อาหารเช้า อาหารชีวิต ภัยร้ายของการไม่รับประทานอาหารมื้อเช้า

         อาหารเช้า อาหารชีวิต

           อาหารเช้า ภาษาอังกฤษมาจากคำว่า Breakfast หมายความว่า หยุดการอดอาหาร  เพราะท้องว่างมานานกว่า 12 ชั่วโมงแล้ว ที่ไม่ได้รับประทานอะไรเลยหลังจาก  การรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายในเมื่อวาน  และเวลาอาหารมื้อเช้า  ปกตินั้นต้องรับประทานไม่เกิน 10 นาฬิกา และพลังงานที่ได้รับจากการรับประทานอาหารมื้อเช้า   ต้องคิดเป็น 20 ถึง 35% ของพลังงานทั้งหมดที่ร่างกายต้องการทั้งวัน

          รู้หรือไม่ว่าคนไทยมากกว่า 50% ไม่รับประทานอาหารเช้า

         อาหารเช้าเป็นมื้อที่คนไทยมีการงดมากที่สุดร้อยละ 50.3 รองลงมาคือ อาหารกลางวันร้อยละ 29.6 และมื้อเย็นร้อยละ 17.4   นี่เป็นผลสำรวจสุขภาพประชากรไทยครั้งที่ 5 พ.ศ 2557 โดยสำรวจจากประชากรไทยที่มีอายุ 15 ถึง 59 ปี  สรุปได้ว่า คนไทยงดอาหารมื้อเช้าก่อนมื้ออื่น จากการดำเนินการโดยแผนงานสำรวจสุขภาพประชากรไทย  สำนักงานวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพไทย สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส) ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายของคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยในภูมิภาคต่างๆ

อาหารเช้า

 ผลจากการสำรวจยังพบว่า สาเหตุที่คนไทยไม่รับประทานอาหารเช้านั้นมีดังต่อไปนี้

     1 ) รีบเร่งไม่มีเวลาเพียงพอในตอนเช้า

     2 ) การเตรียมอาหารเช้ายุ่งยากขาดการวางแผนในการรับประทานอาหารเช้าที่ดี

    3 ) ไม่รู้สึกหิวในตอนเช้า เพราะมื้อดึกรับประทานอาหารมากไป

    4 ) นอนตื่นสาย

แล้วอาหารเช้าดีอย่างไรทำไมถึงต้องรับประทาน

    1 ) อาหารมื้อเช้า จัดเป็นมื้อสำคัญที่สุด เพราะร่างกายต้องการสารอาหารในช่วงเช้ามากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ อันได้แก่สารอาหารที่มี โปรตีน วิตามินและเกลือแร่

    2 ) การรับประทานอาหารมื้อเช้าในวัยทำงาน จะทำให้ร่างกายแข็งแรงและกระฉับกระเฉงในการทำงานมากขึ้นสำหรับในวัยเรียนจะทำให้มีสมาธิในการเรียนและมีภูมิคุ้มกันที่ดี

    3 ) การไม่รับประทานอาหารเช้าหรือรับประทานอาหารเบาๆแค่ขนมปังหรือกาแฟจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่น้อยกว่าที่ควรซึ่งในระยะสั้นอาจจะไม่รู้สึกว่ามีผลกระทบต่อร่างกายแต่ในระยะยาวจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมอย่างแน่นอน

อาหารเช้า

ภัยร้ายของการไม่รับประทาน อาหารเช้า มีดังนี้

     1 เป็นโรคอ้วน อาหารเช้าเป็นอาหารมื้อแรกหลัง จากที่ร่างกายผ่านการอดอาหารมานานเกือบ 12 ชั่วโมง ทำให้ระดับฮอร์โมนแห่งความหิวและระดับฮอร์โมนอินซูลินต่ำ และกลายเป็นสาเหตุทำให้น้ำหนักเกินและโรคอ้วนตามมาอย่างไม่รู้ตัว  หากเรายิ่งไม่รับประทานอาหารเช้าเข้าไปอีก จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง  จนไปเพิ่มแนวโน้มการรับประทานอาหารที่มีพลังงานสูงและไขมันสูงในมื้อเที่ยงมากเกินไป

     2 โรคเบาหวานการไม่รับประทานอาหารมื้อเช้า จะส่งผลให้ความไวของอินซูลินลดลง ทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินตามมาและเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งการรับประทานอาหารเช้าจะช่วยให้ความไวของอินซูลินสูงขึ้น ส่งผลให้การตอบสนองของน้ำตาลในเลือด หลังรับประทานอาหารดีขึ้น  โดยพบว่าผู้ที่ไม่รับประทานอาหารมื้อเช้านั้นมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เพิ่มขึ้นถึง 15 ถึง 21 เปอร์เซ็นต์

      3 โรคหัวใจและหลอดเลือด เมื่อไม่ได้รับประทานอาหารเช้าจนติดเป็นนิสัย จะทำให้เป็นโรคอ้วนโรคเบาหวานและอีกหลายโรค  ซึ่งเมื่อเจ้าโรคอ้วนและโรคเบาหวานมาเยือน ปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกายจะสูงขึ้นทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดตามมา  จากงานวิจัยขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นพบว่าคนที่ไม่รับประทานอาหารมื้อเช้าเพิ่มอัตราเสี่ยงโรคหลอดเลือดสูงถึง 42 เปอร์เซ็นต์

      4 โรคกรดไหลย้อน จากการศึกษาวิจัยของภาควิชาทางเดินอาหารคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยโตเกียวประเทศญี่ปุ่นพบว่า โรคกรดไหลย้อนมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม 4 อย่าง

        1) รับประทานอาหาร 2-3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน

       2) รับประทานอาหารของว่างช่วงค่ำ

       3) รับประทานอาหารเร็ว

       4) ไม่รับประทานอะไรเลย

          นอกจากนั้นยังพบว่าบางคนที่ไม่รับประทานอาหารเช้า  แต่หันไปพึ่งพาเครื่องดื่มคาเฟอีนอย่างกาแฟชาหรือเครื่องดื่มชูกำลังยิ่งเป็นตัวกระตุ้น ซึ่งจะทำให้น้ำย่อยหลั่งออกมามากขึ้น ทำให้อาการกรดไหลย้อนเป็นมากขึ้น

      5 โรคหลอดเลือดสมอง งานวิจัยขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นศึกษาความสัมพันธ์ของการรับประทานอาหารเช้ากับโรคหลอดเลือดสมองในคนที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงพบว่า การรับประทานอาหารเช้าทุกวัน ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมองแตก  กลไกที่อธิบายคือการไม่รับประทานอาหารเช้า  ส่งผลให้แกนทำงาน ไฮโปทาลามัส ต่อมใต้สมองและต่อมหมวกไตทำงานมากเกินไป ของสมองส่วน Over activity in hypothalamic Pituitary Adrenal axis  ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงช่วงเช้าซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยง สำคัญของโรคหลอดเลือดสมองแตก

      6 โรคนิ่วในถุงน้ำดี คลอเรสเตอรอลเป็นสารที่สร้างมาจากเซลล์ตับแล้วปล่อยลงไปกับน้ำดี ซึ่งเป็นทางหนึ่งที่ตับจะขับคอเลสเตอรอลส่วนเกินออกจากร่างกายไปทางน้ำดี แต่การไม่รับประทานอาหารเช้าจะทำให้คอเลสเตอรอลในน้ำดีอิ่มตัวและจับตัวกันในถุงน้ำดี แล้วหากไม่รับประทานอาหารมื้อเช้าติดต่อกันเป็นประจำ จะส่งผลให้น้ำดีไหลเวียนออกจากตับไม่ดี ถุงน้ำดีขุ่นและในที่สุดจะทำให้เกิดก้อนนิ่วชนิดคลอเรสเตอรอลในถุงน้ำดีนั่นเอง

      7 ประสิทธิภาพการเรียนรู้และความจำลดลง การรับประทานอาหารเช้าเป็นกิจวัตรทุกวันจะช่วยให้เกิดประสิทธิภาพในการเรียนรู้และช่วยเพิ่มพลังความจำกับสมองทำให้มีความจำที่ดี นอกจากนี้การเสริมน้ำมันปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยชะลอความเสื่อมของสมองได้ โดย EPA ที่พบในน้ำมันปลา จะช่วยต้านการอักเสบ จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะกับคนที่รับประทานอาหารไขมันอิ่มตัวมาก

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจากนิตยสารแอคชีฟ Thailand ฉบับ April 2018

บทความที่น่าสนใจ  ข้าวหลาม ประเพณีพื้นบ้าน เพิ่มไขมันดีให้กับร่างกาย สร้างความสามัคคี

 

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *