อิสรภาพทางการเงิน ถึงแม้จะเป็นความฝันแต่มนุษย์เงินเดือนก็สามารถทำได้

              ความสุขนับได้ว่าเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆที่ทุกคนไฝ่หา  และสิ่งที่เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า การได้มาซึ่งความสุขนั้น มันเริ่มจาการมี “เงิน”  เพราะเงินคือ อำนาจที่จะบันดาลสิ่งอำนวยความสะดวก ปัจจัยสี่ แก้วแหวน จึงทำให้คนทั่วๆไปพยายามค้นหากับคำว่า อิสรภาพทางการเงิน นอกจากเงินมีอำนาจที่เป็นรูปธรรมแล้ว  เงินยังมีผลต่ออำนาจทางจิตทั้งด้านบวกและด้านลบ เพราะหากใครมีอิสรภาพทางการเงินเหลือกินเหลือใช้ ก็สามารถแบ่งปันให้คนอื่นๆได้เช่น การทำบุญสร้างโบสถ์ สร้างวิหารได้  จิตใจก็มีความสุข  ตรงกันข้ามสำหรับส่วนคนที่มีเงินน้อยรายได้น้อย อย่าว่าจะได้บริจาคทานเลย เงินที่จะซื้อข้าวยังไม่พอ การมีเงินน้อยก็เป็นต้นเหตุหนึ่งของความทุกข์

อิสรภาพทางการเงิน

อิสรภาพทางการเงิน

          จากความวิเศษของเงิน จึงทำให้มนุษย์ต้องแข่งขันกันทำมาหากิน คนที่มีโอกาสมากกว่าคนอื่น ก็สามารถหาเงินได้มากกว่าคนอื่นๆ ส่วนคนที่ด้อยโอกาสก็สร้างเงินได้น้อยกว่า  สิ่งสำคัญคือวิธีการหาเงิน เพราะวิธีสร้างเงินของคนจนคนรวยก็มักจะแตกต่างกันออกไป บางคนโชคดีเกิดมาในตระกูลเศรษฐี  ได้สืบทอดความมั่งคั่งร่ำรวยและได้ทำธุรกิจต่อจากบรรพบุรุษ  บางคนก็อาจจะเป็นรุ่นบุกเบิกลงทุนทำธุรกิจเองจนประสบความสำเร็จ บางคนอาจจะลงทุนชื้ออสังหาริมทรัพย์แล้วนำมาพัฒนาต่อให้เป็นแหล่งการค้าเพื่อเพิ่มมูลค่า หรือจะเป็นนักธุรกิจที่สร้างโรงงานผลิตและระบบ หรือแม้แต่ทำการเกษตรก็ยังสามารถมีอิสระภาพทางการเงินได้  

         แต่สำหรับคนที่ทำอาชีพเป็นพนักงาน เป็นมนุษย์เงินเดือน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานทั่วๆไปหรือพนักงานตำแหน่งสูงๆ  จะเป็นพนักงานรัฐหรือเอกชลก็ดี  ก็ต้องใช้แรงงานทำงานเพื่อแลกเงิน เป็นไปได้น้อยมากที่จะกลายเป็นคนรวยและมีอิสระภาพทางการเงินได้ 

           นอกจากนี้มนุษย์เงินเดือนยังมีปัญหาในการดำเนินชีวิตอีกมากมาย เช่น การต่อสู้การแข่งขัน การแก่งแย่ง   ที่สำคัญคือ ข้อจำกัดด้านเวลา เพราะเวลาส่วนใหญ่ต้องแบ่งให้กับการทำงาน ทำให้ชีวิตขาดความสมดุลเช่น ไม่มีเวลาได้ดูแลสุขภาพ ไม่เวลาสำหรับดูแลครอบครัว  รวมทั้งปัญหาจากงานที่ต้องแก้ไข ก็กลายเป็นแรงกดดันและมีความเครียด ก็มีผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่แย่ลง  ฯลฯ  ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันคือ ความทุกข์ ในการหาเงิน จึงต้องค้นหากับคำว่า อิสรภาพทางการเงิน

             นอกจากโรคที่เกี่ยวกับสุขภาพร่างกายแล้ว มนุษย์เงินเดือนยังคงเผชิญกับฝันร้ายทางการเงิน  เพราะยิ่งทำงานนานขึ้นบวกกับการขาดความรู้ในการจัดการเงิน ถึงแม้จะเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งซึ่งมาพร้อมกับหน้าที่ความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น ถึงจะได้รับเงินเดือนมากขึ้น  ก็มีความสามารถสร้างภาระหนี้สินได้มากขึ้น จึงมักก่อหนี้ด้วยการซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่างๆแบบผ่อนส่ง  และยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินและหนี้สินเช่น เข้าใจว่าบ้านหรือรถยนต์เป็นทรัพย์สิน ทั้งๆ ที่มันเป็นหนี้สิน เพราะพวกเขาต้องจ่ายมันทุกๆเดือน เมื่อมีหนี้สินมากขึ้นก็ต้องทำงานหนักขึ้นๆ  ทำให้ไร้ซึ่งอิสรภาพ

   อิสรภาพทางการเงิน

 

ทำไมต้องสร้าง อิสรภาพทางการเงิน

            การสร้างแรงบันดาลใจและการกระตุ้นตนเองให้มีความมุ่งมั่น  เพื่อทำให้ชีวิตเข้าสู่เส้นทางการอิสรภาพทางการเงิน  จากคำถามจากประโยคเหล่านี้

  • ใช่/ไม่ เมื่อเข้าร้านอาหารดัง อร่อยๆ ที่มีคนแนะนำให้ไปลอง  เรามักมองดูเมนูทางฝั่งซ้าย (คือดูราคา) ก่อนที่จะดูเมนูฝั่งขวา

  • ใช่/ไม่ เมื่อเข้าห้างดัง เพื่อต้องการไปซื้อเสื้อผ้าดีๆ ยี่ห้อดังๆใส่ เรามักจะค้นหาป้ายราคาก่อนที่ จะดูรูปแบบหรือไม่ได้สัมผัสกับเนื้อผ้าเสียด้วยซ้ำ

  • ใช่/ไม่ เมื่อเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน กับคนที่รัก  ถึงขั้นต้องหามส่งโรงพยาบาล แต่เรายังมีเวลามากังวลกับค่าใช้จ่ายอยู่

  • ใช่/ไม่ ในอนาคตอันใกล้นี้  ลูกที่เป็นทายาท แล้วกำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลก  แต่เรายังต้องเช่าบ้านหรือห้องสี่เหลี่ยมอยู่

           แล้วหากคำตอบโดดยส่วนใหญ่คือ ใช่   นั้นละคือคำตอบว่าเราต้องการ อิสรภาพทางการเงิน 

อิสรภาพทางการเงิน

อิสรภาพทางการเงิน  คืออะไร

            อิสรภาพทางการเงิน หมายถึง คนที่มีความมั่งคั่งทางการเงิน  โดยที่พวกเขาทำงานหรือทุนในทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งจนประสบความสำเร็จแล้ว และถึงแม้ว่าพวกเขาจะหยุดทำงานแล้ว เขาก็ยังมีรายได้ทางการเงินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรายได้เหล่านั้นก็มีมูลค่ามากกว่าค่าใช้จ่ายต่างๆที่พวกเขามี หรือเรียกง่ายๆว่า “เหลือกินเหลือใช้”   

         ถามว่ามีอะไรบ้างที่สามารถซื้อได้ด้วย “เงิน” แล้วคุณจะพบคำตอบว่า ร้อยละ 99 % เงินสามารถซื้อได้แน่นอน ปกติแล้วคนที่มีความมั่งคั่งทางการเงินมักจะบริหารความเสี่ยงทางการเงินได้เป็นอย่างดี

          เมื่อเข้าใจความสำคัญของ อิสรภาพทางการเงิน แล้วเราไปดูกันต่อว่า สิ่งที่เราทำอยู่หรืออาชีพของเราในปัจจุบันนั้น กำลังเดินอยู่บนเส้นทางแห่งอิสภาพ หรือไม่

 

อิสรภาพทางการเงิน

ที่มาของรายได้ทางการเงิน  สามารถแบ่งประเภทได้ดังต่อไปนี้

        โรเบิร์ต คิโยซากิ กูรูด้านการเงินที่เขียนหนังสือ พ่อรวยสอนลูก ซึ่งแยกกลุ่มคนตามที่มาของรายได้ เป็น 2 กลุ่ม 4 ประเภท คือ

อิสรภาพทางการเงิน

กลุ่มที่ 1 คนฝั่งซ้าย  กลุ่มที่ต้องทำงาน ถึงจะได้เงิน  หรือ Active Income  ประกอบด้วย

  • 1.1 ลูกจ้าง (Employee) หรือ มนุษย์เงินเดือน โดยที่มาของรายมาจากการ นำแรงและเวลาไปทำงานให้คนอื่น เพื่อแลกกับ ค่าจ้างหรือเงิน  คนกลุ่มนี้ไม่สามารถกำหนดปริมาณรายได้ของตัวเองได้มากนัก การรายได้เพิ่มได้จาก การ OT หรือไม่ก็ออกไปหางานใหม่ที่ได้ค่าตอบแทนมากกว่าเดิม แต่ก็เป็นการทำงานในลักษณะเดิม เพียงแค่เปลี่ยนแค่สถานที่ทำงาน  ที่มาของรายรายได้ของกลุ่มคนประเภทนี้ จึงไม่มีอิสรภาพทางการเงินและเวลา ” การเป็นลูกจ้างของคนอื่น คือการทำงานเพื่อให้คนอื่นรวย  นอกจากนี้ลูกจ้างโดยใหญ่มักขาดความรู้ทางการเงิน จึงมักก่อหนี้มากกว่าการลงทุน 

  • 1.2 ผู้ประกอบอาชีพอิสระ (Self Employed) หมายถึง คนที่นำแรงและเวลาไปประกอบอาชีพ ด้วยความรู้ความสามารถประสบการณ์เฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็นหมอ วิศวะกร แพทย์ หรือเจ้าของกิจการ SME  เพื่อขายสินค้าให้หรือบริการให้กับลูกค้า แล้วแลกกับเงิน  ที่มารายได้ของคนประเภทนี้อาจจะสามารถสร้างเงินได้มากกว่ากลุ่มคนประเภทแรก แต่ก็จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน  เพราะไม่สามารถหยุดงานที่ทำอยู่ได้  เพราะถ้าหากหยุดทำงานหรือปิดร้าน รายได้ก็จะหยุดตามไปด้วย  ถือได้ว่าเป็นการขายเวลาเพื่อแลกเงิน 

อิสรภาพทางการเงิน

กลุ่มที่2 คนฝั่งขวา Passive Income กลุ่มที่ลงทุนจนสำเร็จแล้ว อยู่เฉยๆก็ยังได้เงิน เป็นกลุ่มคนที่มีอิสรภาพทางการเงินนั้นเอง

  • 2.1 เจ้าของธุรกิจ(Business Owner) หมายถึง คนที่สามารถนำแรงและเวลาโดยส่วนใหญ่ไปลงทุน เพื่อสร้างธุรกิจด้านต่างๆและมีระบบ แล้วให้ธุรกิจและระบบที่สร้างขึ้นน้ั้นทำงานสร้างรายได้แทนการทำงานด้วยตนเอง  จึงมีอิสรภาพทางการเงิน ” อิสระภาพทางการเงินที่ใช้ทรัพย์สินทำงาน ” โดยส่วนใหญ่มักเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่และมีระบบ โดยส่วนมากแล้วมักจะทุนจ้างทรัพยกรมนุษย์ที่มีความรู้ความสามารถมาก ได้ออกแบบระบบที่สามารถควบคุมการทำงาน ควบคุมความเสี่ยงต่างๆแล้วยังสามารถตรวจสอบการทำงานของหน้าที่งานด้านต่างๆได้  ซึ่งบุคลากรเหล่านั้น ก็ยังสามารถทำงานเพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าของบริษัทให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ เมื่อมีทรัพย์สินมีมากขึ้น ทรัพย์สินเหล่านั้น จะทำหน้าที่ในการสร้างเงิน ที่มีมากขึ้นๆจึงกลายเป็นคนที่มี  อิสรภาพทางการเงิน

          ถึงแม้ว่าพวกเขา ไม่ได้ไปทำงาน ระบบก็ยังคงทำงานแทน ยังมีรายได้ สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ  เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีอิสภาพทางการเงิน Passive Income เช่น บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และยังมีบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทยอีกหลายบริษัท นอกจากนี้แล้วยังมี ธุรกิจแฟรนไชส์ การสร้างเว็บไซต์ กลุ่มธุรกิจขายตรง MLM ฯลฯ

  • นักลงทุน(Investor) หมายถึง นักลงทุนที่นำเงินไปลงทุนหรือซื้อสินทรัพย์ในด้านต่างๆ แล้วให้ทรัพย์เหล่านั้นทำงานและสร้างผลตอบแทนในรูปแบบของเงินสด เช่น  การซื้อหรืออสังหาริมทรัพย์ให้เช่า  การลงทุนในหุ้น การทำบ้านคอนโดให้เช่า หรือเรียกว่า การใช้เงินทำงาน  คนประเภทนี้จะต้อง เป็นคนที่มีเงินทุนเป็นจำนวนมาก และเป็นกลุ่มคนจำนวนน้อยในสังคม แต่สามารถครอบครองเงินในปริมาณมาก  วิธีการสร้างรายได้ของคนกลุ่มนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การใช้เงินต่อเงิน เป็นกลุ่มคนฝั่งขวาเช่นเดียวกับกลุ่มคนประเภทที่ 3    Passive Income แบบใช้เงินทำงาน

บทสรุป

         จากข้อมูลเชิงสถิติของคนทั่วโลกพบว่า 90 % ส่วนใหญ่ จะมีรายได้แบบ Active Income หรือเป็นกลุ่มคนซ้ายมือ คือกลุ่มคนที่อาชีพเป็นลูกจ้างและผู้ประกอบอาชีพอิสระ   ซึ่งต้องนำแรงและเวลาไปทำงานเพื่อแลกกับเงิน  หยุดทำงานก็ไม่ได้เงิน  การใช้ชีวิตต้องจำนนต่อข้อจำกัดมากมายดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น และมักจะมีปัญหาทางการเงิน และยังมีปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ไม่มีเวลาให้ครอบครัว ซึ่งเวลาที่มีโดยส่วนใหญ่ก็จะอยู่กับการทำงาน ไม่มีเวลาได้ดูแลสุขภาพ จึงทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรคต่ำ เจ็บป่วยได้ง่าย  แล้วหากอยากได้สิ่งอำนวยความสะดวกสบายสักอย่าง ก็มักจะไปกู้หนี้ เมื่อมีหนี้สินเพิ่มขึ้น ก็ต้องทำหนักมากขึ้น เป็นวัฎจักรเวียนวนอยู่กับปัญหาซ้ำๆ

           แต่เดี่ยวก่อน มนุษย์เงินเดือน อย่างเราๆ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงที่มาของรายได้และกลายเป็นคนที่มีอิสภาพทางการเงินได้เช่นกัน โดยเริ่มต้นด้วยการสร้างความรู้  เรียนรู็วิธีสร้างรายแบบคนฝั่งขวา เรียกว่ารายได้แบบ Passive Income  ซึ่งต้องอาศัยการทุ่มเททั้งแรงและเวลาให้กับการศึกษาเรียนรู้วิธีการลงทุนหรือการทำธุรกิจเหมือนกลุ่มคนฝั่งขวา   โดยเริ่มต้นจากการนำรายได้ จากงานประจำหรือเงินเดือนบางส่วน ไปลงทุนในทรัพย์สินง่ายๆ แต่ทรัพย์สินเหล่านั้นสามารถสร้างผลตอบแทนได้  เป็นการให้เงินทำงานแทนการใช้แรงงานเราได้เช่น การออมในหุ้น การลงทุนซื้อคอนโดให้คนอื่นเช่า การทำตู้หยอดเหรียญ  เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ  ตู้เติมเงินมือถือ ฯลฯ    เมื่อทรัพย์สินที่เราลงทุนไป มันสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า ค่าใช้จ่าย ก็จะทำให้เราพบกับ” อิสรภาพ ทางการเงินและเวลา” ชีวิตเรา…สร้างได้  คุณภาพชีวิตที่ดีต้องสร้างเอง เรียนรู้เจาะลึกอิสรภาพทางการเงินได้ในบทถัดไป

ชมคลิป

 

บทความแนะนำ: อยู่เฉยๆก็ได้เงิน:Passive Income

You may also like...

1 Response

  1. กรกฎาคม 2, 2021

    […] สูญเสียเวลากับการทำงานที่ไม่ใช่ เพราะถึงแม้ว่าจะทำงานเป็นสิบๆปี แต่ก็ยังไม่มีเงินและทรัพย์ใดๆ แถมยังมีแต่หนี้สินที่เพิ่มขึ้น จงเรียนรู้การเงินการลงทุนให้มากขึ้น โดยเริ่มต้นจากการแบ่งเวลาไปทำอาชีพเสริม เพื่อค้นหางานที่ใช่ ที่สามารถสร้างเงินและทำให้เราเป็นผู้ที่มีอิสรภาพทางการเงินได้ […]

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *