บักม่วงบ่ายโบก มะม่วงสุกมาพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ

            อีสานบ้านเฮา มีอาหารการกินบ่ลำบาก ลงโท่งลงนาในน้ำมีปลาในนามีข้าว หมากแงว หมากค้อ มีเบิดทุกอย่าง ขึ้นชื่อว่าอาหารดี คือแบบได่ พิชซ่า เอมเค หรือเคเอฟชีบ่  บ่แม่นครับ อาหารบ้านนอกบ่ศิวิไลคือไฮโซเขากินกัน  มื้อนี้สิมีแนวมาบอก แนวที่ว่าคือ บักม่วงบ่ายโบก  ( บ่ายโบก มะม่วงสุก )

          ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนของทุกปี เป็นช่วงที่มะม่วงกำลังสุกงอม จะสอยให้ได้กินหรือจะรอให้ร่วงหล่นยามฟ้าฝนเดือนห้า พัดลมแรงมาแต่ต้นๆ ก่อนไถหว่านนาข้าว ก็ได้  แล้วแต่ตามวิธี

            ถ้าแป็นสมัยละอ่อน ก็เรียว (ยิง) ด้วยลูกหินด้วยหนังสติ๊กเลยล่ะ ทดลองความแม่น คุยโวโอ้อวดเพื่อนๆ  ด้วยกัน  ใครแม่นกว่าใคร มะม่วงที่นิยมนำมาทำบ่ายโบก  ก็จะเป็นมะม่วงกะล่อน  เพราะมีความหวานหอม กลิ่นเฉพาะเวลาสุกของมะม่วงพันธุ์นี้ แล้วขาดไม่ได้เลยข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆ คือสองสิ่งผสมรวมกัน ได้อาหารการกินแบบบ้านๆ ถึงจากบ้านนา ไปเมืองนอกก็ทำให้อดกลืนน้ำลายไม่ได้เลยทีเดียว  ที่อยากจะลิ้มลองบ่ายโบกยามเวลานี้  ดั่งคำครูบาว่า

บักม่วงบ่ายโบก

  รัศมีการกินไกลไทอีสาน ไม่ต้องง้อรัฐบาลมารขี้เท้อ

ฉลาดอยู่ฉลาดกินแล้วไอ้เกลอ. จะไปง้อรอไอ้เซ่อที่ไหนกัน

  กิน บักม่วงบ่ายโบก แล้วได้คิด ลูกข้าวเหนียวแน่นสนิทดุจข้าวนั้น

รวมกันได้เมื่อไรทรงพลัง อย่าลดชั้นเป็นฐานค้ำบัลลังก์ใคร

ฉลาดกินฉลาดอยู่สารพัด. ไม่ต้องพึ่งหมัก ทัก ก็อยู่ได้

รัฐบาลผ่านมาก็ผ่านไป อย่าก้มกราบเป็นทาสใครให้เสียเชิง

รอแบมือร้องของ้อคนอื่น. เพียงเขายื่นเศษเงินให้ก็ไหลเหลิง

ยอมมอบตนมอบใจให้กับเงิน เขาก็ใช้เราเพลินแทนควายงาน

ฅนอีสานอดทนไม่อดตาย อยู่สบายไม่ต้องใช้เงินเป็นล้าน

อยู่พออยู่พอกินแสนสำราญ อย่าริรานตามก้นคนมั่งมี

หาอยู่หากินในถิ่นฐาน จิตวิญญาณอีสานมีศักดิ์ศรี

ปราชญ์ชาวบ้านมากมายที่เรามี เลิกหลงลมเศรษฐี ได้ดีเอง

                  ญาปู่ ครูบาธรรมโยคี อริยธาตุ

            วิธีการทำบักม่วงบ่ายโบก ไม่ยุ่งยาก ได้มะม่วงสุกมาพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ ใช้มีดปาดรอบขั้วมะม่วงแล้วใช้มือบีบเมล็ด ออกมา  ซึ่งมะม่วงกะล่อนนั้นเนื้อในจะมีน้อยกว่าเมล็ดมะม่วง  เนื้อติดเมล็ด.  ก็เอามาอมดูดเนื้อมะม่วงได้ แล้วจากนั้นก็เอาข้าวเหนียวร้อนมายัดใส่  ส่วนในมะม่วงที่เหลือแต่เปลือก กับเนื้อมะม่วงพอมีนิดหน่อย   แล้วใช้มือบีบนวดๆให้ข้าวกับเนื้อมะม่วงเข้ากัน เมื่อได้ที่ก็บีบข้าวที่อยู่ในลูกมะม่วงกินได้เลย  ด้วยความหวานหอมกับข้าวเหนียวนุ่มๆ มันคือความลงตัวที่ได้ลิ้มลองบ่ายโบกอีสานแท้  หากทำข้าวเหนียวมูนใส่แทนข้าวเหนียวธรรมดา. ก็จะอร่อยเพิ่มมากยิ่งขึ้น อันนี้แล้วแต่ความชอบใคร

             ชาวชุมชนศรีแก้ว. อำเภอเลิงนกทา จ. ยโสธร. ได้เล่าประสบการณ์  ผ่านวิถีชีวิตดั้งเดิมว่า.ความเป็นอยู่ชาวชุมชนนี้ แม้จะเข้าสู่ภาวะเทคโนโลยีที่เจริญรวดเร็วแต่ ชาวชุมชนยังเดินช้ากว่าเทคโนโลยี เพราะเรื่องปากท้องสำคัญกว่าสิ่งใด ในชุมชนวิถีชีวิตดั้งเดิมเคยทำมา ก็ยังไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป ตื่นเช้าทำไร่ทำสวนเข้าสวน. คือวิถีเดิมๆ แม้นเขตสปป.ลาว  ประเทศเพื่อนบ้านพี่น้องยังคง มีวัฒนธรรมการกินที่คล้ายคลึงกัน.  บ่ายโบกไม่ได้มีแค่บ้านเรา. ฝั่งเพื่อนชาวลาวเองก็มีการกินบ่ายโบกเช่นกัน ก็ถือเป็นแบรนด์ท้องถิ่น. ที่ทุกคนต่างนิยมกัน ตอนนี้ราคาอาหารข้าวแกงข้าวผัดน่าจะไปไกลกว่าที่เราคิด 40-50บาทถือว่าเรามาไกล ถึงขนาดนี้เลยเหรอ แต่ชีวิตดีมีสุขได้เพราะการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องตามกระแสฟาสฟูดส์ที่ทำให้เรา เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไป โรคภัยร้ายแรงที่เราไม่เคยเจอก็ต้องเจอ เพราะวิถีการบริโภคของเราเปลี่ยนไป

        การอยู่กับกลิ่นโคลนสาบควาย นอนเถียงนา จับปู จับกบ ทำให้พวกเฮาชาวอิสานทุกคนคงคิดถึงวิถีชาวบ้านร่ำไป   หากใครยังไม่เคยได้ลิ้มลอง รสชาติว่าบ่ายโบกเป็นไง ลองเดินตลาดหามะม่วงสุกเหลืองอ่อนๆและข้าวเหนียวร้อนๆที่ว่าหอมมายัดใส่โบกไว้ เผื่อจะติดใจ มิวายลืมลงบ่ายโบกดีกว่าไปเดินห้างกินไก่ไฟเผาน้ำมันทอดเกรียม  ดีกว่านะ

ฐิติพล เรียบเรียง

  #Besterlife.com

 

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *