ให้เงินทำงาน คือวิธีสร้างรายได้เสริมความมั่งคั่งร่ำรวย สำหรับมนุษย์เงินเดือน

             

          นิยามของคำว่ามนุษย์เงินเดือนที่เราเข้าใจกันดี ก็คือเมื่อได้รับเงินเท่าไรก็ใช้ให้หมดภายในเดือนนั้นๆ ในช่วงเริ่มแรกของการทำงาน ถึงแม้จะได้รับเงินเดือนน้อยๆ  แต่ก็ยังพอมีเงินเหลือเก็บไว้บ้าง แต่เมื่ออายุงานมากขึ้น ซึ่งตำแหน่งหน้าที่การงานสูงขึ้น รายได้ก็เพิ่มมากขึ้น แต่แล้วทำไม ไม่มีเงินเหลือให้เก็บ  แถมเงินที่มีก็ไม่พอใช้  รายจ่ายและภาระหนี้สินก็เพิ่มขึ้นทุกๆปี  ซึ่งนั้นก็เป็นคำถามของตัวของผมเอง แล้วเป็นเช่นนั้นไปได้อย่างไร ก็เพราะเราขาดความรู้และทักษะทางการเงิน ขาดแผนทางการเงินที่ดี และที่สำคัญคือ ไม่รู้วิธีการลงทุนไม่รู้วิธีการใช้เงินต่อเงินหรือการ ให้เงินทำงาน เหมือนกับวิธีการทำงานที่คนรวยเขาทำกัน

         คนทั่วไป เมื่อได้รับเงินจากค่าจ้างแรง ก็มักจะหมดไปกับค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นการแสดงให้เห็นฐานะทางการเงินหรือการโอ้อวดเช่น การกู้เงินเพื่อผ่อนรถ บ้าน มือถือและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพราะความเข้าใจผิดว่าเป็นสิ่งต่างๆเหล่านั้น มันเป็นทรัพย์สิน แต่แท้จริงแล้ว มันเป็นค่าใช้จ่ายและหนี้สิน ซึ่งไม่ใช้การลงทุน

           นอกจากนั้นแล้วยังมีข้ออ้างเกี่ยวกับการเงินอีกมากมายเช่น เงินทุนมีน้อย ไม่มีความรู้ ไม่มีโอกาสเหมือนกับคนอื่น ไม่มีเวลา แค่ทำงานประจำวันก็เหนื่อยมากแล้ว  จึงขาดการพัฒนาความรู้ทางการเงินและการลงทุน นอกจากนี้ความรู้ที่ได้เรียนมาจากสถานบันการศึกษาก็ไม่ได้สอนเรื่องเงิน ฟังดูเหมือนว่าเงินๆ ทองๆ และการลงทุนเป็นเรื่องยาก  จึงไม่สนใจใคร่รู้ที่จะเรียนรู้ นอกจากจะไม่มีเงินเก็บแล้ว ยังทำให้เงินที่พอมีเก็บไว้บ้าง มีค่าลดน้อยลงทุกๆปี

          ถึงแม้ว่าการทำงานประจำจะให้ความมั่นคงและหากต้องการเงินเพิ่ม ก็สามารถทำโอทีได้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ตลอดไป แถมยังมีความเสี่ยงมากมาย เช่น การถูกจำกัดชั่วโมงโอทีและข้อเสียการทำโอที จะไม่สามารถวางแผนเวลาให้กับสิ่งอื่นๆได้เช่น ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ไม่มีเวลาดูแลครอบครัว จึงทำให้ชีวิตขาดความสมดุล  “not work life balance” ที่สำคัญธุรกิจใหญ่ๆ ก็สามารถล้มได้ภายในชั่วข้ามคืน

        ดังนั้นความรู้ทางการเงินจึงเป็นเรื่องจำเป็น ที่มนุษย์เงินเดือนต้องรู้ โดยสามารถปรึกษาผู้รู้หรือคนเชี่ยวชาญด้านการเงินช่วยแนะนำเช่น อ่านหนังสือทางการเงิน ดูทีวี ฟังวิทยุ หรือเข้าร่วมฟังสัมมนาต่างๆ นอกจากนี้ปัจจุบัน ยังมีนักจัดการทางการเงินมืออาชีพช่วยดูแลและสามารถจัดการด้านการเงินแทนเราได้

          ประโยชน์จากความรู้ด้านการเงินและการลงทุน ยังช่วยทำให้เรากลายเป็นคนใช้เงินเป็น คุณภาพชีวิตดีขึ้น  มนุษย์เงินเดือนสามารถนำเงินที่ได้จากค่าแรงไปลงทุนซื้อทรัพย์สิน ที่ให้ตอบแทนในรูปแบบของเงินสด เป็นเทคนิคการ ให้เงินทำงาน เพื่อทำให้เงินงอกเงย เมื่อมีทรัพย์สินมากยิ่งขึ้น จนไม่จำเป็นต้องไปทำงานเพื่อแลกกับเงินอีก ก็จะกลายเป็นคนที่มีมั่งคั่งทางการเงินและสามารถออกจากงานก่อนวัยเกษียณได้  นี่คือเป้าหมายของชีวิตมนุษย์เงินเดือน อย่างเราสามารถทำได้

        ให้เงินทำงาน แทนการทำงานอย่างหนักด้วยแรงงาน  ด้วยเคล็ดลับสร้างความมั่นคงทางการเงิน ฉบับบมนุษย์เงินเดือน ที่นักวางแผนทางการเงิน Jerry Lynch ได้กล่าวไว้ดังนี้

ให้เงินทำงาน

ให้เงินทำงาน

7 เทคนิคทางการเงิน ให้เงินทำงาน แบบมนุษย์เงินเดือนควรรู้

    1. ก่อนที่จะให้เงินทำงานได้ ต้องเรียนรู้วิธีลงทุน  โดยทั่วไปแล้ว คนรวยมักมีจุดกำเนิดความร่ำรวย มาจาก 4 ด้านด้วยกันคือ

  • การได้รับมรดกตกทอด จากรุ่นสู่รุ่น คุณปู่โอนให้พ่อ พ่อโอนให้ลูก เป็นธรรมชาติที่คนรวยมักจะรวยขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนรวยรวยมักได้รับการถ่ายทอด ความรู้ด้านการเงินการลงทุน ที่สอนให้กับรุ่นถัดไปได้ และนอกจากนี้ยังมี Connection กับคนรวยด้วยกัน

  • การลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ บ้านทำเลทอง ที่ดินขนาดใหญ่ คนรวยในอดีตถึงปัจจุบัน จึงมักครอบครองที่ดิน ที่มีมูลค่ามหาศาลแล้วหาประโยชน์จากที่ดินนั้นเช่น ให้คนอื่นเช่า แบ่งเป็นแปลงย่อยขาย สร้างคอนโด บ้านเช่า

  • การทำธุรกิจก่อตั้งบริษัทขนาดใหญ่โตและมีระบบในการจัดการ สามารถจ้างคนที่มีความรู้ ความชำนาญ ใช้มืออาชีพทำงานให้ตนเอง คนมีความรู้จะช่วยสร้างและพัฒนาระบบในการจัดการ ทำให้บริษัทเจริญเติบโต และมีกำไรอย่างต่อเนื่อง

  • การออมเงินในปริมาณมาก ในระยะเวลาที่ยาวนาน คนรวยประเภทนี้ยุคปัจจุบันทำได้ค่อนข้างยาก เพราะการออมเงินด้วยการฝากธนาคาร ไม่สามารถทำให้ตนเองรวยได้  แต่การออมก็ยังเป็นเทคนิคพื้นฐานสำหรับคนรวย แต่ต้องเปลี่ยนรูปแบบการออม ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจเช่น ออมในหุ้น

         จุดกำเนิดความร่ำรวยคือ วิธีการสร้างเงินของคนรวย ตามความถนัดและความสามารถทักษะของแต่ละคน ปัจจุบันความรู้ในการลงทุน สามารถค้นคว้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีต้นทุนที่ถูกมาก สามารถเข้าไปอ่านสอบถามเรียนรู้จาก Google ได้ เพราะมักจะมีคำตอบให้ทุกคำถาม  อย่างเช่น เรามักได้ยินบ่อยครั้งกับคำว่า อิสภาพทางการเงินจากการมีรายได้แบบ Passive Income นั่นคือสามารถหยุดทำงานได้ โดยที่รายได้ไม่หยุด

          กระแสการลงทุนในธุรกิจที่กำลังมาแรง คือ E-commerce การค้า-ขายออนไลน์ แต่ที่กำลังแนะนำต่อไปนี้คือ การลงทุนในตลาดทุน เป็นการลงทุนแบบให้เงินทำงาน แล้วให้ผลตอบแทนที่สมเหตุสมผล ซึ่งรายได้จะมาจากการปันผล เงินปันผล หุ้นปันผลและส่วนต่างราคาจากการขายหุ้น แต่การลงทุนในหุ้น  โดยส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จต้อง “ลงทุนระยะยาว” ถึงจะกลายเป็นผู้ชนะในตลาดได้ และต้องลงทุนแบบผู้มีความรู้การลงทุน แหล่งความรู้เรื่องหุ้นที่เหมาะสมสำหรับผู้เริ่มต้นได้แก่ www.tsi.com,www.settrade.com เป็นต้น

         2.  ก่อนจะให้เงินทำงานต้องออมเงิน การเก็บออมเป็นจุดเริ่มต้นของเศรษฐีได้ ความรวยจากการออมในปัจจุบันไม่เป็นเหมือนในอดีต เพราะดอกเบี้ยจากการฝากเงินในอดีตสูงมาก รูปแบบการออมในรูปแบบเดิมๆ ด้วยวิธีนำเงินไปฝากไว้ในธนาคารอย่างเดียวคงไม่ได้แล้ว  เพราะการที่ดอกเบี้ยต่ำ มันจะไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ จึงทำให้มูลค่าเงินของเราลดลง การออมที่มีความเหมาะสมกับยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้คือ ออมในหุ้น หรืออมด้วยการซื้อสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ แต่ผลตอบแทนการลงทุนนั้น จะต้องไม่น้อยกว่า อัตราเงินเฟ้อที่เฉลี่ยประมาณ 3 % กว่าๆต่อปีได้  เคล็ดลับการออมในหุ้นง่ายๆเช่น การซื้อกองทุนรวม LTF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  RMF เพราะยังมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลการลงทุน

         ข้ออ้างสำหรับคนไม่ได้ออมเช่น รายได้ไม่มาก ยังมีภาระเยอะต้องใช้หนี้อีกมากมาย ลูกยังเล็กค่าใช้จ่ายเยอะ ขอผ่อนบ้าน-ผ่อนรถให้หมดก่อน หากมีเงินเหลือใช้แล้วจึงค่อยเก็บออม  ซึ่งเป็นนานาเหตุผล

        ซึ่งเคล็ดลับสำหรับคนชอบออมคือ ต้องออมให้เป็นนิสัยคือ เมื่อได้รับเงิน ต้องออมก่อนที่จะนำเงินไปใช้จ่าย การเก็บออมขอให้ทำเป็นประจำ ต่อให้เกิดวิกฤตก็ต้องออม  ข้อคิดของการออมคือ คนเรามีความสามารถบริหารจัดการเงินดีได้ หากมีรายได้น้อยก็ยังสามารถบริหารเงินให้เพียงพอต่อการใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพราะถึงแม้ว่าจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น  เราก็ยังสามารถใช้เงินได้หมดเช่นกัน ดังนั้นให้เราออมเงินก่อนที่จะนำไปเป็นค่าใช้จ่าย

           3.  ให้เงินทำงาน ต้องสร้างแผนสำรองเสมอ เป็นการสร้างแผนเพื่อเอาไว้รับมือในกรณี ที่ผลลัพธ์จากการลงทุน ไม่เป็นไปตามสิ่งที่คาดการณ์ไว้ เพราะโลกปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ สังคม เกิดขึ้นรวดเร็วมาก นั้นต้องสร้างแผน เพื่อรองรับความปกติจากการเปลี่ยนแปลง สมมุติแผน X เราสามารถใช้ได้ดี  แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป เรามักจะพบว่าแผนนั้นไม่สามารถ ให้ผลลัพธ์ตามที่เราต้องการได้ จากเหตุการณ์นี้ คนที่ประสบความสำเร็จโดยส่วนใหญ่ มักจะขจัดความไม่แน่นอนหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตไว้เสมอ และสำหรับคนที่ให้เงินทำงาน ต้องมีเทคนิคพื้นฐาน การแบ่งเงินเป็นก้อนหลายตะกร้า เพื่อลดความเสี่ยง และที่สำคัญก้อนเงินสำหรับลงทุนต้องเป็นเงินเย็น เพราะการลงทุนต้องอาศัยเวลา

            4. ให้เงินทำงานต้องเริ่มต้นให้เร็ว ช้าอย่างเต่าชนะเสมอ  หมายถึงให้เริ่มต้นลงทุนทางการเงินเมื่ออายุยังน้อย เพราะความสำเร็จ มักต้องการเวลาเสมอ การลงทุนต้องอาศัยการเรียนรู้และประสบการณ์  พยายามศึกษาหาความรู้การเงินการลงทุนเพิ่มเติม  เพราะการเก็บออมและการลงทุนได้เร็ว ยังมีเวลาเหลือพอที่จะได้เรียนรู้และการใช้บทเรียนจากความล้มเหลวไปสร้างโอกาสแห่งความสำเร็จ อายุยังน้อยสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงได้ จึงมีโอกาสทำให้ทรัพย์สินมีการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ 

           5. ให้เงินทำงาน ต้องมีคนเก่งคอยช่วย เป้าหมายการทำงานของ Jerry Lynch ก็คือ “เป็นคนที่โง่ที่สุดในที่ทำงาน” เพราะนั่น หมายความว่าเขาได้อยู่ท่ามกลางคนเก่ง มีคนฉลาดมากมาย ที่ช่วยทำให้ทุกการตัดสินใจใหญ่ๆ ของเขามักมีสุดยอดที่ปรึกษา คอยชี้แนะก่อนลงมือทำการสิ่งใด เพราะไม่มีใครเก่งทุกเรื่อง ดังนั้นการ ยอมรับข้อจำกัดของตนเอง ย่อม จะทำให้เราสามารถดึง ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ มาช่วยทำให้ทุกการตัดสินใจ ดียิ่งขึ้น มีความละเอียดรอบคอบมากยิ่งขึ้น ความเสี่ยงก็จะน้อยลง โอกาสประสบความสำเร็จก็จะยิ่งมีมากขึ้น วิธีร่นระยะเวลาในการสร้างเงินเช่น ให้เงินทำงาน จากวิธีลงทุนในหุ้นคือ การใช้ผู้เชี่ยวชาญชี้แนะแนวทางแห่งความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ทักษะด้านต่างๆเช่น ความรู้ด้านเทคนิคและคุณภาพ การวิเคราะห์ตัวเลขและประเมินงบทางการเงิน

          6.  ให้เงินทำงานต้องปฎิเสธ แทนที่จะตอบรับเมื่อไม่พร้อม จะทำให้เรามีเงินเหลือมากขึ้น การเจรจาหรือการสนทนาทางธุรกิจ อาจไม่ใช่ข้อตกลงที่ดี ในช่วงเวลานั้น ซึ่งไม่เหมาะสมที่เราจะตัดสินใจเซ็นต์สัญญา เมื่อรู้ว่าไม่พร้อมหรือผลลัพธ์จากการเจรจา มันไม่ช่วยทำให้เราได้รับผลประโยชน์ที่มีคุณค่ามากพอ เราควรนำข้อมูลกลับมาศึกษาเรียนรู้มันใหม่   แล้วค่อยเริ่มต้นกระบวนการต่อรองใหม่อีกครั้ง จนกว่าเราจะได้ในสิ่งที่ต้องการจริงๆ เพราะนั่นย่อมดีกว่าการเสียเงินไป กับเรื่องที่เราได้ผลตอบแทนที่ต่ำ ตัวอย่างเช่น การตัดสินใจและการเลือกช่วงเวลาในการลงทุนหุ้น ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ หากราคาหุ้นตัวที่เรากำลังสนใจแพงจนเกินไปก็ควรปฏิเสธ แล้วรอโอกาสใหม่

           7.  ให้เงินทำงาน ต้องเข้าใจว่าทุกอย่างมันมีโอกาส มีความเป็นไปได้ ที่จะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ได้เสมอ  การมีความละเอียดรอบคอบและการศึกษข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงมือทำ เช่น ก่อนที่ทำเงินจากการให้เงินทำงาน ในหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง ต้องรู้ว่าอะไรที่มันเป็นไปได้บ้าง แล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เมื่อเราลงทุนไปแล้วระยะเวลาหนึ่ง สำคัญอยู่การมีแผนรองรับ และคอยเฝ้าระวังในสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ การเตียมความพร้อมให้ครบทุกๆด้าน ทั้งความฉลาดทางด้านปัญญาและความฉลาดทางด้านอารมณ์

บทความที่น่าสนใจ  อาชีพที่สามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income

You may also like...

1 Response

  1. มีนาคม 9, 2020

    buy viagra

    WALCOME

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *