้แก่
ระบบทำงานของสมอง การหัวเราะ จะช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาทสมอง ส่วนพรีฟรอนทอลคอร์เทกซ์ (prefrontal cortex) ซึ่งบริเวณสมองส่วนหน้า (หน้าที่ของสมองบริเวณนี้จะทำหน้าที่เกี่ยวกับควบคุมความคิด โดยเกี่ยวข้อง กับปฏิกิริยาของอารมณ์เชิงบวกและลบ) ซึ่งสมองจะสั้งการ ให้หลั่งขสารเคมีตัวหนึ่งที่ชื่อว่า endorphin ซึ่งเอ็นโดฟิน เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ “กำกัดความเจ็บปวด” จึงเป็นสารที่ทำให้เราเกิดความสุขนั้นเอง เมื่อสมองสั่งให้หลังเอ็นโดฟิน ผลที่เราได้รับคือ อารมณ์ดี มีอารมณ์ขัน แถมยังสามารถกระตุ้นสมองให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้น จึงช่วยทำให้การประมวลผลทางความคิด ในเชิงบวกและสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังทำให้ร่างกายและจิตใจ ได้รับการบำบัดและฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
ระบบการหายใจ (Breathing) ในระหว่างที่เราหัวเราะ จะมีการสูดลมหายใจเข้าสู่ร่างกาย กลั้นหายใจ และการหัวเราะ ช่วยหายใจออกยาวๆ ดังนั้นจึงทำให้ร่างกายมีการแลกเปลี่ยนออกซิเจน จึงช่วยให้การฟอกเลือดดำให้เป็นเลือดแดงมีประสิทธิภาพดีขึ้น จึงทำให้เซลล์ประสาทหัวใจ ปอด คอ แข็งแรงขึ้น นอกจากนี้การหัวเราะยังช่วย ให้เซลล์ในร่างกายเกิดการขยับ จึงสามารถเพิ่มความร้อนและช่วยให้เซลล์มีการเผาผลาญพลังงานได้สูง ดังนั้นการหัวเราะจึงช่วยฆ่าเชื้อโรค และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพดารป้องกันโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ จึงสามารถลดโอกาสการเกิดโรคไข้หวัด ภูมิแพ้ หอบหืด ไซนัส กรน ความดันโลหิต โรคหัวใจและโรคปอดเป้นต้น
ระบบการย่อยอาหารและการขับถ่าย (Digestion and Gastrointestinal) การหัวเราะบำบัดช่วยให้อวัยวะในระบบลำไส้มีการเคลื่อนไหวและมีการบริหารส่วนท้อง อาทิ ลำไส้ใหญ่ เล็ก ตับ ไต ไส้ กระเพาะ จึงเหมือนกับกระเพาะและลำไส้ได้ออกกำลังกาย จึงช่วยให้ระบบการย่อยอาหารและการขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น เมื่อระบบลำไส้ดีจึงช่วยป้องกันโรคอ้วน โรคบูลิเมีย (Bulimia : โรคที่เกิดจากกินอาหารเข้าไปแล้วรู้สึกผิดปกติ ทำให้บางครั้งต้อง กินยาถ่ายหรืออาเจียนออก หน้าท้องหย่อน ท้องป่อง โรคกระเพาะ เป็นโรคลำไส้ ทำให้เบื่ออาหาร กินไม่ลง ท้องผูก หรือท้องเสีย เป็นต้น )
ระบบการไหลเวียนของโลหิต (Circulation and Cardio-vascular system) การหัวเราะบำบัด ช่วยทำให้เซลล์ต่างๆ ทุกๆ ส่วนของร่างกายหรือทำให้อวัยวะต่างๆ ได้รับการบริหาร และเกิดการเคลื่อนไหวเป็นจังหวะ เร็วบ้าง ช้าบ้าง การหัวเราะจะทำให้หัวใจสามารถสูบฉีดเลือด เพื่อไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้มากขึ้น เมื่อหัวใจทำงานเป็นระบบขึ้น จึงช่วยป้องกันการปวดศีรษะ อาการเวียนศีรษะ อ่อนเปลี้ย เพลียแรง เหนื่อยง่าย เหนื่อยเร็ว เจ็บแน่นหน้าอก เส้นเลือดหัวใจตีบตัน โรคขาดเลือด โรคหัวใจ ตลอดจนอาการตื่นตระหนกและประหม่าง่าย ใจสั่น ตัวสั่น เสียงสั่น เป็นต้น
ระบบการพักผ่อนและระบบการสร้างผิวพรรณ (Rest and Skin system) การหัวเราะบำบัด ทำให้เกิดการผ่อนคลาย ขจัดความเครียด ช่วยทำให้ระบบเส้นประสาท ของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า มีความยืดหยุ่น ไม่ตึงหรือเกร็ง เมื่อเราไม่โรคเครียดและการหัวเราะยังช่วยทำให้ร่างกายและจิตใจมีความสงบมากขึ้น มีสมาธิมากขึ้น จึงช่วยทำให้การนอนหลับแบบสนิทได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนดีขึ้น ผิวพรรณที่ถูกทำร้ายจึงได้รับการฟื้นฟู ยืดหยุ่นขึ้นลดการเหี่ยวย่น และช่วยป้องกันการเกิดโรคทางผิวหนังได้
ระบบการเจริญพันธุ์ (Reproduction) การหัวเราะบำบัด ที่ทำให้เซลล์อวัยวะในร่างกายทุกส่วน มีการขยับขับเคลื่อน จึงส่งผลดีต่อการทำงานของสมองส่วนนอก ส่วนกลาง และส่วนใน ให้ทำงานได้ดีขึ้น ระบบมีความสัมพันธ์กันมากขึ้น จึงทำให้สมองแต่ คิดแง่ดีและสามารถมองโลกแง่บวก เมื่ออารมณ์ดี จำทำให้อารมณ์รักมีพัฒนาการณ์ที่ดี ในระหว่าการมีเพศสัมพันธ์ จึงช่วยป้องกันการเกิดอาการ ไร้อารมณ์ หงอยเหงา รู้สึกโดดเดี่ยว แล้วไม่อยากเข้าสังคม จึงลดการเกิดโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และการไม่เข้าสังคมได้
เพิ่มสัญชาติญาณการอยู่รอด (Survival instinct) การหัวเราะบำบัด ที่ช่วยทำให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว มีความแข็งแรง ระบบการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้รับการกระตุ้น จึงทำให้ระบบการทำงานของเซลล์ประสาท กระดูก กล้ามเนื้อในร่างกาย ทำงานได้อย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพดี จึงช่วยป้องกันโรคไขข้อ โรคกระดูกต่างๆ ทั้งกระดูกพรุน ลดอาการปวดหลัง ปวดเอวหรือโรคอ่อนเปลี้ยเพลียแรง โรคซึมเศร้า นอกจากนี้ยังช่วยทำลายสารอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย
บทความที่น่าสนใจ ทําไมต้องกินอาหารเสริม ข้อดี-ข้อเสีย วิธีเลือกกินอาหารเสริมอย่างถูกต้อง
เกิดมาทำไม https://www.youtube.com/watch?v=bGZRei9P6XE
1 Response
viagra
WALCOME